26 เมษายน 2551 10:35 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
บ้านลุงโง่แกอยู่หลังภูเขา
กว่าจะเข้าเมืองทีมีปัญหา
ต้องเดินอ้อมแสนไกลใจระอา
ใช้เวลาเสียหายมาหลายปี
ถ้าจะปีนภูเขาไปเข้าเมือง
ก็เป็นเรื่องหนักหนาหน้าเปลี่ยนสี
แม้ใกล้กว่าแต่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยทวี
หาวิธีแก้ไขอย่างไรกัน
แกจึงคิดขึ้นได้ย้ายภูผา
ที่อยู่หน้าตรงทางเพื่อสร้างฝัน
เอาแรงงานลูกหลานเข้ารามรัน
หมายจะสรรค์สร้างไว้ให้ลือนาม
แล้วชักชวนกันมาขนผาหิน
ทีละชิ้นขึ้นแอกต่างแบกหาม
ทีละนิดละหน่อยค่อยพยายาม
ทุกวันตามทำไปไม่ประวิง
แล้ววันหนึ่งมีคนผ่านมาพบ
มองแล้วขบขันในหัวใจยิ่ง
บอกลุงเอ๊ยทำไมถึงโง่จริง
ทำในสิ่งที่ใครเขาไม่ทำ
ลุงตอบว่าภูผาหางอกขึ้น
อย่ามัวมึนขึ้งว่ามันน่าขำ
ลูกหลานลุงสืบต่อขอจดจำ
ช่วยกันย้ำปณิธานสานต่อไป
แล้วสักวันเขาใหญ่จะไม่เหลือ
ขอให้เชื่อธรณีนี่พลิกได้
แม่น้ำใหญ่ลำธารเปลี่ยนการไหล
แม้พงไพรยังตลบเมื่อพบคน
ฟังคำตอบลุงโง่ขอให้คิด
ถึงชีวิตแรงงานที่สร้างผล
ปณิธานมุ่งมั่นดังเวทมนตร์
เสกฟ้าฝนมาไว้ในกำมือ
-------------
(ไร้อันดับ)
23 เมษายน 2551 22:30 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
ศิริฤกษ์เบิกฟ้ามาบรรจบ
จวบจนครบยี่สิบสี่ที่เมษา
เป็นวันเกิด "ฉางน้อย" เจ้ากลอยตา
ขอพรฟ้ามาสถิตย์คิดกำนัล
ให้น้องพี่มีใจใสสะอาด
ดุจภาพวาดล้ำค่าว่าเฉิดฉัน
ความแข็งแกร่งดังแสงแห่งตะวัน
ทั้งอดกลั้นอดทนไว้ได้ยืนนาน
ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่
ผู้น้อยให้ความรักสมัครสมาน
คิดสิ่งใดให้เป็นไปตามการณ์
ทั้งเบิกบานไร้ทุกข์เป็นสุขดี
คิดหาคู่ให้สมอารมณ์หวัง
มีพลังสร้างชีวิตไม่คิดหนี
เพลิดเพลินกับอักษรกลอนกวี
ขอให้มีความสดใสทั้งใจกาย
-----------------
20 เมษายน 2551 08:27 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
บวชเป็นสงฆ์ในองค์ศาสนา
ห่มผ้ากาสาวพัสตร์ไม่ขัดสน
หวังแค่บวชแค่เรียนพากเพียรตน
อย่างที่คนทั่วไปตั้งใจกัน
การศึกษาสอบได้ใบปริญญา
งานก็มารอไว้เหมือนในฝัน
ทั้งคนรักมากมายสายสัมพันธ์
ที่บวชนั้นสักพรรษาคงน่าดู
สึกออกมาเมื่อไหร่ไปแต่งงาน
จะซื้อบ้านหลังโตโตที่โก้หรู
ซื้อรถเก๋งคันใหญ่หัวใจฟู
อยู่กับคู่ที่ประจักษ์ว่ารักตน
ซื้อทีวีจอใหญ่ไว้สักเครื่อง
ตู้เย็นเขื่องมีไว้ใส่ให้ล้น
เปิดเครื่องเสียงให้บาดฟาดใจคน
สุขท่วมท้นเมื่อสึกนึกยินดี
ทุกเช้าตรู่ตื่นมาบิณฑบาต
ธรรมชาติทุ่งนาน่าสุขขี
ประกอบกิจเดินตามประเพณี
เป็นวิถีแห่งวินัยได้สืบมา
