20 พฤษภาคม 2549 10:47 น.

ค่าว สืบสานตำนานเมืองนาน

นันทวงษ์วรยศ

(บทขึ้นต้นซอ) โสมคะนิง เขาว่าแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน นองใส น้องเฮย 
บทนี้จักจ๋าร่ำไร ก้อยดักฟังไปเต๊อะเจ้าปี้น้อง
เมื่อต๋าวันในก้อยยังไหลค้อน วันนี้กะเป๋นวันดี 
มือสิบนิ้วขึ้นนพก่ายเกล้าเกศรี ยอธุลีในฐานะตี่นี้ ..........

    สิบนิ้วยกก่ายเกล้ายอสา
 ขอยกยอวานยอสานใส่เกล้า              
 พระพุทธพระธรรมพระสังฆะเจ้า
อันนี้เป๋นเก้าพระศาสนา                
จะตั้งแต่เก้าแต่เหง้าไขจ๋า                
อะหังวันตา ก่อนสาวันท์ไหว้
พระรัตนตรัยของเฮาท่านไท้                
จะไขแต่เก้า แต่เหง้าก๋อนสาน                
เรื่องประวัติก๋านเมืองน่านแก้วเจ้า
ป๋างเมื่อหนตีตั๊ดตี้นั่นเล่า                
    มีพญาเจ้าแคว่นแก้วครองเมือง               
พญาปูคาเจ้าแคว่นคำเหลือง
สร้างบ้านแป๋งเมือง เมืองปัวตี้ฮั้น               
ล้อมเป๋นเขตขันธ์ขึ้นมาเมื่อนั้น               
 หล๋อนว่าต่อมาล่วงป้นหลายปี๋
ป้อเหมยธานีมีลูกมีเต้า                
สืบต่อมาในวันนี้เล่า                
มีลูกมีเต้าจื่อพญาก๋านเมือง
ขุนนุ่น ขุนฟองตั้ดตี้เจ้าขา               
 จึงได้ปรึกษานั่งไหว้               
 พร้อมอกพร้อมใจในเมืองตี้นั้น 
เจ้าย้ายเมืองปัวตั๊ดตี้เจ้าก๋า                
วันนั้นหนามาตั้งใหม่เจ้า             
   จ๋าย้ายเมืองปัว เมืองใหม่นั้นเล่า
มาตั้งเมืองน่านแล้วก่าต่อไป             
   พญาก๋านเมืองพร้อมอกพร้อมใจ                
จะมาตั้งตรงไหนเจ้าข้า
จึงพร้อมไขจ๋ากับเสนาต่านท้าว               
 จะย้ายเมืองปัวลงมาตั้งเมืองน่าน               
 ป๋างนั้นแล้วหนา
จักได้ไขจ๋าต่อไปน้อเจ้า               
  ตี่ดอยภูเพียงแจ่แห้งนั่นเล่า             
  เป๋นของตี่ไหว้สักการะปู๋จา
พญาก๋านเมืองตั้ดตี้เจ้าขา              
  มาตกแต่งดาเสนาต่างพ้อง             
   ได้พร้อมใจ๋กั๋นในวันนั้นแล้ว
มีองค์แรกเก้าก่อยยกเมืองสาน             
   ตัวเจ้าธรรมบาลยกสานหว่านไหว้            
    จะย้ายเมืองปัวลงมาตั้งใต้ 
เอามาตั้งไว้ที่ดอยภูเพียง             
   ก๋าละบัดนั้นบ่มีใผเถียง              
  พญาก๋านเมืองตี้ฮั้น
จึงตกลงกั๋นในวันนั้นแล้ว              

