4 กุมภาพันธ์ 2553 16:32 น.
นายตุ้ม
ไกรทอง ภาคพิเศษ
บทที่ 5 ไกรทองมาแล้ว
นายตุ้ม คลองสามวา
(พระพิจิตรพูด) เรื่องลูกสาว หนาวสุด ฉุดทุกสิ่ง
ขอกล่าวอิง ยิ่งเอ่ย เผยอ้างโอ่
ชาดำต้อง ร้องตกต่ำ ทำใหญ่โต
ชอบเฉี่ยวโชว์ โก้เฉือน เหมือนไชชอน
(นางสาครพูด) เรื่องลูกรักหนักใจ ได้เสียวซ่าน
อกอ่วมอานนานเนาว์เก่ากรรมก่อน
ทุกข์ท้อแท้แย่ยักตักเตือนตอน
ยุ่งยากย้อนอ้อนเอ่ยเผยผ่าพลัน
(ลูกน้องพูด) ด้วยพ่อหมอจระเข้เป๋ไปบ่อย
ชาดำสอยคอยลดเลี้ยวเสียวครับนั่น
ต่างล้มหายวายชนม์จนจาบัลย์
ชาละวันมันซ่าส์สุดจุดท้าทาย
(พระพิจิตรพูด) บ่งบอกได้ไขขานท่านเจ้าเมือง
ชาทำเรื่องเฟื่องนักช้ำแหนงหน่าย
ลูกสาวผมขมขื่นข้องต้องมาตาย
เรื่องเลวร้ายหมายบอกไม่หลอกจริง
(เจ้าเมืองพิจิตรพูด) ไม่ต้องกลัว ชัวร์ป๊าปทราบแล้วเปลี่ยน
ชาดำเฮี้ยนเสี้ยนอยู่รู้ทุกสิ่ง
เคยจับยามสามตาว่าเอ่ยอิง
หนึ่งหนุ่มหนิงยิ่งยุทธสุดกล่าวชม
บอกคุณพระตะเภาทองมองถ้วนถี่
ดูยังมีชีวิตคิดเหมาะสม
ชาละวันมันชอบชักรักนิยม
ต้องตัดปมล้มหายหมายบอกมา
(พระพิจิตรพูด) รู้อย่างนี้คลี่คลายหายใจชื่น
ความขมขื่นตื่นเต้นเล่นเริงร่า
ยิ่งแย้มยิ้มอิ่มเอมเปรมปรีดา
เพลิดเพลินพาสาครจรจากแจว
(พระครูคงพูด) บอกข้อความถามไถ่ไกรทองหนึ่ง
แจ่มจ้าจึงซึ้งสุดนุชน้องแก้ว
โชคสองชั้นภรรยาว่าแนะแนว
บุญเอ็งแล้วแพรวพราวสาวสี่นาง
จะได้ลาภทราบชัดสัตว์สี่เท้า
ออกแบบเบาเว้าดีมีความต่าง
บอกศิษย์รักปักใจให้ปล่อยวาง
นอนแนบข้างอ้างอยู่คู่ครองเคียง
(ไกรทองพูด) รบครั้งนี้มีแต่ย้ำคำว่าชนะ
สาวสวยสระตะเภาแก้วแล้วขอเสี่ยง
จารย์พ่อคงบ่งใบ้ไม่เอนเอียง
รู้รอบเลี่ยงเพียงพอขอบอกเลย
จะจดจำคำสอนก่อนทุกครั้ง
อย่างจริงจังฟังสุนทรอ้อนอ้างเอ่ย
ดีจะทำย้ำชั่วห่างอย่างก่อนเคย
ชมชื่นเชยเผยพ่อครูอยู่เป็นทุน
จะมีเมียเคลียรบอกได้ไม่เกินโหล
