29 กันยายน 2548 07:33 น.
นางสาวใบไม้
เมื่อเธอตั้งคำถามถึงความหมายของคำสองคำ
คำถามที่ตอกย้ำหัวใจคนรับฟังให้หวั่นไหว
ระหว่างคนหนึ่งคนที่ดีแสนดีกว่าใครใคร
กับอีกคนที่รักสุดใจใครจะมีความหมายมากกว่ากัน
หากนี่เป็นทางเลือกที่เธอเสนอให้...ชั่งใจ
แต่อีกความหมายคือการตัดสายใยระหว่างเธอกับฉัน
เมื่ออีกคนมองข้ามความหมายของความรักและผูกพัน
อีกหนึ่งคนจะอดทนต่อไปนั้น...จะมีประโยชน์อะไร
ฉันมีคำถาม...ฝากให้เธอกลับไปคิดเป็นการบ้าน
หากวันหนึ่งที่เธอร้าวรานเธอจะคิดถึงฉันบ้างไหม
หากไม่มีฉันสักคนเธอจะเงียบเหงาสักเพียงใด
หากต้องจบทุกอย่างที่เคยเป็นไปจะปวดร้าวไหมคนดี
ฉันไม่ได้ขอให้เธอตอบแทนความรักที่ฉันมีให้
แต่อยากให้เธอรับรู้เอาไว้ถึงความรู้สึกจากใจใครคนนี้
หากเลือกแล้วที่จะรักไม่ว่าคนคนนั้นจะดีหรือไม่ดี
ความรู้สึกที่เคยมีก็จะไม่มีวันแปรเปลี่ยนไป
แต่หากไม่ใช่คนที่บอกกับหัวใจว่าเป็นคนที่รัก
แม้ทำดีเป็นร้อยเท่าให้ประจักษ์ก็ไม่มีทางเทียบกันได้
คนหนึ่งคนจะแทนที่อีกหนึ่งคนได้อย่างไร
และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดูถูกน้ำใจของคนที่รักเธอ
มาวันนี้จึงรู้ซึ้งถึงหัวใจของคนที่รัก
เพิ่งได้รู้ว่าไม่เคยรู้จักคนที่เป็นหนึ่งในใจมาเสมอ
แต่จะยังคงย้ำคำเดิมว่าฉันจะไม่มีวันหยุดรักเธอ
แม้ในชีวิตอาจพบเจอ...อีกร้อยล้านคนที่แสนดี
26 กันยายน 2548 12:24 น.
นางสาวใบไม้
บทเพลงรักทำนองคุ้นละมุนหวาน
แม้เนิ่นนานยังซาบซ่านไม่จางหาย
ยังได้ยินวะแว่วมามิคลาคลาย
ย้อนรำลึกตรึกหมายทางสายเดิม
บทเพลงรักเคยกู่ก้องร่ำร้องหา
ทวนคำมั่นสัญญาครารักเริ่ม
ทุกคีย์คุ้นตอกย้ำเหมือนซ้ำเติม
สำเนียงเดิมไม่แปรผันยังมั่นใจ
โด...เร...มี...มีเธอฉันในวันก่อน
เคยเว้าวอนขับกล่อมว่าอย่าหวั่นไหว
ฟา...ซอล...ลา...ใครลาลับไม่กลับไป
เหลือทำนองอาวรณ์ไว้ตอนจากลา
บทเพลงรักเป็นเพลงลาคราต้องจาก
เหลือเพียงซากเศษใจให้ใฝ่หา
บทเพลงจบ..เงียบงันกลั้นน้ำตา
โด..เร.. มี..ฟา..ซอล..ลา...ล้าระทม
บทเพลงรักจบลงตรงลาจาก
เปลี่ยนทำนองเป็นพลัดพรากให้ขื่นขม
เสียงเพลงรักมลายไปในสายลม
ทุกข์ระทมฤาจบง่ายได้เหมือนเพลง
23 กันยายน 2548 14:38 น.
นางสาวใบไม้
ฝากลำนำคำรักที่ถักร้อย
แทนมาลัยราคาน้อยที่ด้อยค่า
เป็นของขวัญแทนใจในวันลา
ต่อแต่นี้คนไกลตาต้องลาไกล
จะไม่ลืมคำหวานซ่านตรึงจิต
จะไม่ลืมมิ่งมิตรเคยชิดใกล้
จะไม่ลืมวันวานที่ผ่านไป
จะไม่ลืมเคยมีใครห่วงใยกัน
แม้อาลัยด้วยสายใยตัดไม่ขาด
ตัดสวาทคงยากแท้เกินแปรผัน
ตัดเพียงตัวให้ห่างตัวเพียงชั่ววัน
แต่ตัดใจให้จากกันยังพรั่นใจ
เพราะเวลามีเพียงให้เคียงข้าง
แต่ร่วมทางเดียวกันเกินฝันใฝ่
จึงได้เพียงครึ่งฝันจำลาไกล
หลงเหลือไว้แค่รอยฝันในวันวาน
แทนถ้อยคำขอโทษโปรดลืมฉัน
โปรดลืมวันเก่าก่อนเคยอ่อนหวาน
ลืมเสียเถิดความหลังฝังดวงมาน
พบวันพรุ่งที่เบิกบานกว่าผ่านมา
.......................
16 กันยายน 2548 07:46 น.
