22 ธันวาคม 2548 21:59 น.
นัทนิตย์
เพลงลมพรมพร่ำทำนองหนาว
จังหวะนานยาว-รักร้าวหนึ่ง
พัดจากฤดีที่คำนึง
รำพึงผ่านการเห่ของเวลา
เพลงนั้นบอกเล่าความเศร้าสร้อย
สำออยสะอื้นคืนปวดปร่า
สำลักความช้ำบ่อน้ำตา
ไหลหลั่งถั่งมาปานฝนเท
เพลงนั้นได้รู้-ผู้เสียสละ
ถึงแพ้แต่ชนะลมหักเห
หนาวกาย-อุ่นใจ ใครรวนเร
ลมเร่-รักร้าง ระหว่างใด
เพลงลมพรมหนาวพัดคราวหนึ่ง
โศก-ซึ้ง ทำนองร่องหวั่นไหว
หนาวนี้-เพลงนั้น แม้วันไกล
เพลงเธออยู่ในใจ...ตลอดกาล
9 ธันวาคม 2548 19:40 น.
นัทนิตย์
จะโอดครวญเพื่ออะไรไม่เข้าท่า
ที่ผ่านมาไยไม่คิดให้ดีก่อน
แม้คุกเข่าสักล้านครั้งนั่งเว้าวอน
มิอาจหวนมาอาทรมาเห็นใจ
ที่เธอทำมันเจ็บเกินกว่าเจ็บ
เกินกว่าแผลที่เย็บมันปริใหม่
ก็เพราะรักจึงมิยอมให้อภัย
เพราะห่วงใยจึงคิดแลกขอแยกทาง
กี่ครั้งแล้วที่ให้เกินกว่าให้
จะกิ๊กใครกอดใครก็ใจกว้าง
ทำไม่รู้ไม่ชี้เป็นคนกลาง
ยอมเพราะร่วมกันวางอนาคต
ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม
ครั้งที่สี่ มีมาตาม มันเหลืออด
หัวใจคน มิใช่แมว ไม่ใช่มด
มีกำหนดตามอารมณ์อันสมควร
รู้จักรักไม่รู้จักทะนุถนอม
เห็นว่ายอมยิ่งยำทำปั่นป่วน
เห็นเคยได้คิดว่าได้ทุกกระบวน
ถึงเวลาต้องโอดครวญบ้างสักที
ปากเฝ้าเอ่ยเผยพร่ำคำว่ารัก
แต่ต่างนักการกระทำ...มิคงที่
แม้ถึงคราวต้องร้าวรานดวงฤดี
ก็ยังดีกว่าถูกหลอกไปวันวัน
จะงอนง้อทำไมให้เหนื่อยเปล่า
ยิ่งง้อยิ่งเห็นเงาโง่เขลานั่น
ผิดหนแรกยังอภัยไม่ว่ากัน
แต่หนนี้เกินจะกลั้น...ขอฉันไกล
6 ธันวาคม 2548 21:15 น.
นัทนิตย์
.
เราแตกต่างค่าแค่ว่า "เพศ"
ต่างมูลเหตุต่างปัจจัยให้คงอยู่
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งมิต่างทางรับรู้
คือชีวิตมีต่อสู้...มีหัวใจ
มีรัก...มีฝัน เพื่อวันคืน
มีจุดยืนจุดหย่อน แข็ง-อ่อน ได้
จะมีน้อยมีมาก ใกล้หรือไกล
ตามแต่ใครคิดไขว่คว้ามาสู่ตน
อาจมีสุขมีทุกข์มีท้อแท้
มีชนะมีแพ้มีจาง-ข้น
มีโชคมีซวยมีรวย-จน
มีร้อนรนมีเหน็บหนาวคละเคล้ากัน
เพียงอยู่ที่วิถีใดใครจะพบ
จากจุดเริ่มจนจุดจบไหวหรือหวั่น
ดวงใจใครจะสุข-ทุกข์ ถึงนิรันดร์
ล้วนนรกและสวรรค์บันดาลมา
๒.
