2 ตุลาคม 2549 22:12 น.
นัทนิตย์
ฝนโรยโปรยสายแล้วหลายรอบ
ส่งมอบไมตรีวิถีหนึ่ง
ชุมเย็นเป็นไปในคำนึง
ส่งถึงสักคนบนเส้นทาง
อาจเดิน นั่ง นอน ขอก่อนหลับ
จงรับสายใยมิไกลห่าง
ลมฝนอาจหนาวหากเบาบาง
โลมทักทายบ้างตามเวลา
เถิดฝนเป็นฝนเพื่อค้นฝัน
เป็นมิตรนิรันดร์...ปรารถนา
มอบความชุ่มฉ่ำแทนน้ำตา
แทนโลกศรัทธาขอบฟ้าบน
สิ้นฝนสิ้นฝันสู่วันจาก
พัดพรากความจริงยิ่งสับสน
ฝนลาฟ้าแล้ง...อาจแฝงตน
อยู่ในโลกวกวน...หนอชีวิต
29 เมษายน 2549 14:57 น.
นัทนิตย์
ท้องฟ้าอึมครึมครึ้มหมอกเมฆ
ดุจต้องมนตร์เสกใครปลุกเป่า
เปลี่ยนโลกวันนี้เป็นสีเทา
เพิ่มหนึ่งความเหงายิ่งเศร้าลึก
เหมือนดั่งจงแกล้งแทงให้เจ็บ
คมเล็บกรีดใจจนรู้สึก
เลือดหลั่งตั้งรับปรับสำนึก
เกิดผลึกรอยแผล-ดูแลชีวิต
26 เมษายน 2549 18:02 น.
นัทนิตย์
เติมแย้มแต้มยิ้มคล้ายอิ่มรัก
ที่แท้กระอักเลือดคั่งอก
จุกเจ็บสะท้านนานสะทก
บัวบกหมดกระสอบแค่ปลอบโยน
พ่ายแพ้แก่โลกความโศกเศร้า
สดุดีความเหงาเท่าโลดโผน
คะนองกว่าคะนึงจึงเพลิดเพลิน
ก้าวเกินความจริงสิ่งพบพา
ในห้องรกเรื้อเหลือเศษซาก-
ความฝันอันมากปรารถนา
ความหวังเกินเสี้ยวเส้นเยียวยา
โอ่งรับน้ำตาจึงล้นรอง
ใบหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนอิ่มรส
แท้โลกกำหนดตอบสนอง
ไม่พอ...จึงแพ้แก่ครรลอง
กลืนความหม่นหมองเลี้ยงชีวิต.
22 กุมภาพันธ์ 2549 22:38 น.
นัทนิตย์
ลมหนาวร้าวลาอีกคราหนึ่ง
ส่งถึงเรื่องร้อนบทกลอนใหม่
จากห้วงฤดีวิถีไกล
จากใจคนช้ำได้นำทาง
สู่โลกแดดกล้าฟ้าระอุ
ปะทุร้อนเร่าแผดเผาร่าง
ไร้ลมพรมฝันอันเลือนราง
ท่ามกลางกระแสปรวนแปรทิศ
จึงอยู่กึ่งลานการร้างลา
รอหนึ่งฝนฟ้าจะลิขิต
โปรยปรายสายเปลเห่ชีวิต
ล้างจิตคลายใจใครบางคน
ลมร้อนกลับมาเมื่อคราพบ-
อีกร่มสงบกลบหมองหม่น
กลางลานการหวังอยู่วังวน
สักคนสักครั้งนั่งบอกรัก
23 มกราคม 2549 22:23 น.
นัทนิตย์
บอกเธอจะดีไหม...
ว่าอยากให้ขอบคุณความอกหัก
ที่นำพาให้เราเข้าใจรัก
เรียนรู้หลักวิถีแห่งชีวิต
จะบอกเธอดีไหม...
ว่าอย่าให้ใครอยู่เหนือสิทธิ์
เราคือเราคือเจ้าของความคิด
มีอิสระเหนือพันธนาการ
เธอจะบอกได้ไหม...
ว่าหัวใจเธอจะร่วมขับขาน
บรรเลงคีตศิลป์จินตนาการ
ดูแลความชื่นบานของหัวใจ
ดีไหมถ้าบอกเธอ...
ว่าอย่าเพ้อจนเศร้าหมองและร้องไห้
ใบไม้ร่วงยังป่งยอดอีกหลายใบ
แล้วเหตุใดจะไม่พบคนดีดี
ขอบคุณความอกหักเสียเถิดนะ
ให้โลกรู้ว่าผู้เสียสละนั้นอยู่นี่
เจ็บอย่างไร-สุขแบบไหนในชีวี
ทุกอย่างมีทางออกถ้าบอกกัน
อย่าลืมล่ะ...ขอบคุณตัวเอง
ที่แม้เคว้งก็ยังค้นจนพบฝัน
รู้ "เรา" เป็น "เรา" ก็เท่านั้น
วิถีทางเราต่างกัน...จึงต้องลา