ชอบเฉี่ยวโชว์โล้เลือนล่างอ้างอบอุ่น
ศิษย์พ่อคงบ่งยืนยันฉันขอบคุณ
ลองรักลุ้นจุนเจือเชื่อชั้นชวน
(ท้าวรำไพพูด) ชาดำเย็นเป็นตัวทำจำคำปู่
ไม่ได้ขู่รู้บ้างทางปั่นป่วน
ถ้ำจะลุกสุกเพราะไฟไม่นิ่มนวล
เห็นสมควรจวนเจาะเพราะแพ้ภัย
คืนเขาซะตะเภาทองร้องร่ำร้อน
เพื่อผัดผ่อนย้อนยืดเย็นเป็นคุณให้
หากจุนเจือเหลือแต่ซากฝากเยื่อใย
เจ็บจุกใจไปแน่แพ้พ่ายพัง
(ชาละวันพูด) จะเป็นตายร้ายสุขรุกหรือรับ
ถูกโขกสับยับเยินเกินคำสั่ง
ความเป็นตายพ่ายแพ้แย่ยุ่งยัง
ชอกช้ำชังฝังชื่อชาว่าชวนเชิญ
(ท้าวรำไพพูด) เมื่อไม่ยอมพร้อมพา ลาก่อนแล้ว
เพราะถ้ำแก้วแววอดสูปู่อ้างเอิ้น
ใกล้ย่อยยับอับปางต่างมองเมิน
กลัดกลุ้มเกินเดินเดี่ยวเปลี่ยวเปล่าแปร
(บรรยาย) ขอย้อนเล่าเว้าทุ่มหนุ่มไกรทอง
เมื่อเมียงมองร้องถามนามหนึ่งแน่
บ้านนี้ไซร้ใช่ไหมลูกถูกรังแก
ชาละวันมันแย่แส่เสือกทราม
(ไกรทองพูด) ผมจะมาอาสาว่าปิดป้อง
ชาดำต้องม่องย้ำทำหื่นห่าม
ผมไกรทองร้องบอกบ้างร่างงดงาม
ต้องติดตามถามไถ่ไอ้ชาดำ
(พระพิจิตรพูด) พ่อหนุ่มน้อยฝอยจังยังเล่นลิ้น
ซื่อเซ่อซ่าส์ชามันกินสิ้นชื่อต่ำ
กลับไปบ้านทานนมกล่องจ้องจดจำ
ไอ้ชาหม่ำยำให้ได้ต่อเติม
ฉันสงสารขานขอพ่อหนุ่มน้อย
พูดเลื่อนลอยถอยไปไม่พูนเพิ่ม
สงสารหลอกบอกบ่งตรงตามเดิม
กลับบ้านเริ่มเสริมพลังวันหลังมี
(ไกรทองพูด) พ่อดูถูกลูกเขยเลยหรือนั่น
ไกรทองขันสรรสร้างสุขทุกถิ่นที่
หนุ่มเมืองนนท์คนกล้าอย่าราวี
ต้องต่อตีมีมัดจำย้ำแก้วเภา (ตะเภาแก้ว)
ถ้าไม่ยอมพร้อมส่งยิ้มอิ่มอกแย้ม
หลายอย่างแถมแต้มถี่ถ้วนกวนขี้เถ้า
หนุ่มเมืองนนท์คนนี้หนึ่งซึ่งนานเนาว์
กลับบ้านเราเว้าบ่รื่นขื่นคนรวย
ทานนมกล่องต้องกราบก้มผมบ่ใกล้
ของแท้ใช่ใจผมชอบตอบขอช่วย
เล่นตัวอ้างอย่างนี้อู้หมูในอวย
ดูดีด้วยสวยแล้วดื้อถือดุดัน
4 กุมภาพันธ์ 2553 16:26 น.
