17 ตุลาคม 2544 01:57 น.
นักเลงกลอน
ตัวฉันเองฉันนั้นอยู่ที่นี่
แต่สิ่งที่ตัวฉันนั้นสงสัย
ว่าคำฉันท์ทั้งหลายอยู่ที่ใด
ตัวฉันไซร้เหนื่อยจิตคิดสงกา
คำฉันท์ที่ไพเราะหายไปไหน
ฉันสงสัยไม่แต่งกันเลยหนา
ฉันเห็นนักกวีมีนานา
แต่จะมาแต่งฉันท์ไม่เห็นมี
อันคำฉันท์แต่งยากนั้นจริงอยู่
แต่ลองดูฉันคิดไม่น่าหนี
ลองหัดแต่งฉันท์จะยากอย่างไรมี
หรือติดที่ฉันไม่กล้าเท่านั้นเอง
16 ตุลาคม 2544 23:46 น.
นักเลงกลอน
ชีวิตหนึ่งเกิดมามีความฝัน
แต่เด็กนั้นเกิดมาอยากแข็งกล้า
เป็นวัยหนุ่มหวังคู่สมอุรา
วัยชราหวังบุตรหลานได้ดี
ตัวเราก็หนึ่งคนย่อมคิดฝัน
อยากจะได้ไอ้นั่นเป็นไอ้นี่
ความฝันนั้นมากมายหลายหลากมี
ฝันทั้งทีอยากให้สมอารมณ์ปอง
ตั้งเป้าชีวิตคิดฮึดสู้
อยากจะรู้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง
ถ้าเราฝันแล้วสมนึกก็น่าลอง
ผมเลยจ้องมองฝันแล้วก้าวไป
ทุกครั้งที่นึกหวังไม่สมนึก
ทุกครั้งที่รู้สึกไม่ทนไหว
ทุกครั้งที่ช้ำทรวงเพราะท้อใจ
เตือนตนไว้ "ฝันยังไม่สิ้น" เอย
16 ตุลาคม 2544 01:43 น.
นักเลงกลอน
ทำไมฉันจึงยืนอยู่ที่นี่
ที่ไม่มีหรรษาพาสุขสันต์
แม้เหล่ามิตรสหายจะเมินกัน
แต่ตัวฉันมาที่นี่เพื่ออะไร
บทกวีมีทั้งพาหัวร่อ
บทกวีมีข้อพาสดใส
บทกวีพาเศร้าสลดใจ
บทกวีพาใจให้ล่องลอย
ใช่ความสุขที่ได้เฝ้าแต่คอยฝัน
ใช่ตัวฉันหลงเฝ้าคลายเหงาหงอย
ใช่กวีมีค่าดังเพชรพลอย
แค่นิดหน่อย "รักกวี" เท่านั้นเอง