3 มีนาคม 2549 22:16 น.
นัฐรัญ
เสียงหัวเราะดังเกรียวกราวลั่นทั้งบ้านในงานวันเกิดลูกชายคนเล็กของนายตำรวจชั้นผู้น้อย ในวันนี้มีญาติพี่น้องมากันมากหลายคน แต่ละคนดำเนินชีวิตกันอย่างสงบเรียบง่าย ไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับใคร แทนคุณและแทนไทยิ้มดีใจที่พ่อและแม่มอบของขวัญแก่พวกตนเป็นสร้อยเหรียญทองแดงประทับตราพระพิมพ์ของในหลวง พ่อสอนทั้งสองว่า เวลาทำอะไร ไทกับคุณ ลูกจะต้องทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริต ทำดีทุกเวลานะลูก เพราะทุกการกระทำของลูก ในหลวงท่านทรงเห็นหมด แทนคุณและแทนไทรับของขวัญและคำสั่งสอนนั้นไว้ โดยที่ไม่ทราบเลยว่าสร้อยและคำสั่งสอนนี้จะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของพ่อและแม่
เมื่อเข้าช่วงดึกมืดสนิทประมาณใกล้เที่ยงคืน กลุ่มชายฉกรรจ์ ๔ คนก็บุกเข้ามาในบ้านพร้อมทั้งยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด ทุกคนในบ้านต่างตกตะลึงหวาดกลัวตัวสั่น ชายกลุ่มนั้นก็เริ่มยิงสมาชิกในบ้านไปทีละคนๆ แม่รีบพาลูกชายทั้งสองออกจากประตูหลังบ้าน พ่อก็คอยป้องกันภัยด้านหลังให้ เสียงปืนดังสนั่นไม่ขาดสายจนมาถึงสวนยางพาราอันหนาทึบ พ่อสั่งให้แทนไทและแทนคุณเข้าไปหลบในพุ่มไม้สูง ส่วนพ่อและแม่เดินเข้าเผชิญกับกลุ่มคนในชุดข้าราชการนั้น
พวกมึงมาขัดกำไรกู อย่าอยู่เลย ไอ้มารความสุข ชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งพูดขึ้น ไม่นานเสียงปืนก็ดังติดต่อกัน ๓-๔ นัด แทนไทวิ่งจูงมือน้องชายออกมาหาพ่อและแม่ ที่บัดนี้มีเพียงแต่ร่างอันไร้วิญญาณ เลือดสีแดงๆไหลออกมาจากบุพการีทั้งสองไม่หยุด และน้ำตาของเด็กชายไหลท่วมออกมาปานประหนึ่งจะสิ้นใจตายตาม
แม่จ๋าตื่นสิ พ่อจ๋าตื่นสิ แทนคุณเด็กน้อยสะอึกสะอื้นเพรียกร้องอ้อนวอนให้ร่างของผู้เป็นพ่อแม่ฟื้นขึ้น แทนไทลูกคนโตพยายามข่มใจมิให้น้ำตาไหลอีกและพูดกับน้องของตนไปว่า หยุดร้องได้แล้วคุณ หยุดร้องได้แล้ว เราต้องหาบ้านอยู่และพี่จะส่งแกไปเรียนให้สูงๆ โตขึ้นเราจะแก้แค้นแทนพ่อแทนแม่ให้ได้ บ้านเมืองนี้มันมีแต่คนเลวบาปหนัก สักวันแผ่นดินผืนนี้มันจะไม่มีชื่อว่า ไทย
ระยะเวลาคงจะเป็นเครื่องบรรเทาอาการเจ็บปวดของเด็กน้อยได้ดีที่สุด แล้ว ๑๕ ปีก็ได้ล่วงเลยผ่านไป แทนคุณลบภาพอดีตเหล่านั้นออกจากปัจจุบันในชีวิตแต่ยังคงเหลือเป็นความทรงจำในจิตใจเท่านั้น ความเคียดแค้นทั้งหลายได้สลายไปไม่มีเหลืออีกแล้วสำหรับแทนคุณ บัดนี้เขาเป็นนายทหารหนุ่มรุ่นใหม่รูปงามได้ไปประจำการที่บ้านเกิดของตน พร้อมภารกิจหลักในการขจัดโจรแบ่งแยกดินแดนให้สิ้นซาก เพื่อหวังว่าเขาจะได้ทดแทนบุญคุณของแผ่นดินและทำหน้าที่ที่พ่อมอบไว้ให้ก่อนสิ้นใจคือทำงานต่อหน้าพระพักตร์ให้สุจริตซื่อตรงที่สุด เสียงรถไฟดังฉึกฉักๆเป็นจังหวะสม่ำเสมอปลุกเร้าดวงใจให้ทหารใหม่ไฟแรงสูงรู้สึกอยากจะทำงานเพื่อชาติให้เร็วไวฉับพลันที่สุด