นายตุ้ม
ไกรทอง ภาคพิเศษ
บทที่ 4 พายุอารมณ์
นายตุ้ม คลองสามวา
(ตะเภาทองพูด) พ่อจ๊ะ ตะเภาทอง
พร้อมกับน้อง ต้องสับสน
ร้อนจัง ทั้งสองคน
เหมือนต้องมนต์ ทนทื่อทาน
บอกพ่อ ขอญาติหน่อย
อ้างเสียงอ่อย ค่อยบอกผ่าน
อาบน้ำ ฉ่ำชื่นนาน
ที่ใกล้บ้าน ขานเฉยเมย
(พระพิจิตรพูด) ลูกพ่อ ขอบอกเล่า
หลายคนเขา เฝ้าอ้างเอ่ย
ถูกงาบ คาบไปเลย
คนคุ้นเคย เผยบอกจริง
มันกิน สิ้นกังขา
ทองแก้วจ๋า ชาผีสิง
ขอห้าม ปรามท้วงติง
สองลูกหญิง ยิ่งต้องฟัง
(ตะเภาทองพูด) บอกพ่อ ขอแค่นี้
ทำรอรี มีคำสั่ง
ถึงห้าม ปรามเสียงดัง
ยุ่งยากยัง ลังเลเรา
ขอไป ไม่สนดื้อ
คำเล่าลือ ถือผิดเผา
ร้อนเหลือ เพื่อบรรเทา
บอกบางเบา เข้าข้างนาง
(ตะเภาแก้วพูด) ไปกัน ฉันน้องพี่
มากมายมี ดีหลายอย่าง
พ่อข้อง จ้องจืดจาง
สองสาวส่าง ต่างตื่นตาม
เล่นน้ำ ฉ่ำชื่นซึ้ง
แจ่มแจ๋วจึง ถึงข้อห้าม
พี่เลี้ยง เสี่ยงพองาม
เยือกเย็นยาม นามชาละวัน
(ชาละวันพูด) เสร็จแน่ แม่เนื้อนิ่ม
เอวอกอิ่ม ยิ้มเยาะขัน
ตะเภาทอง ผ่องโสพรรณ
มุ่งหมายมั่น ฉันรอคอย
ปากคาบ ซาบซึ้งสุด
ผ่องผาดผุด สุดสร้างสอย
กลับถ้ำ ล้ำเลิศลอย
ทองน้องน้อย ปล่อยความใน
(วิมาลาพูด)หลงรักภักดี
มากมายหลายที
ชาดำทำใหญ่
พาสาวเข้าถึง
ลมป่วงหวงหึง
ดีเด็ดเผ็ดได้
แย่ยากจากใจ
ทุกข์เศร้าเหงาไป
โอ้วิมาลา
(ชาละวันพูด) พี่รักปักจิตร
บอกให้ได้คิด
หยุดขวางทางซ่าส์
หากยุ่งตุงนัง
จ้องจุ้นขุ่นขัง
เจ็บจุกทุกท่า
หลากหลายหมายพา
เมื่อมีดีมา
รั้งรอพอเพียง
(เลื่อมลายวรรณพูด)วรรณช้ำย่ำแย่
ชาชังรังแก
เด็ดดึงถึงเสี่ยง
เกลือกลั้วตัวดี
แส่สื่อหรือนี่
บอกให้ไม่เกี่ยง
กากเดนเอนเอียง
สองตบหลบเลี่ยง
กลัดกลุ้มรุมทอง
(วิมาลาพูด) วิมาลาร่ำร้อง รำพัน
เธอแย่งผัวชาฉัน กล่าวก้อง
ชวนเราช่วยลงทัณฑ์ กันหน่อย
บอกเลื่อมลายวรรณต้อง ต่อต้านตามเคย
(เลื่อมลายวรรณพูด) ลุยแหลกเลยบ่งชี้ ชอบชน
ตบเพื่อสางบางคน ป่นแป้ง
บุกถึงถิ่นยินยล ยอมแย่
สอนสั่งแนะและแกล้ง เพื่อพร้อม พอดี
(ชาละวันพูด) จงหยุดทีพี่เอิ้น ลายวรรณ
ทองไม่ผิดคิดยัน อยู่แย้ม
กลอนไทยช่วยกีดกัน สักหน่อย
บอกบ่งเสริมเติมแต้ม เพื่อชี้บอกนา
(แฟนกลอนไทย) วิมาลาว่ารู้ บอกเลย
หลายเรื่องแบบแอบเผย เอ่ยอ้าง
ชาชอบชั่วชดเชย กรรมก่อ
คิดใคร่ครวญกวนบ้าง ต่างต้องติดตัว
(ตะเภาแก้วพูด)พ่อค่ะตะเภาทอง
ชาจับจอง ร้องไปทั่ว
คาบไป ไม่เกรงกลัว
ต้องตัดหัว ชั่วช้าชัง
ชาเย็น เป็นตัวก่อ
บอกคุณพ่อ ขอขุ่นขัง
ปราบปราม หยามเราจัง
รกรุงรัง ยังยืดยาว
(พระพิจิตรพูด) ชะช้า ชาดำฝาก
มันมักมาก อยากเป็นข่าว
ชาดำ ทำเรื่องราว
คาบลูกสาว หนาวเหน็บนาย
ออกข่าว ป่าวประกาศ
คนสามารถ อาจรวยร่าย
เงินทอง ของใช้สบาย
มุ่งมั่นหมาย จ่ายเป็นทุน
บอกแจม แถมเภาแก้ว
เน้นแน่แน่ว แจ๋วอบอุ่น
ยำใหญ่ ไอ้ชาตุน
คนมีบุญ หนุนแน่นอน
(ตะเภาแก้วพูด)ขอจบ พบกันใหม่
ทั่วทิศไทย ได้สุขก่อน
จุนเจือ เอื้ออาทร
กุมภาร้อน ผ่อนพ้นพา
ความผูกพันนั้นต้อง ตราตรึง
เสมือนดั่งจิตคิดถึง กล่าวได้
ยามเหินห่างมากจึง เป็นห่วง
รักรื่นเลยเผยให้ หมั่นใช้พุทโธ
3 กุมภาพันธ์ 2553 16:22 น.