  ก็ได้แต่งแป๋งปี้น้องตั้งหลาย            
   เจ้าขุนมูลนายไหลข้อน
โหรในเมืองก็มีพร่ำพร้อม               
 ก็มาหลิ่งน้อมสาก๋านวันทา               
 เสนาอำมาตย์ก็ได้จัดก๋าน
จึงได้จวนกั๋นเจ้าข้า               
 เข้าป่าดงหนาตัดไม้แต่นั้น               
เอามาแป๋งแปตั้ดตี้ตวยกั๋น
มีหมดเจ็ดหลังตวยกั๋นเน้อเจ้า              
  จะย้ายเมืองปัวลงมานั้นเล่า               
 เอาเต๊อะแม่เจ้าก่อยนั่งฟังไป 
ว่าเขาคาดแปสำเร็จเสร็จก๋าน               
 ก่อยยกมือสานหวั่นไหว                
ตั้งอกตั้งใจ๋ในวันนั้นแล้ว 
ว่าแปตี่หนึ่งเจ้าแคว่นคำเหลือง             
   พญาก๋านเมืองเสนานั่งเฝ้า             
   กับสารีริกกะธาตุนั่นเล่า
ที่ได้ยกย้ายมาจากเมืองปัว              
  ว่าแปตี่สองข้าราชการ               
 เจ้าน้อยนายหนานเสนาต่างห้อง
ก็ได้ลงสู่ในแปตี่นั่น               
 ว่าแปตี่สามจักได้ไขจ๋า               
 อะหังวันตาพระสงฆ์องค์เจ้า
ว่าแปตี่สี่ตั๊ดตี่นั่นเล่า               
 ขุนนายฝ่ายเจ้าผู้ใหญ่บ้านกำนัน             
   ว่าแปตี่ห้าระนาดดนตรี
ปาดก้องดนตรีก้อยแถมว่าอั้น              
  จึงได้จวนกั๋นในวันนั้นแล้ว              
 ว่าแปตี่หก บ่อตุ๊กบ่อจ๋น
มีประชาชนพลเมืองใหญ่น้อย              
  ต่างได้ติดต๋ามหลายปันหลายร้อย                
ติดต๋ามหลามห้อยย้ายบ้านแป๋งเมือง
ว่าแปตี่เจ็ดอันนี้เจ้าขา                
วันนั้นหนาจ๋นสาหวั่นไหว้               
 พร้อมอกพร้อมใจก๋องแห่พร่ำพร้อม
ก็มีตั้งก้องและมีตั้งก๋อง              
  ปั๋นจะสะหย๋องลงไปในห้อง                
มีตั้งเสียงก๋องมีตั้งเสียงก้อง
สนั่นปั่นก้องทั่วน่านลงมา               
 มีนางแม่หม้ายคนหนึ่งนั้นหนา              
  จึ่งออกปากจ๋าจ้อย ๆ
มาเป๋นคนซอแล้วยังนั่งจ้อย              
  ว่าก๋านซอนั่นตั๊ดตี้เจ้าขา              
  ก็ยังเกิดมาฐานะตี่ฮั้น
ว่านางแม่หม้ายตั๊ดตี้คนนั้น               
 ร่ำริรำปันเมื่อได้ย้ายเมืองมา             
   ลำดับล่องน่านตั้งห้วยหินผา
ป่าไม้ดงหนาว่าอั้น               
 จึงได้จวนกั๋นลงมาเมื่อนั้น                
เมื่อลุกเมืองปัวมาถึงเมืองน่าน
ได้เจ็ดวันตวยกั๋น               
 มาเถิงเคิงคันย่านห้อง               
 พญาก๋านเมืองได้ถึงพร่ำพร้อม
ควรเอาปี่น้องขึ้นสู่ในเมือง               
 หล๋อนมาตั้งยังศาลากล๋าง                
เป็นหอคำของเก่าตี้หั้น
จึงได้ไปหันกั๋นหมดพร่ำพร้อม             
   พญาก๋านเมืองตั้ดตี้เจ้าขา               
 ก็ยังอาสาตั้งพระธาตุแจ้แห้ง
ตี่ดอยภูเพียงหื้อมันจนแล้ว               
 ดูยามงามแล้ว จักการะปู๋จา               
 พญาก๋านเมืองได้สร้างได้แป๋ง
บ่อฮื้อแตกแห๋งแตกจ้า                
ได้แป๋งเมืองมาในฐานะตี่นั้น               
  หลอนมาเถิงในปัจจุบัน
ตี่เฮาได้หันเมืองน่านน้อเจ้า               
 จ่างซอจ่างจ้อยตั๊ดตี้นั่นเล่า               
 เป็นของหม่าเก่าแล้วกะโบราณ 
จ๋นได้สืบลูกจ๋นได้สืบหลาน                
มาเหินเมินนานว่าอั้น                
เถิงปัจจุบันในวันนี้แล้ว 
หล๋อนเมืองน่านปี่น้องตั้งหลาย                
มีตั๋วคำผายสืบสายใยกว้าง               
 ก๋านตั้งซอทั่วเมืองทั่วบ้าน
ก็ได้สืบไว้แต่โบร่ำโบราณ                
หล๋อนอันนี้เป็นประเพณีจาวเหนือ              
  บ่อหื้อสูญเสียว่าอั้น
ข้าได้จดได้จ๋ำเต้าหม่าเดี่ยวนี้              
  . ก่อนและนอ..                 ขอวางกำซอก่อนเน้อจ่างไม้				
20 พฤษภาคม 2549 10:21 น.

