11 สิงหาคม 2548 13:57 น.
นางซิน
ก่อนนั้น หนูเป็นเด็กบ้านนอกคอกนา เป็นลูกชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง แต่หนูเป็นคนรักการเรียนค่ะ หนูถูกสั่งให้ขยันเรียนทำงานและขยันเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี หนูเรียนดีมาตลอดตั้งแต่ระดับประถมศึกษา แม้ว่าฐานะทางบ้านจะขัดสนแต่หนูก็กัดฟันทนจนเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก หนูสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องเหนื่อยมาตลอดชีวิตเพื่อหนู ความหวังของท่านทั้งสองคืออนาคตของหนูเรื่องนี้หนูเข้าใจดี
วันที่รู้ว่าลูกสาวของท่านได้เรียนต่อในระดับปริญญโดยได้โควต้าเรียนดีนั้น ดูว่าท่านรู้สึกปลื้มใจมาก พร้อมกันนั้นก็หมายถึงว่าท่านทั้งสองต้องเหนื่อยเป็นทวีกับการหาเงินส่งเสียให้หนูเรียน ก่อนออกจากบ้านด้วยแรงใจและแรงเงินที่ได้จากความเหน็ดเหนื่อยของพ่อแม่ แม่นั้นพร่ำสอนให้หนูรู้จักดูแลตนเองให้ดีอย่าหลงระเริงไปกับเพื่อน เงินทองให้รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัดอย่าฟุ้งเฟ้อกับสิ่งฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น ให้ทำตัวให้ดี อยู่ทื่ไหนอย่าทำตัวให้เขาเบื่อหน่าย หนูก็จดจำใส่ใจอย่างซาบซึ้งดิบดี
หนูได้รับเงินจากทางบ้านแทบทุกเดือน พยายามใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด เพราะสงสารที่พ่อกับแม่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย หนูตั้งใจเรียนมาก หวังว่าจะต้องทำให้ท่านทั้งสองชื่นใจ ภาคภูมิใจใจตัวหนูให้ได้ สักวันหนึ่งหนูจะมีวันนั้น หนูจะอดทน จะไม่ทำตัวอ่อนแอเหลวไหลไร้สาระ หนูจะให้สัญญานะ จะไม่ทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวังเสียใจในตัวหนูเป็นอันขาด นั่นคือความตั้งใจของหนูในคอนเริ่มเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาแห่งนี้
เมื่อหนึ่งปีการศีกษาผ่านไป
เพื่อน ๆ บอกหนูว่าเหมือนลูกคนมีเงินหนูพยักหน้ายิ้มรื่นรับ แล้วหนูก็โทรบอกทางบ้านว่าเงินใช้จ่ายไม่พอต้องขอเพิ่มด้วย เดี๋ยวนี้หนูเดิร์นกว่าเดิมนะคะ หนูไม่ใช่เด็กบ้านนอกคนเดิมแล้ว หนูจะไม่ยอมทำตัวซื่อบื่ออย่างแต่ก่อน เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้วดูหนูสิคะ ทรงผมสีทองแดงแซมด้วยม่วงนิด ๆ เปล่งประกายระยับเมื่อถูกแสงแดด คิ้วโก่งเพราะเขียนไว้ถาวรปากสีแดงสดใสระเรื่อ สวมเสื้อรัดรูปโชว์สัดส่วนสแลนเดอร์ กระโปรงลูกไม้สั้น ๆ แหวกนิด ๆ เพื่อโชว์น่องสวย ๆ ยังมีอีกนะคะ รองเท้าส้นคอนโดมิเนียม ตอนนี้หนูตามเพื่อนเกือบทันแล้ว ขั้นต่อไปหนุจะเอาเพจเจอร์คะ ถ้ายังไงหนูอาจจะเปลี่ยนเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ไว้โทรคุยกับเพื่อนและโทรขอเงินทางบ้าน