นายตุ้ม
บทกวีเพื่อชีวิต
ไกรทอง ภาคพิเศษ
เรื่องเล่า
นายตุ้ม คลองสามวา
บทที่ 3 ชาละวันมาแล้ว
บรรยาย
ร้อนแล้วแจ๋วทั้งคู่
การต่อสู้รู้หน้าที่
พันวังยังต่อตี
มากมนต์มีที่แท้ทน
โคจรสอนแกมสั่ง
เพราะมากพลังยังเปี่ยมล้น
วังแย่แพ้พ่ายตน
เจ็บจุกจนป่นปี้ปลาย
(พญาพันวังพูด) วังลาก่อน อ้อนแอ่ว แล้วน้องพี่
มากมนต์มี ชี้ชวนชม ผมแพ้พ่าย
ถูกโคจร สอนมวย ด้วยอับอาย
ต่างต้องตาย วายชนม์ จนเจ็บใจ
(ท้าวโคจรพูด) เรียบร้อยสอยเสียแล้ว
เหมือนกินแห้ว แววสดใส
ล่องกลับ นับชื่นใจ
ฝ่ายเหนือได้ ให้ปรีดา
(บรรยาย) ไม่นาน พาลอ้างโอ่
ท่านท้าวโค โซหมดท่า
ชีพดับ นับโรยรา
บอกดินฟ้า ลาก่อนยาว
ดาวดับดวงล่วงแล้ว โคจรจากจริง
แรงเริ่มลดลิดรอน ล่อนล้า
เหน็บหนาวแน่หนอนอน นานหน่อย
ภพใหม่เถิดเกิดข้า สั่งฟ้าอาวรณ์
(ชาละวันพูด) โคจรจากพ่อสิ้นลมลง
เกิดแก่เจ็บตายคง กล่าวได้
ความดีชั่วยืนยง ยังอยู่
เชิงเชี่ยวชาญขานไว้ ไม่โม้โคจร
(ท้าวรำไพพูด) หลานปู่กู่ก้องกล่าว
ชาดำเจ้าเว้าโอนอ่อน
สืบสานผ่านขั้นตอน
เอื้ออาทรผ่อนพ้นพอ
ยกให้ได้ครอบครอง
บอกพี่น้องของเราต่อ
เป็นใหญ่ได้รั้งรอ
การเกิดก่อขอให้คำ
เมืองนี้มีอาถรรพ์
ชาละวันกันตกต่ำ
มากเมียเพลียประจำ
ปู่แนะนำทำแต่ควร
(ชาละวันพูด) ปู่จ๋าชาดำบอก
ไม่ลวงหลอก นอกในป่วน
รักดีมีทบทวน
การก่อกวนล้วนแหลกลาน
ขอบคุณอุ่นอกไอ
ปู่ยกให้ ไม่บอกผ่าน
ให้เห็นเป็นตำนาน
ยืดหย่อนยานปานเปลี่ยนแปร
ปู่ครับรับรองเลย
อ้างเอื้อนเอ่ยเผยผิดแผ่
รุกรานพาลรังแก
ไม่ทำแน่แค่ครอบครอง
มอเมีย เคลียแล้วจ้า
เมื่อมีมาว่าขุ่นข้อง
หนึ่งโหลโชว์ก่ายกอง
ต่างไตร่ตรอง น้องนวลนาง
(ท้าวรำไพพูด) หลานชาลาก่อนเน้อ
ผิดพลาดเผลอ เจอสะสาง
ปู่เห็น เลนส์เลือนลาง
บอกแบบบาง ต่างต้อยตาม
(ชาละวันพูด)กล่าวถึง หนึ่งน้องนั้น
ยังยืนยัน วันขอข้าม
สวยซื่อ ลือเลื่องนาม
ปากเปล่าปราม ความพอเพียง
ชื่อเล่าตะเภาทอง
สวยน่ามอง ลองลักเสี่ยง
