26 กุมภาพันธ์ 2548 09:38 น.
นางสาวใบไม้
ขอแค่....คิดถึง
ไม่ต้องลึกซึ้งก็ได้
ขอแค่เป็นเพียงใคร
ที่เธอใส่ใจ...บ้างก็พอ
9 กุมภาพันธ์ 2548 08:15 น.
นางสาวใบไม้
สุดท้ายก็ต้องยอมรับกับความจริง
ว่าโลกไม่อาจหยุดนิ่งเพื่อเก็บวันคืนที่ดีเอาไว้ได้
ให้ออกแรงฉุดรั้งก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
วันคืนที่ผ่านไป - - มีแต่จะทำให้เราห่างไกลกัน
เหลือแค่หนึ่งคนบนทางออกของความชอกช้ำ
หนึ่งคนที่เยียวยาด้วยการดื่มด่ำกับความฝัน
หนึ่งคนที่รู้ดีว่าเมื่อลืมตาก็จะพบแต่ความเงียบงัน
หนึ่งคนที่ยังคงเก็บเอาคืนวันไว้ปลอบขวัญดวงใจ
แม้มีทางออกอีกหลากหลายที่ทอดสายไปข้างหน้า
แต่จนใจกับความอ่อนล้าและหยาดน้ำตาที่รินไหล
เพราะยังมีภาพใครอีกคนแจ่มชัดในหัวใจ
จะเดินต่อไปทางไหน...ความหมายก็ไม่ต่างกัน
ความผิดหวังยังคงตอกย้ำในความรู้สึก
เหมือนมีดคมที่กรีดลึกย้ำลงไปในแผลนั่น
ได้แต่หวังว่าอีกไม่นานคงก้าวล่วงผ่านคืนวัน
พบทางออกที่งดงามอย่างเคยฝัน...เมื่อวันวาน
8 กุมภาพันธ์ 2548 11:59 น.
นางสาวใบไม้
ช่วยบอกทีสิว่า.....ที่แล้วมาแค่ฉันคิดไปเอง
ไม่ต้องเกรงว่าคนๆนี้จะรับมันไม่ไหว
อย่างน้อยๆ....ฉันจะได้มีเวลาทำความเข้าใจ
ก่อนที่จะเดินออกไปจากสายตาเธอ
ขอร้องล่ะ...อย่าทำเฉยเมยกับคนเคยชิดใกล้
ถึงแม้จะแปรเปลี่ยนไป....ฉันก็รับฟังได้เสมอ
ถ้าทุกอย่างมันคือความจริงจากใจไม่ใช่แค่ความเผลอเรอ
บอกมาสิเธอ....ฉันจะคอยฟัง
ว่าทุกอย่างที่แล้วๆ มา....คืออะไร
แค่เพราะอยากลองใจหรือแค่ให้ความหวัง
แค่เดินผ่านมาหรือว่าคิดจะจริงจัง
หรือแค่คนคอยประทังในยามที่เธอไม่มีใคร
บอกมาสิ...ว่าฉันยืนผิดที่ผิดเวลา
ไม่ได้ต้องการแต่ก็เดินเข้ามายามที่เธอหวั่นไหว
ฉันคิดเองเออเองในขณะที่เธอไม่ได้ตั้งใจ
บอกมาเถอะ....ไม่เป็นไร...ฉันเป็นอะไรก็ได้..มันไม่สำคัญ
4 กุมภาพันธ์ 2548 13:04 น.
นางสาวใบไม้
แค่เพียงความคำนึง ที่ส่งมาถึงกันบ้าง
เท่านี้....ชีวิตที่อ้างว้างก็มีความหมาย
หนึ่งนาทีที่ส่งเสียงมาทักทาย
รู้มั๊ย....มันทำให้ใครคนหนึ่งยิ้มได้ไปทั้งวัน
เธออาจไม่ใช่คนที่วิเศษไปทุกสิ่ง
แต่เป็นคนในความจริง...ที่พิเศษสำหรับฉัน
เธอทำให้ชีวิตนี้...มีค่ากว่าทุกทุกวัน
แม้แค่รอยยิ้มที่ให้กันเท่านั้น....ฉันก็ดีใจ
อาจเป็นเพียงหนึ่งคนที่เดินผ่านมา
และไม่รู้ว่าจะเดินไปด้วยกันถึงวันไหน
หากแต่วันนี้...เป็นอีกวันที่ฉันพอใจ
ขอบคุณนะ...ที่เป็น....ใครคนนั้น
1 กุมภาพันธ์ 2548 11:01 น.
นางสาวใบไม้
แย้มรอยยิ้ม...ฉายฉาบ....ทาบใบหน้า
แต่แววตา....แข็งกล้า....ชาเฉยเหลือ
ริมฝีปาก....แย้มละมุน....ยังคลุมเครือ
รอยอุ่นเอื้อ..หรือแอบแฝง..เคลือบแคลงใจ
ฟังน้ำเสียง....ปราศรัย.....ใช่ใครอื่น
คือคนเคย....หยิบยื่น.....ไมตรีให้
พอวันผ่าน..คืนเปลี่ยน..หมุนเวียนไป
ใจหนอใจ.....คนก็เปลี่ยน..เวียนวกวน
นี่แหละหนา....เคยรู้มา....แต่ครั้งไหน
เขาว่าไว้....เถาวัลย์....อันสับสน
เลี้ยวลดไป....ยังไม่เท่า....น้ำใจคน
แสนซับซ้อน....ซ่อนกล....จนตายใจ
เพียงรู้หน้า....ไม่รู้ใจ....ใครเคยบอก
ภาพลวงตา.....หลอนหลอก....เอาจนได้
ต่อหน้าเย็น....ลับหลังร้อน.....ดังฟอนไฟ
เตรียมเผาไหม้...ให้วอดวาย..กลายเป็นจุณ
คนนะคน.....เป็นไปได้.....ถึงเพียงนี้
ไม่หลงเหลือ.....แววอารี.....ที่เกื้อหนุน
พลิกท่าที....ตีสองหน้า....ว่าการุณ
สวมบทบาท....นักบุญ....ให้อุ่นใจ
พอวันร้าย....คืนร้าย.....ก็กลายกลับ
รอยยิ้มชื่น....เลือนลับ.....ไม่สดใส
มิตรภาพ.....ไม่หวนมา.....ให้อาลัย
ใจซื้อใจ.....ต้องช้ำใจ.....เท่าไรกัน
คนแบบนี้.....มีหัวใจ.....บ้างไหมหนอ
ชาตินี้ขอ....อย่าพบ.....หน้าจนอาสัญ
ขอสาปส่ง....อย่าได้พบ.....ประสบกัน
จะกรวดน้ำ......คว่ำขัน.....ตราบวันตาย