18 เมษายน 2547 16:43 น.
นายกระต่ายขาว
อบอุ่นทุกครั้งครา
ทุกเวลาคิดถึงกัน
ด้วยรักและผูกพัน
แสนสุขสันต์ทุกวันไป
วันใดไม่เห็นหน้า
ในอุราแสนทุกข์ใจ
ห่วงหวงและอาลัย
ห่วงว่าใครจะห่วงแทน
18 เมษายน 2547 16:38 น.
นายกระต่ายขาว
อยากเป็นเช่นสายลมพัดเย็นจิต ลอยสะกิดคิดถึงก็พัดหา
อยากเป็นนกส่งเสียงก้องพนา คอยจ๊ะจ๋าเช้าเย็นอยู่ข้างตัว
อยากเป็นน้ำฉ่ำเย็นค่อยดับร้อน ได้ช่วยผ่อนตอนอาบไหลถ้วนทั่ว
อยากเป็นได้อย่างที่คิดแต่เกินตัว ขอแค่มั่วคิดฝันไปเอง
18 เมษายน 2547 16:25 น.
นายกระต่ายขาว
เมฆฝนคือราคีที่บังฟ้า
แต่เมฆาก็มีค่ามหาศาล
จอกแหนคือราคีนทีธาร
แต่กลับกันคืออาหารปันปูปลา
ความทุกข์คือราคีของชีวิต
ซึ่งบัณฑิตทุกผู้ย่อมรู้ค่า
อันความทุกทุกข์ที่ย่อมมีมา
คือกำลังผู้กล้ากาจทนง
ยาขมมีค่ารักษาโรค
ทุกข์และโศกมีค่ามาเสริมส่ง
เสริมให้แกร่งให้กล้าให้มั่นคง
เพื่อความจริงยืนยงคงชีวิต
ฟ้าต้องหลั่งน้ำตาก่อนฟ้าใส
ฝนตกแล้วฟ้าแจ้งสว่างทิศ
ทุกข์ระทมท้อแท้รอยแผลพิษ
อาจพิชิตพรุ่งนี้มีโชคชัย
เจ้าจงอยู่อย่างที่มีความหวัง
มีพลังกำลังใจและฝันใฝ่
อิสระต่อตัวต่อหัวใจ
แล้วจะไม่เสียน้ำตาเหมือนคราเป็น
18 เมษายน 2547 16:18 น.
นายกระต่ายขาว
อันความรักเป็นเหมือนอะไรหรือ
ลองคิดคืออะไรดั่งคนว่า
ซ้อนความเจ็บที่ใจปรารถนา
มีเหนื่อยล้าบนทางกุหลาบงาม
มีทรมานปนกลิ่นสีหอมหวาน
เป็นวิมานกลางนรกอยู่ให้ถาม
เป็นฝันร้ายที่น่าภิรมณ์ตาม
เป็นความการรอคอย....ชั่วชีวิต
18 เมษายน 2547 15:57 น.
นายกระต่ายขาว
เพชรน้ำค้างพร่างใสบนใบหญ้า
แสงแห่งฟ้าสาดประกายใส
มวลมาลีคลี่ประทินอวลกลิ่นไอ
เริ่มวันใหม่ด้วยตะวันนั้นปลุกฟ้า
ตื่นจากหลับรับแสงแห่งวันใหม่
แสงสีทองผ่องใสในโลกหล้า
เวียนวัยผันวันผ่านกาลเวลา
เราตื่นตารับวันอันเพิ่มวัย
กว่ามืดลบภพพื้นสู้คืนค่ำ
คลี่ม่านดำคลุมหล้าอีกคราใหม่
คือสัญญาณขารเราให้เข้าใจ
ชีวิตได้บรรจบครบคืนวัน
มีรุ่งค่ำย่ำผ่านเนิ่นนานนับ
ตื่นแล้วหลับวนเวียนไม่เปลี่ยนผัน
เป็กนหน้าที่ชีวิตนิจนิรันดร์
หน้าที่อันธรรมชาติกำหนดมา
แต่ชีพชนม์คนนั้นแสนสั้นนัก
เพียงครู่พักพบแสงแห่งอุษา
กว่าพักผ่อนนอนหลับลับทิวา
เมื่อเวลาต้องหลับนับนิรันดร์