เย็นวันเดียวกันนั้นเอง พลทหารนายหนึ่งกระตือรือร้นเข้ามายกสัมภาระของแทนคุณ และรายงานว่า ขณะนี้เกิดการปะทะระหว่างโจรแบ่งแยกดินแดนกับทหารขึ้นที่ชายแดน
อะไรกัน มาวันแรก ทหารประจำการใหม่ก็ได้ลุยงานเลยเหรอ ไวอย่างที่ใจเราต้องการทีเดียว แทนคุณเปรยขึ้นอย่างสนุกเพราะอยากจะปฏิบัติการเพื่อชาติแล้ว เขาเดินอย่างแคล่วคล่องไปยังรถทหารมุ่งตรงสู่จุดปะทะ
เมื่อถึงยังที่เกิดเหตุ การต่อสู้ยังคงมีต่อไปอย่างดุเดือด แทนคุณเริ่มเปลี่ยนสีหน้าจากเบิกบานมาเป็นเคร่งเครียด รีบเข้าไปรายงานตัวพร้อมปฏิบัติการภารกิจเร่งด่วน ณ เวลานี้หัวใจของแทนคุณนั้นเต้นเป็นจังหวะที่แรงเร็วขึ้น ที่คอของนายทหารหนุ่มมีเหรียญของขวัญชิ้นสุดท้ายของพ่อติดอยู่ เขาไหว้เหรียญนั้นแล้วเริ่มงานที่แสนจะอันตราย
การต่อสู้ดำเนินไปโดยมีทีท่าว่าฝ่ายโจรก่อการร้ายเริ่มจะล่าถอย ฝ่ายทหารจึงบุกล้ำเข้าไปอีกเพื่อหวังว่าจะไปได้ถึงแหล่งซ่องสุมกำลังโจร แทนคุณดวลปืนต่อสู้กับโจรคนหนึ่งมีร่างกายสันทัดคล่องแคล่วและมีหมวกไหมพรมดำสนิทบังหน้าตา กระสุนของทั้งสองคนหมดลง การต่อสู้จึงเปลี่ยนมาเป็นตัวต่อตัวด้วยอาวุธกาย แทนคุณแตะโดนต้นคอพลางใช้ความเร็วของมือเกี่ยวหมวกไหมพรมถอดออก ใบหน้าของโจรที่อยู่ภายหน้าแทนคุณทำให้น้ำตาของเขาไหล เพราะใบหน้าที่คล้ำ คมสัน มีแววตาที่กระด้าง คิ้วหนานั้น คือแทนไทพี่ชายของเขานั่นเอง และสิ่งที่ทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้นก็คือ สร้อยที่คอของโจรผู้นั้น ทั้งสองหยุดเพ่งมอง แทนคุณจึงเอ่ยขึ้น
พี่ไท พี่ไปเข้าร่วมกับพวกจัญไรนั่นได้ยังไง
ใครจัญไรคุณ ไอ้พวกเสื้อกากีนั้นหรอกที่จัญไร พวกที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่เราไง แกรู้รึเปล่า ไอ้พวกนั้นมันตายทั้งโคตรเลย ฝีมือพี่ทั้งนั้น ตอนนี้พ่อแม่ของเราคงนอนตายตาหลับแล้วล่ะ แทนไทตอบและกล่าวเสริม คุณ เรากำลังได้อาณาจักรใหม่แล้วนะ แผ่นดินของเราเอง ไม่ใช่แผ่นดินไทยผืนนี้ คุณ เข้าร่วมกับพี่เถอะ
พี่บ้าไปแล้วพี่ไท อาณาจงอาณาจักรอะไรของพี่ เพ้อฝันไปทั้งนั้น เราเติบโตมาได้ก็เพราะแผ่นดินแผ่นนี้หรือมิใช่ แทนคุณพูดขึ้น
แทนไทขัดคุณ เงินทั้งหมดที่แกใช้ ที่แกเอาไปเรียน มันก็เงินที่พี่ปล้นฆ่าเค้ามาทั้งสิ้นแหละ เพราะไอ้คนในแผ่นนี้มันไม่มีใครดีหรอก
