26 ธันวาคม 2551 22:17 น.
นางร้าย
อยู่กับเงานั่งเหงาเฝ้าสระแก้ว
ลมพัดแผ่วพัดถามหนาวใช่ไหม
พิศผินหน้าพูดเปรยเฉลยใจ
จักหาใครใคร่กอดตอนเหมันต์
ลมเอยลมลมเพยแผ่แผ่วมา
คงรู้ว่าหัวใจนั้นหนาวสั่น
ลมครวญถามหนาวหรือไม่วิเวกพลัน
เพราะตัวฉันเหมันต์นี้ไม่มีใคร
ลมใคร่ถามทรามวัยใยสลด
ลมเริ่มบทสนทนาหนาวมากไหม
ไร้ใครกอดยอดยิหวาแม่ดวงใจ
ใครหนอใครทิ้งขวัญให้นั่งคร่ำครวญ
บอดเถิดแม่ทรามวัยยัยตัวน้อย
อย่าละห้อยคอยหาเลยเนื้อนวล
อากาศหนาวเหงาใจเลยรัญจวน
โปรดอย่าครวญรวนไห้เปลืองน้ำตา
หากมิมีผู้ใดคิดใคร่กอด
โอ้แม่ยอดยิหวาอย่าร้องหนา
ข้านี่ไงใคร่กอดเจ้าแม่ชีวา
ข้าพัดมาคลายหายหนาวนะคนดี
จะโอบกอดเจ้าประหนึ่งซึ่งเป็นน้อง
จะประคองกายเจ้าให้หนาวหนี
จะซับหยดหยาดน้ำตาที่เจ้ามี
หวังจากนี้ให้เจ้าได้เบาใจ
ยิ้มเถิดยิ้มแม่หญิงที่น่ารัก
เจ้าจงพักรักครั้งนี้เก็บเอาไว้
อีกไม่นานหัวใจเจ้าคงมีใคร
ที่จักใคร่ห่วงใยอยากดูแล
24 ธันวาคม 2551 21:20 น.
นางร้าย
สะพานยังคงอยู่คู่สระแก้ว
ดาวพร่างแพรวแวววาดฟากฟ้ากว้าง
อันเหตุใดใจเราเศร้าอ้างว้าง
ใครใคร่ข้างเคียงคู่เช่นสะพาน
สะพานยังยลยินงามตามเดิมหนอ
คู่พนอไม่รีรอแว่วคำหวาน
ส่วนตัวเรานั่งเหงาเฝ้าสะพาน
ยินคำหวานให้พาลสะท้อนใจ
พบสะพานพบทรามวัยในมอศิลป์
ยืนยลยินรินไรร่ำน้ำตาไหล
ขีดเขียนเปรียบเทียบทดท้อไห้อาลัย
ห้อยหาไห้ดวงใจไม่กลับคืน
24 ธันวาคม 2551 12:24 น.
นางร้าย
มากคนศิลปากรสองข้างทาง
เหตุใดช่างอ้างว้างแสนเปล่าเปลี่ยว
เดินเดินไปทั่งที่ทางใช่คนเดียว
แปลกจริงเชียวเงาเงียบมาทางใด
มากคนเทียวเที่ยวเดินไปไปมา
เสียงพูดจาจักรยานวิ่งผ่านใกล้
เสียงหยดน้ำตาตกผ่านหัวใจ
สะอื้นไห้ในอกดังยังได้ยิน
เมื่อลมผ่านสระแก้วแผ่วความหนาว
ดวงใจร้าวหนาวรักยังไม่สิ้น
เพียงเพียรหวังเวลาพาชาชิน
ดังก้อนดินโดนไฟได้แข็งแรง
แก้ไข | ลบ | 0 ความเห็น »
24 ธันวาคม 2551 02:52 น.
นางร้าย
ฉันมองดูพินิจเพ่งพิศภาพ
หัวใจวาบหวิวหวิวริกริ่วสั่น
น้ำตาไหลใจใคร่ถามทำไมกัน
อีกกี่วันตัวฉันหมดหยดน้ำตา
ฉันมองดูภาพคู่ไหลหลั่งไห้
แปลบปวดใจแน่นอกนักช้ำหนักหนา
เจ็บเหลือเกินใจยับเยินสุดเวทนา
รอเวลาให้รักษาแผลหัวใจ
ฉันมองดูภาพคู่ครวญเรื่องราว
หลายครั้งคราวครุ่นคิดรักรับไม่ไหว
เจ็บซ่อนช้ำระกำรักโธ่ดวงใจ
รักเพียงใดแต่หัวใจขอไม่ทน