19 สิงหาคม 2551 13:08 น.
นาคะพรรณ
...ฉันมองเธอเหม่อลอยดูคอยหา
รอเวลากลับมาวันฟ้าใหม่
เขาลาลับเลือนลางห่างร้างไกล
จึงเดียวดายว้าเหว่สุดเอกา
เหมือนนกน้อยคอยรักที่พักพิง
เคยแอบอิงนิ่งนอนยามอ่อนล้า
เฝ้าซุกไซร้ไออุ่นเมื่อฝนมา
ใต้ชายคาแห่งรักที่พักใจ
ปิดประตูอยู่ลำพังในรังร้าง
ปิดหน้าต่างสนทนาคำปราศรัย
ขังตัวเองอยู่ในห้องจองจำใจ
ร้องร่ำไห้เฝ้ารอทรมาน
ฉันมองเธออยู่ลำพังในรังรัก
บนเพิงพักนักกวีที่ขับขาน
นั่งร้อยเรียงช่ออักษรเป็นกลอนกานต์
ส่งคำหวานผ่านประตูสู่วังวน
ลองปล่อยใจไตร่ตรองแล้วมองดู
เปิดประตูหัวใจรับไอฝน
ในความสุขทุกข์ก่อนจึงได้ยล
ฟ้าหลังฝนอันสดใส...อยู่ใกล้เธอ
photo by: อาคม นาคะ
18 สิงหาคม 2551 19:21 น.
นาคะพรรณ
.....สีเหลือง...ผสมแดงแปลงเป็นส้ม
สื่ออารมณ์รุ่งอรุณอบอุ่นแสง
คือความคิดคนรุ่นใหม่ไฟแรง
บอกแสดงความสร้างสรรค์ทันสมัย
สีแดง...ผสมน้ำเงินเกิดเป็นม่วง
ความหนักหน่วงลวงตาน่าหลงใหล
แฝงอารมณ์เคลือบแคลงแรงจูงใจ
ซ่อนความในร้อยเล่ห์สเน่ห์หา
สีน้ำเงิน...ผสมเหลืองเรืองสู่เขียว
ความกลมเกลียวพรั่งพรูหมู่พฤกษา
สื่อนิยามความสดใสสบายตา
ชื่นชีวาเริ่งร่าในอารมณ์
สีดำ...ผสมขาวเป็นเทาหม่น
คือวังวนทนทุกข์ไม่สุขสม
รสจืดชืดเย็นชาไร้อารมณ์
ดังสายลมโอดโอยโรยรา
ในกลิ่นสี...มีมากหลากความหมาย
ทุกรูปกายหลายรสชาติปรารถนา
แต่สีเหลืองแดงน้ำเงินเกินจินตนา
สุดจะหาผสมเป็น....เช่นแม่สี
15 สิงหาคม 2551 12:01 น.
นาคะพรรณ
....สะท้อนแสงจันทร์ในคืนนั้น
สีอำพันมันวาวทิวยาวใส
คงเป็นแสงแห่งดาวบนฟ้าไกล
เหตุไฉนอยู่ใกล้แค่ปลายมือ
ยิ่งมืดลงยิ่งแจ่มชัดจรัสแสง
การแสดงของจันทร์อย่างนั้นหรือ
สิ่งที่ฉันสัมผัสได้ที่ปลายมือ
แท้จริงคือแสงที่ส่องต้องน้ำตา
ฉันจึงขอเก็บแสงแบ่งความเหงา
คลายทุเลาเศร้าตรมบ่มรักษา
อุ้งมือน้อยคอยรองรับซับน้ำตา
สุดปลายฟ้าเธอบอกลาน้ำตานอง
เหลือเพียงเงาความเศร้าเข้าแทนที
ห้วงราตรีมืดมนดาวหม่นหมอง
น้ำตารินสิ้นแสงเธอคอยเหม่อมอง
ต้องนั่งร้องเดียวดาย....ใต้เงาจันทร์
13 สิงหาคม 2551 19:37 น.
นาคะพรรณ
.....ล่องลอยคว้างห่างไกลไร้ลำต้น
ร่วงโรยหล่นจากใบไกลถิ่นฐาน
ตกลงสู่แดนดินถิ่นกันดาร
เฝ้ารอกาลฤดูเปลี่ยนหมุนเวียนวน
ข้าวเปลือกน้อยสีทองเหม่อมองฟ้า
ปรารถนาฟื้นกายด้วยสายฝน
มีดินชุ่มนุ่มอ่อนแอบซ่อนตน
ให้รอดพ้นภัยพาลข้ามผ่านวัย
ทั้งนกหนูปูปลาออกหากิน
ทุกทั่วถิ่นท้องนาที่อาศัย
จนเหลือรอดจากศัตรูผู้ทำลาย
แตกก้านใบงอกงามตามสายพันธุ์
เป็นต้นกล้าพริ้วไหวในท้องทุ่ง
กลิ่นหอมฟุ้งเขียวขจีสร้างสีสัน
ยามลมโยกเย็นย่ำร้องรำพัน
เพลิงตะวันโบกมือลาสู่ราตรี
เข้าสามเดือนกอดประคองตั้งท้องอ่อน
อรชรโบกสะบัดผลัดเปลี่ยนสี
เหลืองทองสุกผ่องอำพันทั่วนาปี
ดุจนารีแม่รักลูกด้วยผูกพัน
ถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต
หลายชีวิตลงแรงอย่างแข็งขัน
ร่วมลงแขกกลางแดดร้อนโรมรัน
คุณอนันต์อิ่มแท้....แม่โพสพ
8 สิงหาคม 2551 15:16 น.
นาคะพรรณ
....กระทบผิวกายแต่ใจสั่น
ไร้สีสันรูปรสและกลิ่นสี
เย็นยะเยือกจับจิตขึ้นทวี
ทุกครั้งที่ลมแห่งเหงาเข้าครอบใจ
ยิ่งเย็นย่ำใกล้ค่ำยิ่งย้ำเจ็บ
ฝืนทนเก็บซ้อนอุราน้ำตาไหล
ทำได้เพียงแหงนมองดาวบนฟ้าไกล
เฝ้าระบายเรียกหารักใครสักคน
เมื่อไรเล่าลมแห่งเหงาเจ้าจะจาก
พัดพาฝากความเศร้าไปให้ไกลพ้น
เก็บความรักหอบไออุ่นมีตัวตน
ให้ได้ยลใครสักคนจนนิรันดิ์
ขอสายลมแห่งเหงาที่เฝ้าพัด
โบกสะบัดพัดวีวจีฉัน
โปรยคำหวานผ่านกวีที่รำพัน
มอบกำนัลแด่รัก...ที่ภักดี
ปล. พรุ้งนี้จะกลับบ้านนอกแล้วครับ ขอสายลมแห่งความเหงาอย่าได้พัดมาในชีวิตเพื่อนๆ ทุกคนมากนัก เพียงแค่รู้สึกเบาๆ ก็พอ
ขอบคุณครับ.......