25 ตุลาคม 2544 11:21 น.
นักเลงกลอน
ในที่สุดเวลาก็มาถึง
วันที่ซึ่งงานการกลับมาหา
วันที่ซึ่งปะสหายได้อีกครา
เปิดเทอมมาสุดปีติแสนยินดี
แต่เวลาปะสหายออนลายน์ลด
กวีบทที่แต่งแต้มซึ่งสันสี
เป็นดั่งรสต่างต่างของชีวี
คงต้องมีลดลงเพราะเวลา
23 ตุลาคม 2544 05:12 น.
นักเลงกลอน
ท้องฟ้า ท้องฟ้าเพื่อนฉัน
ทุกวันเธอเตือนฉันให้สดใส
ผ่านคืนวันอันปวดร้าวไปด้วยใจ
ใยวันนี้เธอดูเศร้าหมองนัก
ท้องฟ้า ท้องฟ้าเพื่อนฉัน
เธอนั้นเคยเตือนฉันให้ประจักษ์
ว่ามนุษย์อยู่ผู้เดียวนั้นเหงานัก
ใยเพื่อนรักไม่เอ่ยว่าใครทำ
ท้องฟ้า ท้องฟ้าเพื่อนฉัน
ไม่ว่าใครทำเธอให้เจ็บช้ำ
ทำให้เธอหมองเศร้าไปเสียร่ำ
เธอจงจำว่าเราเป็นเพื่อนกัน
ท้องฟ้า ท้องฟ้าเพื่อนฉัน
เมื่อเธอคั้นน้ำตาแห่งเศร้านั้น
จงปล่อยให้ไหลสิ้นหัวจิตพลัน
แล้วเธอนั้นจงทำใจให้สบาย
ท้องฟ้า ท้องฟ้าเพื่อนฉัน
ในที่สุดเธอนั้นก็ยิ้มได้
เมื่อหยาดฝนแห่งเศร้าไหลผ่านกาย
ฉันก็ได้เห็นฟ้าใสอีกครา
22 ตุลาคม 2544 11:17 น.
นักเลงกลอน
ถ้าคนด่าอย่าบ้าไปด่าตอบ
ต้องรอบคอบตีงูต้องหักหลัง
จะเอ่ยเอื้อนวจีใดให้ระวัง
ค่อยค่อยสังเกตคู่กรณี
หนึ่งถ้าเขาด่ามาแบบโง่โง่
คุณก็โต้ตอบได้ไม่หมองศรี
บอกเหตุผลให้เขาฟังดีดี
แล้วไล่บี้ด่ามันให้แสบทรวง
สองถ้าเขาด่ามาด้วยเหตุผล
อย่าดื้อชนดีไม่ดีคุณจะร่วง
อย่าไปตอกให้เขาเจ็บช้ำทรวง
ต้องคอยหน่วงว่าจะด่ากันทำไม
สามถ้าเขามาเรื่องซ้ำซ้ำ
มาตอกย้ำจุดด้อยของส่วนไหน
ไม่เกี่ยวข้องต้องหลบอย่าเข้าไป
ถ้าเกี่ยวไซร้ตอบกลับ"ว่างนัก'ไง"
จงจำไว้คนโง่คือคนบ้า
เที่ยวไล่ด่าเรื่องที่ตัวรู้ชัดไม่
จงจำว่าหุบปากเก็บความโง่ไว้
ดีกว่าไปอ้าปากแสดงความโง่ตัว
22 ตุลาคม 2544 09:37 น.
นักเลงกลอน
แม้เรายังไร้ซึ่งอนาคต
แต่เรายังไม่หมดซึ่งความหวัง
ไม่มีสิ่งอันใดที่จีรัง
เราคงยังไม่ไร้ค่าไปนิรันดร์
แม้นภามิดมืดและหมองหม่น
จันทราทนส่องสว่างอยู่อย่างนั้น
แสงนวลๆริบหรี่ของดวงจันทร์
ไม่ผิดผันแผกจากที่เราทำ
สู้ต่อไปอดทนมีชีวิต
ไม่หลงผิดไม่ท้อไม่ถลำ
ก้าวให้ไกลพลาดไปบทเรียนจำ
พยายามคงนำสำเร็จมา
แม้วันนี้มิอาจเอื้อมถึงความฝัน
แม้แสงจันทร์มิอาจเทียบตะวันกล้า
แม้วันนี้เราอยู่เหมือนไร้ชีวา
แต่วันหน้าเราจะไปให้ถึงดาว
22 ตุลาคม 2544 05:08 น.
นักเลงกลอน
สะพรึงกลัวสยองเกล้ามีสองอย่าง
หนึ่งไร้ทางใคร่รู้ความเคลื่อนไหว
สองแม้รู้แก้มิได้ต้องจนใจ
สองสิ่งไซร้ขนพองถ้วนหน้ากัน
ด้วยอย่างแรกมิอาจรับมือไหว
ไม่รู้ได้ว่าสิ่งใดถูกเสกสรรค์
ก็มิอาจจะต้านและทานกัน
ให้ตัวสั่นหนาวเหน็บไปทั่วกาย
อย่างที่สองรู้ผลอย่างจะแจ้ง
แต่กลับแล้งซึ่งหนที่ตนหมาย
แม้อยากหลีกเลี่ยงผลที่แสนร้าย
จำยอมวายวอดสิ้นตามแต่กรรม