หนูเป็นคนรุ่นใหม่นี่คะ ถ้าใครจะมาคุยเรื่องอุดมคติ เรื่องปรัชญาชีวิต เรื่องสังคมมนุษย์ เรื่องหนังสือวรรณกรรมอย่างนี้เป็นต้น กรุณาอย่ามาคุยกับหนู หนูไม่ชอบเรื่องไร้สาระแบบนี้ ยกเว้นว่าจะคุยเรื่องแฟชั่น เรื่องดารานักร้อง เรื่อที่มันมีคลาสหน่อย แบบนี้หนูชอบคุยด้วย สถาบันแห่งนี้มิได้เป็นแหล่งให้การศึกษาอย่างเดียวนี่คะสำหรับหนูกับเพื่อนเราสามารถประยุกต์ให้เป็นแคทวอล์ที่ให้พวกเรามาเดินแฟชั่นโชว์ก็ได้ ดังเช่นที่ทำกันอยู่นี่ไง
หนูกับเพื่อนเข้าห้องเรียนกันอยู่บ่อย ๆ แต่เข้าไปแค่ให้อาจารย์เช็คชื่อนะคะ ระหว่างนั้นก็คุยเรื่องอื่น ๆ เมื่อยนั่งก็ขออนุญาตเข้าห้องน้ำแต่งหน้า นั่งเมาท์ต่ออีกสักพักใหญ่แล้วเข้าห้องเรียนอีกก็ตอนที่อาจารย์จะเช็คชื่อนั่นแหละ ห้องสมุดหรือคะ เคยเข้าค่ะแต่ว่านานมาแล้วเกือบปีได้มั๊ง
เพื่อนถามหนูว่า
" มึงจะเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่และเพจเจอร์ที่ว่าน่ะ " หนูผายมือพร้อมกับยักไหล่ตอบง่าย ๆ " พ่อกับแม่กูไง เดี๋ยวพรุ่งนี้กูขอให้ดู "
มาสิคะมาฟังให้เป็นบุญหู ตอนนี้หนูกำลังโทรศัพท์กับแม่
' ฮัลโหล อีแม่บ๊อ '
' เอ้อ ... แม่กำลังเว้าอยู่ '
' อีแม่ ... หนูขอเงินอีกแหน่ หนูสึเอาไปลงทะเบียน '
' เอาท่อได๋ลูกหล่า ใช้ประหยัดอยู่บ้อ เอาเทื่อละหลายพ่อกับแม่กะหาบ่ทันได๊ ' หนี้เก่ากะยังบ่ทันคืนเพิ่นอยู่
' ห้าพัน ! '
' ลงทะเบียนอีหยังคือมาหลายแท้ลูก แม่สิไปหาทางได๋มาให้น๊อ '
' ลงทะเบียนเรียน เว้าไปแม่กะบ่ฮู้นำดอก แม่ส่งมาเร็ว ๆ เด้อ หนูจำเป็นอีหลี แค่นี้เด้อ หนูสิฟ้าวไปเข้าห้องเรียน เดี๋ยวเรียนบ่ทันหมู่ ยังสิไปเข้าห้องสมุดอีกท่อนี้หล่ะ '
' เอ้อ ๆ ... สิให้พ่อมึงไปยืมมาให้อีก ตั้งใจเรียนเด้อลูกเอ้ย '
หนูวางโทรศัพท์แล้วหันมาทางเพื่อน ' กูขอแค่สองพันห้า แม่บอกจะส่งมาให้ห้าพันกูก็เลยตามใจแก ไป ! วันนี้กูเลี้ยงหนัง เสร็จแล้วไปต่อที่ร้านคาราโอเกะ '
เรื่องที่ท่านอ่านผ่านมาสักครู่เป็นเพียงเรื่องสมมุติที่แต่งขึ้นมาเท่านั้นไม่อาจเป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้หากการศึกษาทำให้คนเป็นคน ทำให้คนมีสติ ทำให้คนพัฒนาได้จริง แต่ถ้าหากวันใดการศึกษาให้ผลที่กลายเป็นว่ายิ่งเรียนยิ่งโง่ ยิ่งเรียนยิ่งเลว ยิ่งเรียนยิ่งประพฤติบ้า ๆ ล่ะก็ คราบน้ำตาแห่งความผิดหวังของพ่อแม่ที่ยอมเหน็ดเหนื่อยหาเงินส่งลูกมาเรียนเพื่อที่จะกลับไปโกหกพ่อแม่ของตัวเองอย่างเรื่องนี้
เพียงอยากให้พวกเราช่วยกันสำรวจตัวเองว่า ขณะนี้เราทำให้ท่านไว้วางใจได้หรือไม่ หรือว่าเรากำลังโกหกท่านอยู่ ?
