30 มีนาคม 2553 09:32 น.
นางสาวใบไม้
๑. จากเด็กน้อยไร้เดียงสา...
กลางมายาของคืนวันอันสับสน
ค่อยลำดับประคับประคองตน
สู่วังวนโลกใบใหม่ในความจริง
๒. ค่อยก้าวย่างสู่เส้นทางวางชีวิต
เพื่อเรียนรู้ถูกผิดในทุกสิ่ง
แม้มีใครเพียงหนึ่งให้พึ่งพิง
ช่วยติติงเตือนตนบนหนทาง
๓. เด็กตัวน้อยค่อยจดจำคำที่สอน
ทุกบทตอนเป็นดังครูผู้คอยสร้าง
ทุกเส้นสีที่ระบัดค่อยจัดวาง
ผ้าผืนกว้างเป็นสีสันอย่างตั้งใจ
๔. ค่อยบันทึกทุกก้าวย่างที่ผ่านพ้น
อาจมีหม่นมีหมองต้องร้องไห้
อาจสักครั้งเสียน้ำตาไปมากมาย
แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้..คือบทเรียน
๕. แม้บางครั้งอาจเปื้อนเปรอะเลอะผืนผ้า
จากสีขาวพราวตาค่อยแปรเปลี่ยน
เพราะคืนวันเวลาพาหมุนเวียน
ต้องรอยเขียนหลากสีต่างที่มา
๖. ต้องสีทองหลังฝนคลายหม่นเศร้า
ต้องสีเทายามชอกช้ำพร่ำเรียกหา
ต้องสีดำยามทุกข์ซ้ำกระหน่ำมา
ต้องสีฟ้ายามท้อแท้แปรเปลี่ยนไป
๗. จึงเป็นผ้าผืนลายหลากหลายสี
ทั้งร้ายดีทั้งเชื่อมั่นทั้งหวั่นไหว
หากแท้จริงคุณค่าหาแปรไป
ใช่ขึ้นอยู่ที่สีใดระบายลง
๘. หากอยู่ที่เส้นใยที่ทอถัก
ใช่สีสันรักโลภหรือโกรธหลง
หากเส้นใยแห่งรักนั้นยังมั่นคง
ผ้ายังคงสวยสดงดงามดี
๙. จึงเปรียบดรุณเป็นผ้าขาวพราวพิลาศ
รอมือแต่งเติมวาดลงเส้นสี
หวังเพียงมือที่ยื่นมาด้วยอารี
ระบายสีสดสวยด้วยอาทร
๑๐. เติมเส้นสายพลิ้วไหวด้วยใจหวัง
เป็นดอกดวงร่ายระบำด้วยคำสอน
แต้มจินตนางามงดทุกบทตอน
เป็นผ้าผ่อนผืนงามแห่งวารวัน
"ระบัดปลายพู่กันอันไหวอ่อน
เป็นรูปเงาซับซ้อนซ่อนรอยฝัน
เกิดลวดลายงามงดหมดจดครัน
ผ้าผืนนั้นจึงสวยใสสมใจปอง"
28 มีนาคม 2553 14:53 น.
นางสาวใบไม้
...วันวาน...
ระหว่างเรานั้นทุกอย่างยังดูเลือนลางเหมือนภาพฝัน
จนเมื่อสุดปลายเส้นขอบฟ้าและผืนน้ำได้ทบเข้าหากัน
จึงรู้ว่าระหว่างเธอฉันในความคิดถึงนั้นเราไม่เคยห่างไกล
สองดวงใจ....จึงออกเดินทางด้วยนามของความรัก
เพื่อทายทัก...ในวันดอกไม้แย้มบานท่ามกลางฟ้าใส
มาถึงแล้ววันที่ฉัน--เธอต่างได้ซาบซึ้งกับหัวใจ..
ว่าจริงแท้ในความห่วงใย....เราไม่เคยไกลกัน
...วันนี้.....แม้ต้องร่ำลา...