พุทธบูชา

นันทวงษ์วรยศ

เก็บมาลัยมาเรียงร้อยถ้อยลิขิต
                     นำชีวิตมุ่งบวรพระศาสนา
                     พระศาสนาคู่ไทยแต่ไรมา
                     นำชีวาปวงชนพ้นทุกข์ภัย
                     องค์พระบรมศาสดาจอมราชเจ้า
                     พระพุทธเจ้าแห่งชาวเราอันยิ่งใหญ่
                     พระทศพลพระเกียรติระบือไกล
                     นำชนไทยทุกคนพ้นบ่วงมาร
                      อริยสัจ ๔ ธรรมประเสริฐ
                      จะก่อเกิดความสุขทุกแห่งหน
                      ศีลธรรมประจำอยู่ทั่วทุกคน
                      เหล่าปวงชนข้ามสู่พระนิพพาน
                      ให้พระพุทธศาสนายืนยงคงคุณค่า
                      ห้าพันปีอย่าโรยราแม้นฟ้าหมอง
                      สืบต่อองค์พระบรมศาสดาตามครรลอง
                      ชนทั้งผองมุ่งสู่ธรรมนำนิพพาน
                     				
19 พฤษภาคม 2549 20:33 น.

ล่องเมืองเหนือ

นันทวงษ์วรยศ

เมืองเหนือเอยธรรมชาติวิไล
                                  งามน้ำใจผู้คนท้องถิ่น
                                  ผืนแผ่นดินร่มเย็นสมที่ทำกิน
                                  สายน้ำมิสิ้นความหลังเสื่อมคลาย
                                      เหนื่อสุดแดนสยามนามเชียงราย
                                   เคียงคู่สายแม่กกทุกพื้นแผ่น
                                   ดอยตุงงามสว่างทั่วทุกแดน
                                   มฟล.แสนสวยงามกว่าใครใคร
                                       เมืองนครน่านในม่านหมอก
                                   ดุจเมืองนอกเมืองนาแดนสวรรค์
                                   พระธาตุแช่แห้งให้ได้บอกบุญกัน
                                   อดีตนั้นนันทบุรีศรีล้านนา
                                        เมืองพะเยาสาวเจ้าช่างงามนัก
                                    พี่หลงรักทันทีเมื่อแรกเห็น
                                    พระเจ้าตนหลวงนั้นแสนจะร่มเย็น
                                    กว้านพะเยาเด่นคูเมืองแต่เดิมมา
                                         เมืองหมอกครึ้มคือเมืองแม่ฮ่องสอน
                                    มีม่านดอยซ้อนดอกไม้เอื้องผา
                                    ปางช้างมากหมายหลายลีลา
                                    เชิญท่านมาไหว้พระธาตุดอยกองมู
                                          เมืองลำปางเขลางค์นครเจ้า
                                    เป็นเมืองเก่าเมืองแก่มานานแสน 
                                     มีรถม้าฮ้อวิ่งทั่วทุกแดน
                                     เครื่องปั้นแสนสวยงามนามระบิล
                                          เมืองนครพิงค์นามเชียงใหม่
                                       แสนสุขใจยามได้มาพบเห็น
                                        สายห้วยแก้วยังไหลแลชุ่มเย็น
                                        วัฒนธรรมเด่นเป็นศรีแด่ล้านนา
                                            เมืองลำพูนงดงามกว่าใครหนอ
                                        วัดเวียงลอรื่นรมย์ทั่วทุกถิ่น
                                         สาวป่าซางงามล้ำในแผ่นดิน
                                         พระรอดเนื้อดินมิสิ้นซึ่งศรัทธา

                                          
                                        				
18 พฤษภาคม 2549 10:15 น.