พี่อย่าให้คนส่วนน้อยมาทำลายคนส่วนมากสิ ความจริงในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีเสมอไป ท้องฟ้าสว่างมันก็มีมืดบ้าง ทะเลสงบมันก็มีคลื่นแรงบ้าง แล้วทำไมแผ่นดินที่มีคนดีจะมีคนไม่ดีบ้างไม่ได้ แต่การกำจัดคนไม่ดีมันไม่ใช่การเข่นฆ่ากันเองเพราะมันจะจองเวรกันไม่มีที่สิ้นสุด เราควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ผู้เป็นน้องกล่าว
แต่ที่เราประสบอยู่ทุกครั้ง แผ่นดินนี้มันหาความยุติธรรมไม่ได้ เราไปสร้างแผ่นดินของเราเองเถอะนะคุณ แทนไทชักชวนให้เข้าร่วม
พี่ไท ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ พี่ก็รู้อยู่ว่าหมายความถึงอะไร พ่อแม่บอกว่าที่ท่านตั้งชื่อ แทนไทและแทนคุณ ก็เพราะต้องการให้เราแทนคุณแผ่นดินไทย แผ่นดินผืนนี้ สร้อยคอของพี่ที่แขวนอยู่นั้นมันคงทำให้พี่รู้สึกผิดบ้างว่าพี่กำลังทำผิดต่อหน้าพระพักตร์อย่างแสนสาหัส ทรงมองตลอดเวลาที่พี่ทำอะไรลงไป แทนคุณเตือนสติพี่ชายใบหน้ามีน้ำตาไหลออกมาตลอดเช่นเดียวกับแทนไท
แทนไทไม่ตอบโต้และนิ่งเฉยอยู่ครู่ใหญ่ แล้วพูดว่า จับพี่เข้าตารางที พี่รู้แล้ว แทนคุณนำกุญแจล็อกข้อมือของพี่ชายตนแล้วนำไปพิจารณาคดี ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องจับพี่ตัวเองเข้าคุก เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่พี่น้องทั้งสองจะไม่ได้เจอกัน
๔ ธันวา มีเอกสารหลายฉบับเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลวางอยู่บนโต๊ะของแทนคุณแต่มีเอกสารมาใหม่ฉบับหนึ่งเขียนว่าพระราชทานอภัยโทษนักโทษแทนไท แทนคุณหยิบขึ้นมามองดูอีกครั้งเพื่อความมั่นใจและเมื่อแน่ใจแล้วหัวใจของเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เขารีบแต่งตัวไปรับพี่จากเรือนจำทันที
บานประตูเหล็กสีน้ำตาลแน่นหนาค่อยๆเปิดกว้างออกมา นักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษต่างๆออกันอยู่ที่ประตู พร้อมที่จะเผชิญกับโลกภายนอกอีกครั้งหนึ่ง ภายหน้าแทนคุณซึ่งนอกเรือนจำก็มีชายคนหนึ่งยืนส่งยิ้มให้เขาอยู่และกำลังวิ่งเข้ามาหา
เปรี้ยง! เสียงปืนหนึ่งครั้งดังขึ้น แทนคุณทรุดตัวลงแต่สีหน้ายังคงร่าเริงและยิ้มตอบนักโทษพี่ชายซึ่งเร่งฝีเท้าเข้ารับกายของตน แทนคุณพยายามไหว้ที่เป็นประดุจพ่อของเขาแล้วยิ้มให้อีกครั้งก่อนหลับตาลงอย่างสงบ โดยหวังว่าแม้จะมีใครไม่ดีมาทำร้ายพี่ของเขาให้เจ็บปวดรวดร้าวใจ พี่แทนไทของเขาก็จะไม่เข้าไปสู่ทางที่มืดมนนั้นอีกแล้ว แต่จะหันมาพึ่งกระบวนการยุติธรรมที่นายทหารผู้นี้ศรัทธามาตลอดแม้ว่าเขาจะยังไม่รับความเที่ยงธรรมนั้นเลยก็ตาม