หากรอยชื้นแต้มสองข้างดวงตาใช่ว่าเพราะโศกศัลย์
แต่คือร่องรอยความอุ่นใจ..อันละมุนละไมในความผูกพัน
อุ่นไออ้อมกอดของกันและกันคงพอทดแทนในคืนวันที่เหงาใจ
...วันพรุ่ง...เราจะได้กลับมาพบเจอกันอีก..หน...
ฉันจะเป็นแรงใจให้เธออดทน..กับช่วงเวลาที่อ่อนไหว
เก็บความรู้สึกดีดี..ในวันนี้ให้ตราตรึงนานแสนนานในหัวใจ
เธอรู้ใช่ไหมว่าคนอีกปลายฟ้ายังห่วงใย..ไม่เปลี่ยนแปลง
12 กุมภาพันธ์ 2553 11:12 น.
นางสาวใบไม้
มิหวั่นไหวแม้วันใดต้องไกลห่าง
เพราะที่ผ่านเดินร่วมทางด้วยเหตุผล
ด้วยความหวังต่อเติมฝันคนสองคน
ให้อดทนกับการรอไม่ท้อใจ
ด้วยหัวใจด้วยรักที่เธอให้มา
จึงรู้ว่า..ฉันโชคดีสักแค่ไหน
ต่อจากนี้อีกแสนนานสักเพียงใด
จะรักเธอเสมอไปนะ...คนดี
หนึ่งคำถามที่ฉันไม่เคยตอบ
จึงขอมอบให้เธอไว้ตรงนี้
แทนความรักในดวงใจที่ฉันมี
เรียงร้อยเป็นมาลัยวลีสู่คนไกล
ขอเพียงเธอรักฉันดั่งวันนี้
เช่นทิวาคู่ราตรีกี่กาลสมัย
ฉันก็จักจงรักปักหทัย
มอบดวงใจแก่เธอนั้นนิรันดร
25 มกราคม 2553 10:42 น.
นางสาวใบไม้
เพลงสายลมหวิวหวิวเพียงพลิ้วแผ่ว
ยินน้ำคำหวานแว่วยังไหวหวาม
ว่าบรรเลงเพลงมาผ่านฟ้าคราม
ให้ติดตามตรึงใจคนไกลตา
หอมเอยหอมดอกวลีที่แสนหอม
กิ่งเจ้าค้อมให้เชยชื่นรื่นนาสา
ละไมละมุนกลิ่นกรุ่นคุ้นวิญญาณ์
ย้ำใจว่าเสน่หาไม่คลาคลาย
จึงดอกไม้ระบายแก้มผลิแย้มใส
สื่อความนัยราวเฉลยเอ่ยความหมาย
ว่าซึ้งนักในเพลงรักที่ทักทาย
อาจห่างกายแต่สายใจยังใกล้กัน
สลักทรวงท่วงทำนองที่ร้องกล่อม
ทะนุถนอมแนบหมอนนอนหลับฝัน
หยิบทุกถ้อยร้อยคำที่จำนรรจ์
ทาบดวงใจนิจนิรันดร์..ไม่ผันแปร
24 มกราคม 2553 11:37 น.
นางสาวใบไม้
ข้าฯยังรอสดับรับฟังข่าว
ถ้อยละมุนเอ่ยเล่าถึงความฝัน
ผ่านรอยช้ำรอยขื่นของคืนวัน
เพื่อแบ่งปันความเหงาให้เบาบาง
ระหว่าง..สายธารแห่งกาลเวลา
น้ำใจเจ้าหล่อเลี้ยงข้าฯไม่เหินห่าง
ยื่นยิ้มให้แม้ยามท้อต่อเส้นทาง
ไม่จืดจางร้างไมตรีที่ให้กัน
ดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้
ลมหนาวกระทบฤดีไหวหวั่น
จึงฝากถ้อยกระซิบว่าอย่าจาบัลย์
คำมั่นยังคงซึ้งตราตรึงใจ
วูบหนึ่ง...ในสายลมหนาว
น้ำค้างร่วงพราว..ราวแก้วใส
หยาดหยดรดชุ่ม..ชอุ่มใบ
อาจตัวไกล..หากใจอุ่นกรุ่นคำนึง