11 เมษายน 2553 08:34 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
แล้วเมื่อไทยคนไทยถูกไทยฆ่า
คราบน้ำตาคราบเลือด ฤ เหือดแห้ง
ราชดำเนินเมินหน้ายามฟ้าแดง
อาบด้วยแสงควันปืนที่ยืนยง
อีกกี่ศพพับล้มระงมร้อง
พรากพี่น้องเทือกเถาสู่เถ้าผง
พ่อกับลูกใครผิดถูกปลิดปลง
มือถือธงใครหรือจะถือตาม
คนประชาธิปไตยหัวใจแกร่ง
วิญญาญแห่งนักสู้ไร้ผู้หยาม
จงหลับเถิดเทิดเกล้าทุกเหล่านาม
ฟ้าสีครามโอบอุ้มจงคุ้มภัย
แล้วคนไทยฆ่าไทยเมื่อไหร่หยุด
ให้ไทยช้ำไทยทรุดคิดหยุดไหม
บรรพบุรุษกู่ก้องอย่างหมองใจ
กูรักษาแผ่นดินไว้ให้ใครกัน......
------------------
(ไร้อันดับ)
4 เมษายน 2553 10:34 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
เพราะรักหรอกบอกเจ้าทุกเช้าค่ำ
กระซิบคำย้ำเตือนอย่าเคืองขุ่น
ถ้อยคำบอกออกไปไม่ละมุน
แต่อบอุ่นด้วยรักและภักดี
อาจไม่หวานถ้อยคำอาจจำกัด
เธออาจวัดไม่ได้ด้วยใจนี้
แต่สักวันคิดกลับจับวลี
เธออาจมีจิตรับจับประเด็น
ว่ายังมีคนหนึ่งซึ่งยังอยู่
ยังเฝ้าดูติดตามทุกยามเห็น
ด้วยสายตาซื่อซื่อที่ถือเป็น
ไม่อาจเร้นใจหลบยามสบตา
เมื่อเธอเปิดใจพร้อมเพื่อยอมรับ
จะเริ่มนับถอยหลังและหวังว่า
ทุกนาทีที่ผ่านเนิ่นนานมา
ตีราคาค่างามทุกความจริง
แต่ใจหวั่นเพราะถ้อยน้อยแถลง
อาจไม่แฝงใจจดหมดทุกสิ่ง
คำที่เอ่ยออกไปไม่ไหวติง
เธอยังนิ่งไม่เอ่ยเฉลยความ
กระซิบคำย้ำเตือนแม้เคืองขุ่น
รักอบอุ่นมีให้หัวใจถาม
หากเปิดใจยอมรับกับนิยาม
รักงดงามซ่อนหลบคงพบเจอ......
---------------
(ไร้อันดับ)
23 มีนาคม 2553 09:53 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
ค่ายระจันปีจอพอเดือนสาม
ไฟสงครามจากพม่ามุ่งมาใกล้
คนระจันรวมกันยอมบรรลัย
รักษาแผ่นดินไว้ให้ใครกัน
-----------------------------
ร่างกำยำเมาหลับอยู่กับพื้น
สะดุ้งตื่นฟื้นกายขึ้นผายผัน
คว้าขวานใหญ่คู่มือขึ้นถือพลัน
แล้วถลันออกประตูไม่ดูดาย
เห็นพม่าข้าศึกช่างฮึกเหิม
ไพร่พลเสริมเติมมาถึงหน้าค่าย
ระดมยิงปืนใหญ่ใช้ทำลาย
คนระจันคงตายอีกหลายคน
โอ้ อ้ายอินอ้ายเมืองพันเรืองเอ๋ย
ข้าไม่เคยบอกกล่าวเล่าสักหน
ในอดีตผ่านมาข้าทุกข์ทน
ต้องอับจนมอดไหม้ไฟสงคราม
ทั้งพ่อแม่เมียข้ามาตายสิ้น
ข้าจึงรินน้ำเมาแล้วเฝ้าถาม
เมื่อศัตรูแผ่นดินหมิ่นรุกลาม
ข้าขอตามต่อยตีให้บี้แบน
ขวานทั้งคู่ในมือข้าถือมั่น
จะใช้มันทวงถามถึงความแค้น
คนที่มันรุกล้ำบุกย่ำแดน
จะตอบแทนไล่กลับให้อับปาง
ขึ้นหลังควายพุ่งใส่ในวงศึก
คมขวานลึกฝังจมถล่มร่าง
ฆ่าศัตรูแผ่นดินทุกถิ่นทาง
ที่ยืนขวางล้อมกรอบให้หมอบกาย
อธิษฐานจิตหวังให้หนังเหนียว
แม้เศษเสี้ยวคมมีดจงกรีดหาย
ทั้งหลาวแหลมดาบพร้าอย่าระคาย
ขอถวายกายพร้อมเพื่อยอมพลี
เมื่อดาบพร้าคมมีดกรีดไม่เข้า
ข้าศึกเฝ้ารุมล้อมไม่ยอมหนี
หวังรักษาแผ่นดินสิ้นชีวี
ธรณีแห่งนี้ของมารดา
แล้วค้อนใหญ่ฟาดลงที่ตรงหัว
สายตามัวคิดหลบกลับพบว่า
ค้อนกระหน่ำย้ำตีที่ตามมา
ทุบกายาข้าทรุดหยุดหายใจ.....
