1 ตุลาคม 2552 21:48 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
บนเวทีแสงส่องเป็นวงกว้าง
จับเรือนร่างผู้แสดงด้วยแสงสี
ท่วงทำนองรองรับกับดนตรี
หลังจากม่านกำมะหยี่ได้คลี่กาง
ตัวละครออกมาตรงหน้าฉาก
สวมบทหลากอารมณ์ที่สมอ้าง
ทั้งความสุขทุกข์เศร้าใต้เงาจาง
บทต่างต่างที่แสดงในแสงไฟ
บ้างรับบทยิ่งใหญ่อยู่ในหล้า
บ้างโทษฟ้าลงทัณฑ์จนหวั่นไหว
บ้างตะโกนร้องบอกอยากออกไป
บ้างดวงใจซึมเศร้าอยากเข้ามา
บ้างโดดเดี่ยวเดียวดายอยากตายจาก
บ้างเพื่อนหลากมากมายมีหลายหน้า
บ้างร่ำรวยสวยเด่นเช่นดารา
บ้างหลบตาอายตนคนอย่างเรา
แต่ละบทที่แสดง ณ แห่งนี้
กลางเวทีสรรค์สร้างเริ่มว่างเปล่า
เสียงดนตรีคลอรับเหมือนดับเงา
ยังความเศร้าโศกศัลย์วันเวลา
บนเวทีแสงส่องเป็นวงแคบ
ร่างที่แอบอิงจิตระริกล้า
ท่วงทำนองดนตรีไม่มีมา
คงถึงคราม่านละครตอนปิดลง
---------------
(ไร้อันดับ)
25 กันยายน 2552 23:49 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
เหมือนเสือร้ายล้มกลิ้งถูกยิงอก
เหมือนลูกนกปีกอ่อนร่อนถลา
เหมือนปลาหมอถูกเด็ดขอดเกล็ดปลา
เหมือนนาคาหนีครุฑแทบมุดดิน
เหมือนช้างสารถูกมดไล่ถดถอย
เหมือนฝาหอยถูกทุบจนยุบสิ้น
เหมือนสายน้ำถูกกั้นด้วยคันดิน
เหมือนปักษินหมุนคว้างจากกลางคอน
เหมือนคนธรรพ์ขาดดนตรีกวีศิลป์
เหมือนองค์อินทร์อนาถพระอาสน์ร้อน
เหมือนพระรามร่อนเร่พเนจร
เหมือนละครฉากจบพบความตาย
เหมือนพระลอตามไก่ไปถึงฆาต
เหมือนระนาดตอนรัวตะกั่วหาย
เหมือนดินต่ำฟ้าย้ำอย่ากล้ำกลาย
เหมือนกระต่ายพ่ายเต่าเขาประณาม
เหมือนฟ้าดินสั่งมาอาญาสวรรค์
เหมือนของขวัญจากจิตที่คิดหยาม
เหมือนบ้านเมืองอยู่ในไฟสงคราม
เหมือนคมหนามเกี่ยวเนื้อช่างเหลือทน
เหมือนขุนช้างถูกชิงหญิงคนรัก
เหมือนศรปักทศกัณฐ์เป็นพันหน
เหมือนสีดาลุยไฟเผาใจตน
ไม่เจ็บล้นทนเศร้าเพราะเจ้าลา...