ร่มแคว้นแดนช้าง

นันทวงษ์วรยศ

แว่วเสียงบูมโห่ร้องกลองสนั่น 
ตะลึงงันดั่งโดนต้องมนต์ขลัง 
พี่ช้างใหญ่รับช้างใหม่เข้าสู่รัง 
สู่เวียงวังมหาลัยเชียงใหม่นา 
โอ้ร่มแคว้นแดนช้างช่างยิ่งใหญ่ 
เหล่าน้องพี่ร่วมใจกันไหว้สา 
พระธาตุหลวงบนดอยสูงแห่งล้านนา 
ประเพณีที่มีมาแต่ช้านาน 
ในเขตรั้วล้อมแดนสรวงสีม่วงหรู 
ทองกวาวผลิพลิ้วน่าดูคู่สถาน 
ศาลาธรรมพิลาสเลิศเชิดตระหง่าน 
อีกอ่างแก้วแนวชลธารสราญใจ 
เปรียบประดุจอุทยานการศึกษา 
ครูสอนสั่งดั่งบิดาจะหาไหน 
สิบเจ็ดเหล่าเราลูกช้างต่างกันไป 
แต่น้ำใจน้องพี่สีเดียวกัน 

หนึ่งนั้นเล่าขาวพิสุทธิ์มนุษยศาสตร์ 
สีหราชปราชญ์ภาษาน่าใฝ่ฝัน 
สาวHumanแสนงามพริ้งยิ่งนุ่งสั้น 
ตุ้งติ้งรูปตัวเอชนั้นมั่นปรองดอง 

สังคมศาสตร์เก่งกาจศาสตร์ทั้งสี่ 
Soc AnpดีGeoเด่นไม่เป็นสอง 
สิงห์ขาวดังตราชั่งเที่ยงน่าเมียงมอง 
ฟ้าแก่นี้ที่พี่น้องรวมพลัง 

เหล่าแม่พิมพ์น้อยใหญ่ไทยทั้งชาติ 
ศึกษาศาสตร์สร้างคุณครูผู้สอนสั่ง 
รักศักดา ศึกษาอารีดัง 
ฟ้าอ่อนยังสดใสไร้มลทิน 

สีแดงชาดไม่แห้งเหือดเลือดสรรค์สร้าง 
กลิ่นลูกทุ่งไม่จืดจางไม่หมดสิ้น 
ศิลปะเป็นอิสระศิลปิน 
วิจิตรศิลป์ทรงผมเฉียบเนี้ยบไม่เชย 

ตึกเรียนเท่เก๋ถูกใจใครได้แล 
บานเย็นแก่ใช่บานร้อนEconเอ๋ย 
เศรษฐศาสตร์เรื่องปากท้องอย่าละเลย 
น่าชมเชยช่วยชาติลบกลบหนี้มา 

ตึกอลังการบริหารธุรกิจเค้า 
เรือสำเภาท่องสมุทรไปขายค้า 
สาวไฮโซหนุ่มโก้เก๊กเด็กAcc-BA 
สัมพันธ์เหล่าเทาอมฟ้าสามัคคี 

นักทดลองผู้ฝักใฝ่ไขปัญหา 
ด้วยรักเกียรติมนต์วิทยาสง่าศรี 
ชาวอะตอมชื่อกระเดื่องเลื่องปฐพี 
เหลืองจำปาSCBที่รู้กัน 

สถาปัตย์ถนัดบ้านงานดีไซน์ 
นิรมิตปราสาทใหญ่ในไพรสัณฑ์ 
เหล่าเหลืองทรายเรียนและเล่นละครกัน 
พยนต์นั้นเด่นงามตาน่าหมายปอง 

หลังคาเขียวตั้งเรียงเคียงดอยคำ 
อุตสาหกรรมเกษตรชาญงานกระป๋อง 
รูปโรงงานเตือนใจให้พี่น้อง 
พากเพียงเพื่อครุยแถบทองฉลองปริญญา 

ท้องทุ่งใหญ่ไพศาลใครหาญสู้ 
ถิ่นคนกล้ารวมผู้รู้สัตว์พฤกษา 
หัวกระบือชื่อก้องเขตเกษตรา 
เหลืองข้าวโพดสดซู่ซ่ากว่าสีใด 

วิศวกรรมศาสตร์ประกาศก้อง 
เลือดพี่น้อง เลือดหมู-แดง แรงเพียงไหน 
ลูกวิษณุยึดSotusผูกมัดใจ 
เกียร์ยิ่งใหญ่แห่งยอดชายEntaneer 

เหล่านางฟ้าผู้อารีชุดสีขาว 
แหล่งรวมดาวชาวตะเกียงชื่อไม่เสีย 
แสดงามตาพยาบาลเก่งการเชียร์- 
ลีดเดอร์เนี้ยเนี้ยบนิ้งปิ๊งทันที 