ภาพเด็กน้อยให้เห็นทุกเย็นเช้า
ร่างกายเจ้าผ่ายผอมโทรมหนักหนา
เกิดผูกพันธ์ความรู้สึกนึกเมตตา
พิจารณาถามดูรู้ความนัย
เด็กน้อยว่ามาหาข้าวก้นบาตร
หนูนั้นขาดแม้หลักพักอาศัย
พ่อแม่หนูไม่รู้อยู่ที่ใด
หนูขอใช้เศษข้าวเหลือมาเจือจาน
แต่ก่อนนี้ต้องลักขโมยเขา
ต้องคุ้ยเอาแม้ขยะคละอาหาร
ต้องเร่ร่อนทนทุกข์ทรมาน
นึกสงสารช่วยหนูทีให้มีกิน
ตั้งแต่นั้นพระสงฆ์ทรงธรรมะ
ประกาศละเลิกสึกนึกถวิล
เลี้ยงกำพร้ามุ่งทางธรรมย่ำธรณินทร์
ทุกวันบิณฑบาตไม่ขาดเลย
--------------
(ไร้อันดับ)
18 เมษายน 2551 18:28 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
สนามหญ้าอยู่หน้าสโมสร
เหตุเกิดตอนค่ำค่ำยังจำได้
มีเครื่องเล่นหลายหลากดูมากไป
นั่นยังไงชิงช้าทาสีแดง
มีเด็กชายนั่งอยู่คู่ชิงช้า
แกว่งไปมาอยู่คนเดียวดูเหี่ยวแห้ง
เจ้าหนูน้อยคอยใครใกล้หมดแรง
ถึงได้แต่งใจดูจึงรู้ความ
เด็กบอกว่ามารอพ่อและแม่
เหตุเพียงแต่ถูกไล่ไปสนาม
จากสโมสรมารอไม่กี่ยาม
แม่จะตามออกมาไม่ช้าที
เพราะคุยเล่นเสียงดังฟังไม่เพราะ
ดูไม่เหมาะสมไงในศักดิ์ศรี
พ่อและแม่อับอายประชาชี
ลูกคนนี้ไปรอขอคุยงาน
เลยถามต่อว่ามารอนานเพียงไหน
เด็กร้องไห้ว่าลุงจ๋าขอว่าขาน
หนูมารอพ่อแม่นานแสนนาน
ทรมานหนักหนาตั้งหน้ารอ
พูดแล้วแกว่งชิงช้าตรงหน้านี้
จนเร็วรี่สุดแรงเรี่ยวเสียวจริงหนอ
ชิงช้าแกว่งด้วยแรงจนเกินพอ
สลัดต่อร่างเล็กเล็กเด็กลอยไป
ร่างน้อยน้อยลอยกระแทกแหลกสนาม
เลือดไหลตามจมูกปากมากเพียงไหน
ความมืดมิดชิดรอบเหมือนปลอบใจ
เพื่อให้ใครได้เห็นตอนเป็นตาย
อยากจะบอกหนูจ๋าลุงมานี่
มารับที่วิญญาณหนูดูใจหาย
ลุงไม่อยากให้หนูอยู่เดียวดาย
และหันกายจูงไปหา พญายม
---------------
(ไร้อันดับ)
16 เมษายน 2551 13:27 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
จากไปแล้วแก้วตาที่ลาลับ
คนที่ขับกล่อมนอนในตอนนั้น
เล่านิทานก่อนหลับกับแสงจันทร์
ผ่านคืนวันมีสุขทุกเขตคาม
จากไปแล้วความหวังดีที่มีอยู่
คนเฝ้าดูจู้จี้ที่ไต่ถาม
แว่นเสื้อผ้าหยูกยาพยายาม
ไม่มองข้ามเพียงนิดถึงจิตใจ
จากไปแล้วสายตาที่มาห่วง
ดาวลับล่วงจากฟ้าจะหาไหน
ใจที่เคยผูกพันสัญญาไป
แล้วไฉนทิ้งห่างหรือล้างลา
จากไปแล้วรอชมสายลมเอ๋ย
เจ้าพัดเลยไม่หวนจึงห่วงหา
ทิ้งคนให้รอรับกับน้ำตา
สายลมจ๋าส่งข่าวมาให้ข้าที
เพียงน้ำคำยังจำวันที่จาก
อย่างลำบากฝากให้ใครคนนี้
จากเพราะเจ็บสุดทนน่ะคนดี
หรือจากที่จำเจจึงเซซัง
จากไปแล้วแก้วตาวันลาลับ
โลกมืดดับอับสิ้นทุกสิ่งหวัง
สายลมพัดพาไปใจเจียนพัง
ขอฟากฝังรักแท้ของ แม่ เรา
...............
(ไร้อันดับ)