เรื่องราวผ่านไปถึง ๗ ปี หลังจากที่แทนคุณสิ้นใจ ความยุติธรรมจึงเกิดขึ้น เมื่อศาลหาตัวคนผิดทั้งหมดในวงข้าราชการที่ประพฤติผิดมิชอบมาลงโทษ โดยโจทก์ที่ยื่นเรื่องฟ้องร้องนั้น ก็คือแทนไท บทเรียนตลอดระยะเวลากว่า ๒๐ ปีทำให้แทนไทได้รู้ว่า ความยุติธรรมมีจริงและแผ่นดินไทยผืนนี้คือที่ที่ร่มเย็นที่สุข เพราะคนไม่ดีทุกคนย่อมจะต้องได้รับผลกรรมไม่ช้าก็เร็วในที่สุด และแทนไทยังเชื่ออีกว่า ผู้ใดโกงทรัพย์สินโกงบ้านโกงเมือง พระสาทิสลักษณ์บนธนบัตรก็ยังทรงจ้องมองอยู่ทุกครั้งที่กระทำผิด ฉะนั้น ความดีเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยทำให้เรามีมลทิน
26 มกราคม 2549 21:48 น.
นัฐรัญ
..........มีผู้หญิงผู้ชายกลุ่มหนึ่งถือหนังสือมาคนละสองสามเล่ม ด้วยท่าทางอันสง่างามเป็นผู้ดี เดินตรงไปเข้าห้องกว้างมีโต๊ะอยู่ ๖-๗ โต๊ะ แต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปจัดของต่างๆบนโต๊ะของตนให้เข้าที่แลดูมีระเบียบเรียบร้อย จากนั้นทั้งหมดก็เดินออกไปโดยมือติดไม้เรียวยาวไปคนละไม้
.........."นักเรียนเคารพ" เด็กชายคนหนึ่งเอ่ย เด็กทุกคนยืนตรงประนมมือก้มศีรษะแล้วเอ่ยพร้อมกันว่า "สวัสดีครับคุณครู" ครูผู้หญิงคนหนึ่งก้าวเท้าออกมาจากกลุ่มแล้วแนะนำตน จากนั้นก็มีครูคนถัดๆมาแนะนำตัวตามลำดับจนครบทุกคน แววตาของเด็กๆเต็มไปด้วยความหวัง...นานแล้วที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาสอนในป่าดงงพงพีนี้...นานแล้วที่เด็กๆต้องนั่งอยู่กับบ้านวิ่งเล่นไปวันๆ...นานมาแล้วที่พวกเขาไม่ท่องก.ไก่ ข.ไข่...บัดนี้ พวกเขามี "ครู" มาสอนแล้ว
..........วันหนึ่งเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งไม่มาโรงเรียน ครูผู้เข้ามาสอนห่วงใยอาทรเป็นอย่างยิ่ง เมื่อหมดเวลาสอนในวันนั้นเธอก็วานนักการผู้ชราช่วยนำจักรยานอันคร่ำครึจากโรงเก็บของแสนเก่าออกมา นักการจูงจักรยานมาให้เธอก็ไม่รอช้ารีบเร่งขี่จักรยานตรงไปตามถนนที่แม้แต่ลูกรังก็ไม่ใช่ จนถึงปลายทาง นั่นคือ บ้านของเด็กหญิงที่ไม่มาเรียนนี่เอง บ้านของเด็กผู้เยาว์นี้ไม่ต่างอะไรกับกระท่อมที่ใกล้จะผุพัง พื้นบ้านเป็นพื้นไม้ขัดแตะอันเป้นทั้งห้องนอน ห้องกิน ห้องขับแขก ภาพตรงหน้าของครูหญิงวัยยี่สิบกว่านั้น คือ เด็กหญิงผู้จับไข้หนักมีแม่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวอยู่ ครูเร่งเข้าไปช่วยเสมือนเด็กนั้นเป็นบุตรในอุทร เมื่อเห็นท่าอาการจะไม่ดี ก็รีบขี่จักรยานคันโบราณไปที่โรงเรียน บอกครูคนอื่นๆให้ออกจากป่าชื้นนี้ไปซื้อยา เด็กน้อยนี้แสนโชคดีกินยาทันท่วงทีอาการเจ็บไข้จึงทุเลา เมื่อพร้อมเรียน ครูก็สอนย้อนหลังให้ทันกับเพื่อนในชั้นเรียน