นางสาวใบไม้
คนบางคน...เกิดมาเพื่อให้เรารัก
แต่ความจริงที่ต้องตระหนักเตือนตัวเองอยู่เสมอ
นั่นคือ...เธออาจผ่านเข้ามาเพียงเพื่อให้เราได้พบเจอ
แต่สวรรค์คงเผลอเรอที่ไม่ได้สร้างเธอมาเพื่อเป็นของเรา
ความรักในบางที...อาจมีไว้เพียงเพื่อให้เรียนรู้
เป็นแบบฝึกหัดไว้ต่อสู้กับความเหว่ว้าและเงียบเหงา
ซึ่งอาจไม่ได้มีเพียงเธอและฉัน..ในความผูกพันของเรา
แต่อาจจะเพิ่มเขา...บางคนเข้ามาทดสอบความเดียวดาย
หากหัวใจเข้มแข็งคงมั่นในกันและกันพอ
สักวัน...ความหวังที่เฝ้ารอก็คงมาถึงจนได้
แต่หากใครคนหนึ่งไม่อดทนต่อบางสิ่งที่เข้ามาท้าทาย
ความฝันที่มีก็คงพังทลายหายไปในพริบตา
แต่ความรักไม่เคยสูญสิ้นไปจากหัวใจ
ทุกชีวิตย่อมมีทางเดินแปลกใหม่ที่รออยู่เบื้องหน้า
หากเคยท้อแท้กับความปวดร้าวในวันวานผ่านมา
ขอให้ใช้น้ำตาเป็นบทเรียนล้ำค่า....สอนใจตน
คนบางคนเกิดมาเพียงเพื่อให้เราได้รักเท่านั้น
ก่อนที่จะผ่านไปกับคืนและวันโดยไร้ซึ่งเหตุและผล
อย่าปล่อยชีวิตทั้งชีวิตให้เปล่าดายเพื่อใครเพียงหนึ่งคน
แต่ขอให้อดทนกับบททดสอบ...โดยไม่ตีกรอบหัวใจ
ประตูแห่งความรักไม่เคยปิดตาย
กุญแจที่จะเปิดได้คือการยอมละวางทุกเงื่อนไข
เพราะในโลกของความรักไม่ต้องการข้อแม้ใดใด
เพียงยอมรับอย่างเข้าใจ...ว่าเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา
สักวันเมื่อได้พบกับคนของหัวใจ
เคยเจ็บปวดสักเท่าใดก็แค่บทเรียนแห่งความขลาดเขลา
แค่แบบฝึกเพื่อรักษาความรักครั้งใหม่ให้คงอยู่นานเนา
กับใครบางคนที่เกิดมาเพื่อเป็นของเรา....ทั้งชีวิตและจิตใจ
------------------------------------L-O-V-E--------------------------------
14 กันยายน 2548 08:15 น.
นางสาวใบไม้
ห นึ่ ง ค น ที่ มี ค่ า ก ว่ า สิ่ ง ไ ห น
ค น ที่ ทำ ใ ห้ ชี วิ ต มี ค ว า ม ห ม า ย
ห นึ่ ง ร อ ย ยิ้ ม จ า ก วั น แ ร ก ที่ ทั ก ท า ย
ฉั น ยั ง ค ง จ ด จำ ไ ด้ จ น ขึ้ น ใ จ
แ ว ว ต า เ ธ อ ทำ ใ ห้ หั ว ใ จ อุ่ น
ริ ม ฝี ป า ก นุ่ ม ล ะ มุ น ช ว น ห วั่ น ไ ห ว
น้ำ เ สี ย ง ทุ้ ม ทุ้ ม คุ้ น หั ว ใ จ
ฉั น ยั ง จ ด จำ ไ ด้ ทุ ก บ ท ต อ น
สั ม ผั ส ถึ ง อุ่ น ไ อ ใ น มื อ เ ธ อ
ค ร า ว เ ช็ ด น้ำ ต า เ อ่ อ ล้ น เ ปี ย ก ห ม อ น
อ้ อ ม แ ข น เ ค ย รั้ ง ใ ห้ ห นุ น น อ น
ยั ง จำ ร อ ย อ า ว ร ณ์ ติ ด ต รึ ง ใ จ
ทุ ก เ สี้ ย ว น า ที ที่ พ้ น ผ่ า น
ไ ม่ ว่ า น า น แ ส น น า น สั ก เ พี ย ง ไ ห น
ค ว า ม อ่ อ น ห ว า น ไ ม่ จ า ง จ า ก หั ว ใจ
แ ล ะ ง ด ง า ม อ ยู่ ไ ด้ แ ม้ เ งี ย บ งั น
แ ม้ เ ร า จ ะ ห่ า ง กั น ถึ ง ค รึ่ ง ฟ้ า
ค ง ทำ ไ ด้ เ พี ย ง ห ลั บ ต า เ ฝ้ า ฝั น
ภ า พ ค ว า ม ห ลั ง ยั ง แ จ่ ม ใ ส แ ม้ ไ ก ล กั น
ล ม ห า ย ใ จ ข อ ง ฉั น นั้ น มั่ น เ พี ย ง เ ธ อ
เ ธ อ เ ป็ น แ ร ง บั น ด า ล ใ จ ใ ห้ ฉั น
เ ป็ น ข อ ง ข วั ญ ที่ คื น วั น นำ เ ส น อ
ห า สิ่ ง ใ ด มี ค ว า ม ห ม า ย ไ ด้ เ ท่ า เ ธ อ
เ ป็ น ร า ง วั ล ย า ม เ จ อ ค ว า ม ท้ อ ใ จ
ฉั น ส ะ ส ม ทุ ก อ ย่ า ง ร ะ ห ว่ า ง เ ร า
เ พื่ อ เ ติ ม เ ต็ ม วั น เ ห ง า ใ ห้ ส ด ใ ส
ใ น วั น ที่ เ ร า อ ยู่ ห่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล
จ ะ เ ก็ บ ใ จ ไ ว้ จ น ก ว่ า ม า พ บ กั น