14 พฤศจิกายน 2548 11:26 น.
นางสาวใบไม้
แว่วคำหวานซ่านจิตว่าคิดถึง
ยังตราตรึงในกมลคนขี้เหงา
แค่หนึ่งคำเท่านั้นพอบรรเทา
ช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าให้เบาบาง
เพราะหนทางไกลห่างออกอย่างนี้
เพียงวจีตอบใจไม่เมินหมาง
แม้ห่างเหินก็เพียงแต่แค่เส้นทาง
เว้นที่ว่างไว้เพื่อเสริมเพิ่มแรงใจ
ห่างเพียงกายหากหัวใจไม่เคยห่าง
อาจมีบ้างที่อ้างว้างและหวั่นไหว
และบางทีรินน้ำตาคราเผลอใจ
ว่าคนไกลอาจเปลี่ยนใจไม่รักกัน
จึงเรียงถ้อยร้อยวาจามาเสนอ
เว้าวอนเธอเพียงว่าอย่าลืมฉัน
น้ำคำที่เคยสัญญาอย่าลืมกัน
ขอเธอนั้นยังคงมั่นดังคำวอน
10 พฤศจิกายน 2548 12:28 น.
นางสาวใบไม้
ช่วงเวลาแห่งความรักระหว่างคนสองคน
สำหรับฉัน...นั่นเป็นของขวัญค่ามากล้นที่ฟ้าส่งมาให้
คือความงดงามของดอกไม้ที่เบ่งบานภายในใจ
คือความสว่างไสวของหมู่ดาวพราวพรายในนภา
โชคชะตาทำให้เราเดินมาพบกัน
เพื่อซึมซับความผูกพันและเติมใจให้กันในวันที่อ่อนล้า
เพื่อซาบซึ้งกับความห่วงใยที่มอบให้แก่กันเสมอมา
ให้หัวใจได้เรียนรู้ว่า..ความรัก..ละมุนละไมเพียงใด
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคนคนหนึ่ง
จะเก็บไว้ทดแทนความคิดถึง...ในวันที่ไม่ได้อยู่ใกล้ใกล้
เมื่อถึงวันที่ต้องจากลา...แม้จะเสียน้ำตาสักเท่าใด
นั่นไม่ได้ทำให้...ความรักของฉันเปลี่ยนไปจากที่เคยมี
แม้ดอกไม้ในใจอาจเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง
เพราะความอ้างว้างทำให้หัวใจไหวอ่อนอย่างวันนี้
แต่ทุกอย่างยังคงบันทึกไว้ในความทรงจำที่แสนดี
ในสายลมที่พัดผ่านคืนนี้ฉันฝากคำอำลามาถึงเธอ....
2 พฤศจิกายน 2548 12:06 น.
นางสาวใบไม้
ผืนผ้าขาวพราวพิลาศสะอาดใส
คือดวงใจหอมละมุนกรุ่นกลิ่นฝัน
เจ้าแก้มอิ่มยิ้มละไมไร้จาบัลย์
เป็นตัวแทนแห่งวารวันอันงดงาม
ดุจไม้ดอกงอกงามตามวิถี
รอเบ่งบานในทุกที่ไม่มีขาม
จากดอกน้อยละลานตาใต้ฟ้าคราม
เติบโตขึ้นท่ามกลางหว่างมายา
มือต่อมือคอยโอบอุ้มเพื่อคุ้มเจ้า
ทะนุถนอมกล่อมเกลาเฝ้ารักษา
ด้วยอาทรห่วงหวงปานดวงตา
หวังเจ้ากล้าฝ่าผองภัยในคืนวัน
หนึ่งแบบฝึกเรียนรู้สู้ชีวิต
ปูเส้นทางการลิขิตอย่างสร้างสรรค์
ดุจลายสีเส้นสายปลายพู่กัน
แต้มแต่งฝันสู่วันหน้าอย่างท้าทาย
จากผ้าขาวสู่ผ้าลายหลากหลายสี
เป็นแพรดีเนื้อเยี่ยมเปี่ยมความหมาย
ถักน้ำตาทอยิ้มพาดวาดลวดลาย
เรื่อระบายลูกไม้ฝันอันเรืองรอง
หากเส้นสายแห่งรักถักแน่นหนา
ผ้าคงค่าสวยใสไร้รอยหมอง
ด้วยใยรักที่ทอถักจักคุ้มครอง
ผ้าชีวิตไม่เป็นสองรองผืนใด
31 ตุลาคม 2548 11:47 น.
นางสาวใบไม้
.....น้ำตาฟ้าร่วงมาคราเจ็บช้ำ.....
.....ฟ้าจึงร่ำร้องไห้เป็นสายฝน.....
.....เหตุใดเล่าทำให้เจ้าทุกข์ทน.....
.....จึงหลั่งรินเป็นสายชลปนน้ำตา.....
.....แล้วน้ำใสจากหัวใจใครคนหนึ่ง.....
.....มีที่พึ่งให้เอ่อไหลบ้างไหมหนา.....
.....ขอเถิดฟ้าขอฝากหยาดน้ำตา.....
.....ล้างอุราข้าให้หายตรอมตรม.....
.....ขอร้องไห้ครั้งนี้ทีสุดท้าย.....
.....กลางสายฝนโปรยปรายคลายขื่นขม.....
.....ฝากน้ำตาด้วยใจหมายหายระทม.....
.....ไม่อยากก้มหน้าร้องไห้เพียงดายเดียว.....
.....ฝากหยาดฝนที่ร่วงรินทุกถิ่นที่.....
.....ถึงคนดีที่ร้างไกลไม่แลเหลียว.....
.....ฝากน้ำฟ้าแทนน้ำตาอีกคราเดียว.....
.....คนเปล่าเปลี่ยวขอล้างใจในฝนพรำ.....
28 ตุลาคม 2548 15:33 น.
นางสาวใบไม้
เคยไหม...อยู่ดีดีก็อยากร้องไห้
ทั้งที่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าเหตุใดจึงอ่อนล้า
อาจเพราะสับสนกับหนทางที่ผ่านมา
หรือเป็นเพราะว่า...ฉันไม่ยอมรับความจริง
มันไม่มีทางจะกลับไปเป็นเช่นวันเก่า
เหมือนกับที่เราไม่สามารถทำให้โลกหยุดนิ่ง
ลืมเถิดนะ...ลืมคืนวันที่เคยแอบอิง
จบสิ้นแล้ว...ทุกสิ่ง...ไม่มีอะไรดีขึ้นมา
ใจเอ๋ย...เลิกหลอกตัวเอง...เสียที
ยอมรับสิว่าต่อแต่นี้...คงเหลือเพียงความเหว่ว้า
ลืม...ลืมให้หมด...ลืมทุกอย่างที่เคยเป็นมา
อยากร้องไห้ก็ร้องเถอะนะ..ดีกว่าให้น้ำตาท่วมหัวใจ
คงมีสักครั้งที่จะก้าวผ่านความปวดร้าว...ในวันนี้
เพื่อค้นหาความรู้สึกที่ดีแสนดี...ในโลกใบใหม่
คงอีกไม่นานที่หยาดน้ำตาจะเหือดแห้งหายไป
แล้ววันนั้นคงจะยิ้มได้...อย่างที่..เคยมีมา