แดนน้ำเงินแสนเพลินจิตมิตรสี่ฝ่าย 
Med-Techกายภาพดังกับรังสี 
กิจกรรมบำบัดบริการดี 
คือเทคนิคการแพทย์นี้Be Health Science 

เขียวมะกอกถิ่นหนุ่มสาวชาวเภสัช 
ผู้เจนจัดโอสถารักษาหาย 
ร้านขายยาตราRxเห็นชัดง่าย 
เหล่าหญิงชายPhamacyที่ปราดเปรียว 

แพทยศาสตร์เฉียบขาดการเชียร์โชว์ 
สุจิณโณยืนยงคู่ธงเขียว 
Medicaนำสวนดอกให้กลมเกลียว 
เป็นหนึ่งเดียวรักษาราษฎร์ปราศโรคภัย 

ย่านสวยหล่อต้องหมอฟันทันตเวช 
ผู้ครองเขตสร้างยิ้มสวยช่วยสดใส 
Mouth mirrorเป็นเสมือนเพื่อนคู่ใจ 
ม่วงแก่เด่นDentลือไกลแต่ไรมา 

แม้นฟ้าหม่นฝนหยาดฟ้าอาทิตย์พลบ 
งูพันคบทบตัวVยังหรูหรา 
สัตวแพทย์เชียงใหม่ทุ่มวิญญาณ์ 
เปี่ยมเมตตารักษาสัตว์บำบัดเบา 

ตะวันลาจันทราลับสลับวุ่น 
โลกเปลี่ยนหมุนวันเดือนปีสี่สิบหนาว 
หลากดาราแจ้มจ้านภาพราว 
มิงานเท่าดาวม.ช.forมวลชน 
อตตานํ ทมยนติ บณฑิตา 
เหล่าบัณฑิตนั้นหนาย่อมฝึกฝน 
ช้างชูเพลิงเริงร่ากล้าอดทน 
อุทิศตนเพื่อประชาพัฒนาไทย.
				
18 พฤษภาคม 2549 10:00 น.

วงศ์พระร่วงมหาราชามหาสดุดี

นันทวงษ์วรยศ

ชุมกรกระพุมกมลน้อม                          ดนุพร้อมพจีขาน
   เทิดวงศ์พระร่วงจิรติกาล                             กรณีย์ธ ปางบรรพ์
         ศรีอินทราปติปฐม                                 พระบรม (มะ) ราชันย์
   เทิดวงศ์พระร่วงขจรขัณฑ์                           ศุภรัฐวโรดม
          แดนทองสุโขทยประสริฐ                       ฐิติเลิศวราคม
    พ่อขุน ธ แผ่ กรุณสม                                  สิริพูนอดุลศรี
          ครองไทยประชาดุจบิดร                       ทะนุบุตรธิดาดี
     นำไทยสถาพรทวี                                      สุขดังอรุณฉาย
          ลายสือสลักศิละประวัติ                          อภิสัจจะพรรณราย
     บ่งภูมิปัญญะคติหมาย                                อดิเรกอเนกคุณ
          รุ่งเรืองพระศาสนะผดุง                         จิตะมุ่ง ณ แรงบุญ
     นำพุทธศาสนิกหนุน                                  สติเมืองประเทืองมาน
           ข้าวบิณฑ์สถาปตยะเยี่ยม                     อรเอี่ยมวโรราฬ
     บัวบุญ ณ ดวงหทยะกราน                          กลหัตถ์กระพุมบู
           ชาทิพย์สุโขทยะพิทักษ์                         อภิรักษ์ไผทชู
     เชิดชาติตระการสกลรู้                               พลโลกก็รับรอง
           ไพร่ฟ้าก็ภูมิมนสะเปรม                       ปิติเต็มฤทัยพอง
     นบบาทถวายกิจะฉลอง                              มหราชสักการ
            ทูลเกล้า ถวายอมตยศ                        กิติเดชพระไพศาล
     โลกซ้องสุโขทยสถาน                                 ทิพเลิศนิรันดร์ เทอญ
   
 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนันทวงษ์วรยศ
Lovings  นันทวงษ์วรยศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนันทวงษ์วรยศ
Lovings  นันทวงษ์วรยศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนันทวงษ์วรยศ
Lovings  นันทวงษ์วรยศ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนันทวงษ์วรยศ