.........อีกครูหนึ่งนั่งกังวลกับพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กรุ่นที่ยึดมั่นถือติดกับความคิดของตัวเอง ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครู ที่หนักกว่านั้นคือเที่ยวชักชวนเพื่อนให้หนีเรียนไปมั่วสุมเสพกัญชา ครูบุรุษนั้นรุนแรงจับเด็กใส่โซ่ตรวนแล้วดุด่าสารพัด เด็กนั้นแทนที่จะเจ็บใจข้องจิตกลับหดหู่สลดใจ เพราะน้ำตาครูอาบแก้มท่วมล้นจนกลั่นเป็นหยดลงไปสัมผัสกับเส้นผมของศิษย์ผู้นั้น น้ำตานักเรียนพรั่งพรูออกมาดั่งชลธีดันตัวลงก้มกราบเท้าผู้เป็นครู แล้วสัญญาว่าจะไม่ยอมเป็นทาสยาเสพติด
..........ปัญหาใดก็ไม่หนักใจเท่านักเรียนผู้เฉลียวฉลาดแต่นิสัยเห็นแก่ตัวมากนักหนา ครูทั้งหลายกลุ้มใจทุกเวลา จึงหาทางออกสั่งสอนนักเรียน ด้วยการเข้าไปอยู่ในห้องมืดแสนสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเพียงหนึ่งคน ใจนักเรียนทรมานอยากมีเพื่อนมาอยู่เคียงข้าง พอพ้นราตรีนั้นไป ครูก็ถามว่า "รู้สึกเช่นไร" เด็กผู้มากทิฐิจึงตอบตามสัตย์ว่า "เหงา" ครูถามต่อไป "อยากมีเพื่อนไปอยู่ด้วยหรือไม่" เด็กนั้นตอบ "อยากเป็นที่สุด" ครูจึงถามข้อสุดท้าย "รู้มั้ยเหตุใดไม่มีเพื่อนเข้าไปด้วย" เด็กนั้นเงียบก่อนเอ่ยขึ้นมาด้วยความสำนึกว่า "เพราะหนูไม่เคยให้อะไรใคร ก็คงไม่มีใครให้อะไรหนู" ครูพูดว่า "ครูไม่ให้เพื่อนเข้าไป" เด็กนั้นใจสั่นไหวก้มหน้านิ่งเพราะเข้าใจในสิ่งที่ตนทำมา
..........ผ่านไป ๒๐ ปี ครูเริ่มแก่ตัวแต่ยังคงถือไม้เรียวเข้าห้อง ขี่จักรยานห่วงนักเรียนอยู่เหมือนเดิม แต่นักเรียนเมื่อกาลก่อนกลับเปลี่ยนแปลง เด็กผู้อ่อนแอเป็นหมอรักษาคนยากคนจน อาสาสมัครถวายงานเป็นแพทย์พอสว.เพื่อแผ่นดิน เด็กชายผู้เคยเสพยากลับเป็นทหารชาญการยุทธรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดทุกวิถีทาง เพราะมีปณิธานกระทำตนเป็นคนดีเพื่อประเทศไทย ส่วนเด็กหญิงผู้มากทิฐินั้นรับราชการเป็นแม่พิมพ์ของชาติผู้อุทิศตนและยังมีมิตรสหายเสียอีกมากมาย นักเรียนเมื่อหลายปีก่อนถือพวงมาลัยพวงงามมาคนละพวงเดินเข้าไปก้มกราบตรงเท้าครูผู้เคยประสิทธิ์ประสาทวิชาและอบรมจริยาเป็นคนดี พร้อมมอบมาลัยอันวิจิตรนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนคำขอบคุณ
..........ครูต่างยิ้มกันหน้าระรื่นชื่นใจที่มีศิษย์เป็นคนดี และปณิธานของครูทุกคนคือ สร้างศิษย์เป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าต่อสังคม และใจครูก็หวังต่อไปว่า "แม่พิมพ์ของชาติคงจะเป็นแม่พิมพ์แท้ที่ไม่สูญพันธุ์"
ขอมอบงานเขียนนี้บูชาครู
15 กุมภาพันธ์ 2548 21:44 น.