ครองคู่ รู้เรียบเรียง
วันไม่เกี่ยง เพียงพอพึง
กลอนกลบท เบญจรงค์ห้าสี
(ชาละวันพูด) เรื่องรักร้อน ย้อนยั่ว ยังยากยิ่ง
เจ็บจุกเจ็บจริง จืดจ้า ซ่าสุดซึ้ง
ชาชอกช้ำ ชี้ชวน ด่วนเด็ดดึง
น้องนางหนึ่ง ตรึงติด ต้องตรมตรอม
ตะเภาทอง น้องนี้ แน่นอนใน
มากแม้นไม่ มามี พี่ผ่ายผอม
อ้างโอ่อ่า อิงเอ่ย เย้ยยินยอม
เปลี่ยนแปรปลอม น้อมนำ น้องนวลนาง
รักรีรอ ท้อแท้ ทั่วทุกทิศ
เคยครุ่นคิด คลอเคล้า เย้าหยอกอย่าง
ล่องลอยลม เลยลา ว่าวายวาง
แล้วเลือนลาง ด่างด้อย ดันดับดวง
มากมายมั่ว ยั่วยับ เยินแย่ยิ่ง
กลับกลอกกลิ้ง เกริ่นกลอน หอนหาห่วง
ต้องติดตาม ต่อเติม เพิ่มผลพวง
บอกบนบ่วง ลวงเล่น เลิศแล้วเลย
เรื่องรักเรา เฝ้าฝัน ใฝ่ฝ่าฝืน
ครวญค่ำคืน คอยคิด อิดเอื้อนเอ่ย
เหลือหลากหลาย หลอกหลอน ค่อนคุ้นเคย
ชินชาเชย เย้ยย้ำ ย่อมยุแยง
รักเรียกร้อง ต้องเติม ตัดติดต่อ
กรรมเกิดก่อ กลไก ให้เห็นแห่ง
ชอบชาเชิญ ชี้ชวน ด่วนดินแดง
เบิกบานแบ่ง แต่งแต้ม เตือนตัดตอน
1 กุมภาพันธ์ 2553 16:48 น.
นายตุ้ม
ไกรทอง ภาคพิเศษ นายตุ้ม คลองสามวา
บทที่ 2 ลุยแหลก (ตอนลีลาภาษาไทย)
(บริวารพูด) ทักทายถึงท่านท้าว โคจร
เพราะเพื่อนเผลอถูกตอน ฝ่ายใต้
ยับเยินยิ่งถึงนอน ยังแย่ จริงนา
บอกท่านโคจรไว้ เพื่อให้ทวงมัน
(ท้าวโคจรพูด) ลุยแลกกันว่าเว้า บอกจริง
พวกฝ่ายเหนือแอบอิง เอ่ยอ้าง
เดินเด็ดเดี่ยวตักติง บอกบ่ง
กันเก่งเกินแกะก้าง ต่างต้องติดตาม
ลอยล่อง ท่องทั่วนที
รวดเร็วรี่ สี่สองสาม
เด็กน้อย ค่อยคุกคาม
ถึงไถ่ถาม นามนายหน่อย
ฉันหรือ ชื่อโคจร
อ้างโอนอ่อน สอนสื่อสอย
ฝ่ายเหนือ เชื่อรอคอย
บอกบ่นบ่อย ต่อยเตะตาย
(จรเข้น้อยพูด) เขาหรือ ชื่อพันตา
อ้างโอ่อ่า ซ่าส์สุดสาย
ยืนยัน ชั้นเชิงชาย
มุ่งมั่นหมาย คลายคล่ำเคย
ลึกเล่น เด่นดังได้
ก้องเกรียงไกร ไออ้างเอ่ย
หล่อลื่น ชื่นชมเชย
พึงผ่าเผย เย้ยเยาะยวน
(ท้าวโคจรพูด) ไปบอก ออกมาสู้
จะรออยู่ ชูหมัดสวน
ฉันนี้ ชี้เชิญชวน