เธอ...ช่างมีหัวใจโชคร้ายนัก
หนึ่งความรักที่หวังวาดปรารถนา
มีเรือนหอ,สวมแหวนหมั้นวันวิวาห์
ต้องจบลงตรงหน้าล้าโรยแรง
๓.
เขา...ผู้เธอศรัทธาว่ารักแท้
สุดท้ายก็แปรผันเหมือนกลั่นแกล้ง
มีหนึ่งยังมีสองปองจัดแจง
นี่จะแต่งนั่นจะเก็บให้เจ็บทรวง
๔.
ฉัน...เป็นแค่หนึ่งมิตรผู้หวังดี
โดยผูกพันด้วยไมตรีที่แหนหวง
เธอกับเขา ล้วนหลากเรื่องทั้งปวง
จึงเป็นห่วงความรู้สึกลึกข้างใน
๕.
เธออยากเอ่ยเผยถ้อยร้อยบางสิ่ง
ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งเป็นบ้าใบ้
ทำนบหนึ่งน้ำตาความปราชัย
พังบ่าไหลเป็นสายน้ำความทรงจำ
ลุกขึ้นยืนให้ได้อย่าพ่ายแพ้
มีจุดยืนอันแน่วแน่แม้ถลำ
อาจยากที่จะลบกลบรอยช้ำ
แต่อย่างน้อยการกระทำช่วยคลี่คลาย
ลุกให้โลกได้รู้...สู้เพราะรัก
เพื่อศักดิ์และศรีนารีหลากหลาย
ไม่ยอมเป็นเครื่องเล่นของผู้ชาย
มิยอมตายเพราะทดท้อต่อชีวิต
ให้น้ำตาแทนถ้อยจากหัวใจ
เพื่อบอกเล่าถึงวันใหม่ในลิขิต
จากสตรีผู้สดุดีวิธีคิด
ไม่ยอมปิดโอกาส...แม้พลาดพลั้ง
28 พฤศจิกายน 2548 18:06 น.
นัทนิตย์
หากหัวใจกลับกลายเป็นสายเชือก
จะขอเลือกเส้นงามตามจิตฝัน
เส้นหนึ่งแทนหัวใจใครคนนั้น
อีกเส้นแทนใจฉันวันพบเจอ
ปลายทั้งสองผูกติดเป็นมิตรแท้
ฟั่นดวงแดเป็นเส้นเดียวเกลียวเสมอ
ตั้งแต่ต้นจนจบดังพบเธอ
นำเสนอบางสิ่งอย่างจริงใจ
เชือกสองเส้นกลายเป็นหนึ่งซึ่งเหนียวแน่น
แม้มิเห็นเป็นแกนแก่นยิ่งใหญ่
หากเป็นเชื้อกที่ร่วมสร้างทางเป็นไป
รวมเป็นเส้นสายใยกันและกัน
เราจะผูกเชือกร้อยเป็นสร้อยรัก
เป็นเส้นศักดิ์หลักชัยหัวใจฝัน
เราจะจับคนละปลายสายสัมพันธ์
ตราบคืนวันจนเปื่อยยุ่ยเป็นขุยปลิว.
26 พฤศจิกายน 2548 20:37 น.
นัทนิตย์
เลิกกับเขาก็เลิกเถอะ...นุ่น
ผมเป็นห่วงคุณ...รู้ไหม
หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาคราใด
หนึ่งดวงใจผมแทบแหลกราญ
ข่าวเขาบอกว่าคุณเลิกรา
ที่คบกับเขามาเป็นทางผ่าน
ได้รับรู้...ใจผมยิ่งทรมาน
คุณทั้งสวยทั้งหวานไยเขาเมิน
คุณคือดวงดาวพร่างพราวค่า
คือดาราในดวงใจไม่ห่างเหิน
หน้าหนังสือ ในละคร นั่ง นอน เดิน
ผมเพลิดเพลินในทุกครั้งที่พบคุณ
เลิกกับเขตต์จริง ๆ หรือเปล่า ?
ดังที่เป็นข่าวใช่ไหมนุ่น ?
ช่างเถอะนะ...ทำใจให้ละมุน
ผมจะยังติดตามผลงานคุณ...ตลอดไป