นัฐรัญ
เปิดม่าน ฉากที่ ๑
มากาเร็ต - maria...mari..ar...นังมาเรีย!!!!!!
มาเรีย - What's up mom?
มากาเร็ต - ช้านเรียกแกเป็นhunderdเป็นthousand times why don't come out ฮะ
มาเรีย - Well...er
มากาเร็ต - Shut up แกไม่ต้องแก้ body เลยนะ หนอยแนะ แกอยากไม้สนนักใช่มั้ยฮะ....(หยิบก้านสน)
มาเรีย - ท่านแม่ (โดนตี) โอ้ย!!!
มากาเร็ต - (โยนผ้าใส่) เอ๋า เอาไปซักให้สะอาด before the sun sets you have to (พูดอย่างรวดเร็ว) ถูพื้น กวาดพื้น wash the dishes ขัดเครื่องเรือน give food dog and cat ใส่ปุ๋ยต้นไม้ (เสียงหายใจ) do you understand ..... ไป๊
มาเรีย - (ซักผ้า แล้วเจอนาฬิกาปลุก ช็อก ซาวเบาท์ ช็อก) ต่อไปล่ะ (บิกินนี่ช็อกอย่างรุนแรง) please censor
รอ. 2 - นั่นใครเน๋
รอ. 1 - I dont know
รอ. 3 - รึว่า (หันหน้าเข้าหากัน) คุมตัวไปก่อน
มาเรีย - กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!!!!!!!!!!! ปล่อยช้านปล่อยช้านนนนนนนนนนนนนนน
เปิดม่าน
แอนโทนัส - ใจเอยล่องลอยไปอยู่แห่งหนใด my heart gone with the wind(ทำท่าคิด แล้วไปเขียนที่สมุด)
รอ. 2 - Crown Prince
แอนโทนัส - (ชะงักมือ) What (เห็นมาเรีย)
รอ. 3 - A gril มิทราบชื่อกระหม่อม เข้ามาในเขตที่ประทับ กระหม่อมก็เลยคิดว่า Maybe she's a spy กระหม่อม
แอนโทนัส - What's the matter with her
รอ. 1 - เธอกรี๊ดสลบไป สงสัยจะไปไม่ใช่ spy
มาเรีย - (ฟื้นขึ้นมา ทำท่างงๆ) ที่นี้ที่ไหน Who are you แล้วให้บุรุษ 3 คนนี้จับตัวข้ามาทำไม
แอนโทมัส - หยุดก่อนนาง เราคือ I'm Antonus โอรสแห่งราชาวินเซ็นท์ แห่งมอสควา
มาเรีย - (ทรุดบังคม) หม่อมชั้น ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมชั้นมิทราบ
แอนโทนัส - ลุกเถิดนาง What's you name แล้วนางอยู่ที่ใด ฤา
มาเรีย - I'm มาเรีย Daughter of เจ้าของไร่ด้านตะวันออกของชายเขาวินเนอร์ My mom ของข้าสิ้นชีพไปแต่ครั้งยังเด็ก My step mother.......
แอนโทนัส - นางคง unhappy ที่ได้อยู่บ้านนั้นใช่มั้ย เอาเช่นนี้ นางจง stay with Alexandria my fiance แล้วจงค้นหาความสุขที่แท้จริงว่า God จะทรงให้เจ้าอยู่กับแม่เลี้ยงผู้ทารุณ or อเล็กซานเดรียทางเลือกอีกทางของเจ้า