จงหลับเถิดวิญญาณผู้หาญกล้า
ทิ้งความล้าเหนื่อยหนักมาพักไว้
ธรณีนี้จะป้องจากผองภัย
จงหลับใหลสู่ดินพักพิงกาย
---------------------------
ค่ายระจันปีจอพอเดือนเจ็ด
สงครามเสร็จคนสิ้นหมดถิ่นค่าย
เหลือแต่ร่างผู้กล้ามาเรียงราย
ทิ้งความหมายลึกล้ำเหมือนย้ำเตือน
------------
(ไร้อันดับ)
4 มีนาคม 2553 22:58 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
กงล้อเกวียนเวียนหมุนกลางฝุ่นผง
ทิ้งรอยลงตรงกลางแนวทางเคลื่อน
ฝากเป็นรอยคล้อยตามบอกความเตือน
กงล้อเคลื่อนเลือนรางเป็นทางไกล
ประวัติศาสตร์ชัดแจ้งหลายแหล่งบอก
กงล้อออกหมุนกลับสลับได้
ทุกเหตุการณ์ผันเปลี่ยนหมุนเวียนไป
วกมาใหม่ให้เห็นเช่นทุกที
เหล่าขุนพลผู้ชนะต่างประกาศ
ประวัติศาสตร์ที่เขียนให้เปลี่ยนสี
จากสีดำเป็นขาวเรื่องราวมี
ก็อยู่ที่ผู้ชนะจะระบาย
ประวัติศาสตร์ตราไว้อย่างใหญ่ยิ่ง
อาจมีสิ่งแอบเฟ้นจนเร้นหาย
ในสังคมปมขัดที่มัดกาย
อาจสลายมลายสิ้นเป็นดินโคลน
เมื่อกงล้อเล่มเกวียนหมุนเวียนบอก
อำนาจหลอกล่อตัวใส่หัวโขน
นี่และนั่นพันผูกเหมือนถูกโยน
ต่างกระโจนไขว่คว้าค้นหาเอา
ประวัติศาสตร์ถ้ากลับสลับข้าง
กงล้อต่างหมุนเวียนเหมือนเปลี่ยนเป้า
อาจมีใครได้เห็นว่าเป็นเงา
ที่เราเฝ้าหลงติด อนิจจา
-----------------
(ไร้อันดับ)
19 กุมภาพันธ์ 2553 15:59 น.
นักสืบ ไร้อันดับ
เท้าเตาะแตะเดิมตามนิยามพ่อ
เคยเฝ้ารอพ่อจ๋าให้มาอุ้ม
กล่องขนมของฝากมืออยากกุม
น้ำเสียงทุ้มเรียกหาตั้งตารอ
ความอบอุ่นจากกายพ่อถ่ายทอด
หนึ่งอ้อมกอดดวงจิตไม่คิดท้อ
เคยหัวเราะยิ้มร่าน้ำตาคลอ
ทุกอย่างต่อเติมติดในจิตใจ
ทีละน้อยค่อยค่อยก้าวเกาะราวพ่อ
เตาะแตะต่อตามทางพ่อสร้างให้
มือตวัดเกาะเกี่ยวเหนี่ยวฤทัย
ลื่นไถลพ่ออยู่คอยดูแล
รองเท้าพ่อตอนนั้นฉันแอบใส่
รองเท้าใหญ่ใส่เดินช่างเพลินแท้
สะดุดพื้นล้มกลิ้งยิ่งงอแง
แต่-ช้า-แต่ พ่อปลุกให้ลุกยืน
นานแล้วนะพ่อจ๋าไม่มาอุ้ม
น้ำเสียงนุ่มคุ้นชัดเริ่มขัดขืน
แต่-ช้า-แต่ เสียงปลอบไม่ตอบคืน
ใจพ่อตื่นร่างกลับเหมือนหลับไป
เท้าเตาะแตะเดินตามความเป็นพ่อ
ยังเฝ้ารอพอจ๋าเข้ามาใกล้
ไร้ขนมของฝากจากหัวใจ
แต่ขอให้พ่อกลับอย่าหลับเลย ........
-----------------
(ไร้อันดับ)