---------------
(ไร้อันดับ)
13 กันยายน 2552 21:17 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
ข้านอนขดหดกายที่ชายทุ่ง
ตัวข้ามุ่งหมายจิตคิดหลับใหล
ริมคันนาข้านอนพักผ่อนใจ
หลังจากได้เลี้อยผ่านทุกย่านมา
ข้าหลับตาซุกลงในพงข้าว
หลบเรื่องราวลอบเร้นเลิกเฟ้นหา
คิดแค่นอนหลับนิ่งอิงกายา
ข้างคันนาที่เดิมเพื่อเติมแรง
ฝนกระหน่ำย่ำเย็นข้าเป็นสุข
ข้าไร้ทุกข์แม้คราวดาวอับแสง
ข้าขดตัวขดใจไม่ระแวง
ไม่คิดแว้งขบกัดไล่ฟัดใคร
แต่กลับมีชาวนามาคนหนึ่ง
เขาบุกถึงคันนาข้าหลับใหล
แล้วจับตัวข้าตามเพราะย่ามใจ
มายัดใส่ในอกตกตะลึง
ข้าคิดถึงพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
รู้หรือเปล่าข้ากลับถูกจับทึ้ง
ทั้งเมียรักลูกข้าน่าพรั่นพรึง
เจ้าจะพึ่งผู้ใดอย่างไรกัน
ข้าเคยเห็นพวกข้าน่าสงสาร
ถูกคนพานตัดตัวเอาหัวขวั้น
ก็ชาวนาพวกนี้ที่โจษจัน
คงถึงวันตัวข้าต้องมาตาย
ถึงตัวข้าต้องตายไม่วายคิด
จะใช้สิทธิ์ต่อสู้ให้รู้พ่าย
เพื่อพวกพ้องเพื่อนข้าไม่น่าอาย
จะทิ้งลายงูเห่าที่เขาชัง
ข้าอ้าปากลากเขี้ยวที่เรียวแหลม
ในคืนแรมฝนมาเหมือนบ้าคลั่ง
แผ่พังพานพุ่งฉกกดพลัง
สองเขี้ยวฝังจนมิดในจิตคน...
---------------
(ไร้อันดับ)
11 กันยายน 2552 13:43 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
มองเห็นหมาถูกตีที่หน้าตรอก
คนร้องบอกช่วยกันก่อนมันหนี
ต่างถือมีดถือไม้เข้าไล่ตี
มันวิ่งรี่เข้าตรอกไม่ออกมา
คนหน้าตรอกกลุ่มใหญ่วิ่งไล่ติด
คงจะคิดตามทันตอนมันล้า
เข้าประชิดคิดตีที่กายา
ต่างเงื้อง่ามีดไม้หมายไล่ตี
เจ้าหมาเจ็บเจียนทนถูกคนทึ้ง
วิ่งตะบึงหลังแอ่นยอมเผ่นหนี
จากผู้คนพยายามตามราวี
มันจะมีที่ไปตรงไหนกัน
ต่างก็พุ่งตัวไปให้ไกลสุด
หนึ่งรีบรุดหนีตายวายอาสัญ
หนึ่งรีบไล่หมายว่าจะฆ่ามัน
ต่างถลันไปหยุดที่สุดซอย
หมาหมดทางจนตรอกออกไม่ได้
หนทางไปไร้สิ้นแผ่นดินถอย
สองขาตั้งยืนค้ำซ้ำรอคอย
กระโดดลอยพุ่งกลับไล่งับคน
หนึ่งต้องการรักษาค่าชีวิต
อีกหนึ่งคิดรุมสับจนยับย่น
ต่างต้องเจ็บล้มตายมลายชน
จงเตือนตนอย่าไล่ใครหมดทาง
-------------
(ไร้อันดับ)
4 กันยายน 2552 14:39 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
ถ้าฉันย้อนกลับไปในอดีต
ฉันจะขีดเส้นไว้ที่ใต้ชื่อ
และบอกย้ำหัวใจให้ฝึกปรือ
เลิกยึดถือความรักเพียงตักตวง
จะติดตามถามหาคุณค่ารัก
เพื่อทอถักรักจริงยิ่งใหญ่หลวง
แล้วยกใจมอบให้ไปทั้งดวง
จะไม่หวงกันไว้รอใครมา
จะเกี่ยวก้อยเดินไปในถนน
ให้ผู้คนหม่นเศร้าเฝ้าอิจฉา
ให้พระจันทร์กระจ่างกลางนภา
หลบสายตาสองเราเพราะเข้าใจ
จะนั่งอยู่เคียงกันในวันนั้น
จนฟ้าสั่นหวั่นจิตคิดสงสัย
ส่งสายลมสอบถามถึงความนัย
ด้วยหวั่นไหวในรักและภักดี
จะนอนชมดาวดวงบนห้วงฟ้า
ที่อิจฉาเราสองเฝ้าหมองศรี
จนยอมทิ้งฟากฟ้ามาปฐพี
สู่ธุลีแดนดินจนสิ้นใจ
ฉันคงย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว
หมดวี่แววเวทนาจากตาใส
สิ่งที่เหลือเตือนจิตสถิตใน
คือความไหวหวาดหวั่น ทั้งฉันเธอ
-------------
(ไร้อันดับ)