8 สิงหาคม 2548 17:41 น.
นางซิน
ทุกคนเกิดมามีความฝันและความหวังกันทั้งนั้น
แต่ฝันจะไปถึงจุดหมายปลายทางที่หวังหรือเปล่านี่สิ
มันเป็นเรื่องของความจริงวันหนึ่งฉันกล้าที่จะฝัน
ในวันนี้ฉันจึงต้องตามหาฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง
ในฝันฉันไม่เคยเดียวดาย
แม้ในความเป็นจริงฉันอาจเหงาและเจ็บปวดก็ตาม
ในชีวิตที่เกิดมามีเรื่องราวเกิดขึ้นกับฉันมากมาย
ครั้งหนึ่งโลกสร้างฉันให้เรียนรู้กับความรักให้ฉันได้รู้จักใครคนหนึ่ง
สองใจก่อความผูกพันขึ้นมาใช้เวลานานมาก
ฉันสุขใจทุกครั้งเมื่อมองเห็นแววตาความห่วงใยจากเธอ
แต่บางครั้งเหงา ๆ เดียวดายเมื่อต้องห่างกันบ้าง
ฉันรู้สึกอยากขอบคุณฟ้าเหลือเกิน
ขอบคุณที่ทำให้ทุกวินาทีในวันนี้
ฉันมีความหมายกับผู้ชายที่ฉันคิดว่าใช่ในวินาทีนั้น
อยากขอบคุณความรู้สึกดี ดี ที่เธอคนดีมีให้แก่กัน
ขอบคุณคืนวันที่มีกันและกันขอบคุณที่ทำให้ฉันมาเจอเธอ
ใช่ที่อยากขอบคุณในตอนนั้น
เพราะเธอคือความหมายของคืนและวันที่ทำให้ชีวิตฉันไม่หลงทาง
เธอคือความฝันและความหวังที่คอยช่วยสร้างพลังและประกายไฟนำทาง
ให้แสงสว่างให้ความอบอุ่นให้ฉันยามอ่อนล้าและอ่อนแอ
แต่ใครจะคิดบ้างว่าสิ่งที่หวังและฝันใฝ่
จากการก่อสร้างมาจากกาลเวลาที่ยาวนานจะจบลงอย่างง่ายดาย
โดยไม่มีแม้คำร่ำลา เธอทิ้งความฝัน
ทำลายความหวังและจบความศรัทธาที่มีในใจ
เพียงเพราะมีใครอีกคนเข้ามา
วันนี้ฉันยังมีความฝันและความหวัง
ความรักจากเธอเป็นเพียวเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่ฉันได้เรียนรู้เท่านั้น
ความปวดร้าวที่เธอมอบให้ก็เป็นเพียงประสบการณ์
ที่ทดสอบความเข้มแข็งของจิตใจฉันเท่านั้น
ขอบคุณเธออีกครั้งที่มาช่วยสอนประสบการณ์ในครั้งนี้
เพราะถ้าไม่มีเธอชีวิตฉันคงงมงายมองความรักเป็นเรื่องสวยงามอย่างเดียว
เมื่อเธอสอนฉันให้เรียนรู้ถึงความเจ็บปวด
ฉันจึงได้มุมมองความรักมาใหม่อีกด้านหนึ่ง
พร้อมกับการเรียนรู้การเผชิญปัญหาและฝันร้ายที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นจริง
สิ่งที่ฉันฝันและความหวังของฉันไม่ใช่จะยึดติดเพียงเธอ
วันนี้เธอทำให้ฉันคิดและเรียนรู้อะไรหลายอย่าง
พรุ่งนี้ฉันจะนำความสำเร็จที่ฉันเคยใฝ่ฝันมาบอกเล่าให้เธอฟัง
มาบอกว่าวันนี้ฉันก็ไปสู่สิ่งที่หวัง
แม้จะไม่มีความรักและกำลังใจจากเธอมาคอยร่วมทางอย่างที่ผ่านมา