สองฝ่ายป่วน กวนแผ่นดิน
(ท้าวพันตาพูด) ลวงหลอนหลอกเล่นแล้ว เรรวน หรือไร
เชิงเชี่ยวชาญเชิญชวน ชื่อชี้
เกิดกรรมก่อแกกวน เกินกล่าว
ลับเล่ห์ลึกหลีกลี้ ร่ายล้อมเลยลา
(ท้าวโคจรพูด) บอกพันตาว่าแก้ กฎกลาง กีดกัน
สองฝ่ายหมดบทวาง ต่างแต้ม
ทำถึงทั่วถากถาง ทนทื่อ
ยากยิ่งยอมยลแย้ม ย่อเย้ายืนกราน
(ท้าวพันตาพูด) รุกรานเราล่วงล้ำ หรือไร
บอกบ่งโคจรไว กล่าวก้อง
สุดแสนซ่ามาไกล กรรมก่อ แกนา
คิดขุ่นเคืองขัดข้อง ข่มข้าขอคลาย
(ท้าวโคจรพูด) เอ็งต้องกลับ นับแต่นี้ ซี้ซอมซ่อ
บ้านเก่ารอ ขอบ่ง คงแหนงหน่าย
เมืองพิจิตร คิดบอก ออกอับอาย
มุ่งมั่นหมาย ชายโคหรือ คือพ่อเมือง
(ท้าวพันตาพูด) เห็นเห่าหอน ย้อนยั่ว มั่วมากมาย
เมาน้ำลาย ขายขำ ยำฟูเฟื่อง
ฉันต่างหาก ฝากบอกมิตร คิดขุ่นเคือง
หลายร้อยเรื่อง เนื่องนับ รับเรื่องราว
(บรรยาย) สู้เจ็ดวัน ยันเจ็ดคืน ฝืนแข้งขา
แรงโรยรา พาพร่ำ ดำกลับขาว
ท้าวโคจร สอนมวย ด้วยยืดยาว
พันตาท้าว หนาวเหน็บ เจ็บจุดเจอ
ดวงดับดิ้น สิ้นชื่อ คือจบจาก
ยามแย่ยาก ฝากคำ นำเสนอ
บอกพันวัง ยังอยู่ สู้นะเออ
ซึมเศร้าเซ่อ เพ้อลา ว่าวายวาง
(ท้าวโคจรพูด) เอ็งมองหน้า ข้าทำไม ไอ้พันวัง
ข้าขุ่นขัง ฝังแน่น แค้นเคียงข้าง
ชอบเชิญชน สนได้ ไม่จืดจาง
เย้ายั่วอย่าง ต่างตรอง มองหมางเมิน
(พญาพันวังพูด) ไอ้โค โม้มากมา
เว้าวอนว่า ข้าขัดเขิน
ฝ่ายใต้ ได้ดูเดิน
เพื่อนเพลิดเพลิน เกินกล่าวกลอน
เอ็งเจ็บ เหน็บหนาวแน่
การเกิดแก่ แส่สั่งสอน
พักเผื่อ เอื้ออาทร
ยังยอกย้อน หลอนหลอกลวง
ตัวฉัน นั้นยิ่งใหญ่
ชอบชนใช้ ไม่ต้องห่วง
พันวัง ดังเด็ดดวง
เปลี่ยนแปรปวง ทวงทับโค
(ท้าวโคจรพูด) พันวัง ฟังฉันกล่าว
มึงมันเม้าท์ ยาวอ้างโอ่
พูดมาก อยากใหญ่โต
มากมายโม้ โก้เก่งไกล
ขอจบ พบบทหน้า
โคจรท้า อย่าผลักไส
หล่อสวย ด้วยน้ำใจ
ทั่วทิศไทย ให้โชคดี
นายตุ้ม คลองสามวา
ชมรมนักกวีเพื่อชีวิตคลองสามวามหากล
ชมรมนักกลอนบึงกุ่มวรรณศิลป์