16 เมษายน 2552 12:19 น.

คิดถึง

นรศิริ

จากคนซึ้งทรวงห่วงหา
ดินแดนบ้านป่าอาศัย
อยู่เย็นเป็นสุขหรือไร
คนไกลห่วงหาอาทร

ผ่านร้อนฝนหนาวร้าวรวด
เจ็บปวดดวงใจสุดถอน
ข่าวคราวเงียบหายขาดตอน
สะท้อนสะท้านทรวงใน

โลกสวยสำหรับใครเขา
หากสำหรับเราหม่นไหม้
มืดมิดทุกทางย่างไป
สิ้นไร้ทุกทางร้างลา

ที่นี่มีแต่ลวงหลอก
กลับกลอกหลอกหลอนซ่อนหน้า
ศีลธรรมไม่มีนำพา
เข่นฆ่าผู้พ่ายวายปราณ

ความเจริญเดินทางมาถึง
คุณธรรมจึงถูกมองผ่าน
ผู้ด้อยจึงถูกรุกราน
ซาตานเข้าแทรกสิงใจ

ความจริงที่นี่หายาก
มากมีหน้ากากสวมใส่
โสมมชั่วช้าจัญไร
มั่วสุมสิ่งร้ายครอบครอง

เบื่อความวุ่นวายที่นี่
คิดถึงคีรีไพรผอง
เถื่อนถ้ำบุปผาเคยครอง
สาดสายเนืองนองจากผาน่ายล
เสือช้างค่างลิงสิงสู่
เขาเคยขันคูสุขล้น
ผีเสื้อว่อนบินเวียนวน
อวลมาลีปนไอดิน

เสียงเพรียกพงไพรใจสุข
ไร้ทุกข์กมลแดนถิ่น
ใจเอยล่องลอยโบยบิน
แนบซบแดนดินดงดอย				
13 เมษายน 2552 20:34 น.

มอบพรพี่น้องพวกพ้องบ้านกลอน

นรศิริ

ร้อยมาลัยจากใจของคนยาก
นำมาฝากพี่น้องผองสหาย
ให้สุขสมอารมณ์ปองที่หมองคลาย
ภยันตรายใดใดอย่าแผ้วพาน

สบแต่สิ่งดีดีในชีวิต
มากมีมิตรล้ำค่ามหาศาล
คนชั่วช้าเหินห่างชั่วกาลนาน
สุขสราญเริงรื่นชื่นฤทัย

หวังสิ่งใดสมหวังดังใจเถิด
สบสรรพสิ่งประเสริฐชีวีสดใส
ไพรีเวราหลีกเล้นห่างไกล
สดชื่นแจ่มใสทุกวันเวลา				
9 เมษายน 2552 08:42 น.

........ไฟ.......

นรศิริ

ไฟ
ใช่ว่าไฟจะมีโทษมหันต์หากแต่ก็มีประโยชน์อนันต์เหมือนกัน
ไฟนั้นย่อมเผาทำลายทุกสิ่งให้มอดไหม้   เป็นผู้ทำลายล้างที่ยอดเยี่ยม
เมื่อไฟไหม้เราดับได้ด้วยน้ำ  สารเคมี  ดินฯลฯ

แต่ไฟภายในเราจะดับได้อย่างไร
-	ไฟกิเลสตัณหา ราคะ
-	ไฟจากการ  เกิด  แก่   เจ็บ   และตาย   เหล่านี้เราจะดับได้ฉันใด
เราไม่สามารถดับไฟหรือดับร้อนเหล่านี้ได้ด้วยอุปกรณ์ใดๆเลย  นอกจากธรรมะของพระพุทธองค์เท่านั้นโดยเราจะดับที่ใจของเรา    โดยตัวเราเท่านั้นแต่มันก็ได้เป็นครั้งคราว เพราะไม่ใช่อริยะเจ้า  แต่ถ้าจะดับเป็นการถาวรนั้น จะต้องดับที่การเกิด  การมีภพมีชาตินั่นเอง

######
มาเถิดเพื่อนรักจงมาดับไฟที่กำลังเผาใจเรา   ด้วยการฝึกจิตปฏิบัติตามคำสอนของ
พุทธองค์เถิด เพื่อจะดับไฟนั้นนิรันดร์
เราคงจะเริ่มที่การทำใจของเรา ให้บริสุทธิ์  การให้อภัยทานแก่ผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด				
8 เมษายน 2552 15:26 น.

เอิ้นลูกหลานคืนอิสานบ้านเฮา

นรศิริ

เอิ้นลูกหลานคืนอิสานบ้านเฮา

หล่าเอ้ยพากันคืนมาเด้อหล่า
คืนมายามบ้านเก่าเฮาเด้อคำ
ตาเว็นตกต่ำคล้อยคอยเจ้านั่งนำ
สีก่ำก้อนให้โงโค้งอ่วยมา

พ่อแม่เศร้าคึดนำอุ่นบุญหลาย
สายคอเอ้ยให้ห่ำฮอนเด้อหล่า
ตาเว็นคล้อยคอยทางน้ำสร่างท่า
ฝูงนกกากะล่วงเข้าเฮือนเค้าเก่าหลัง

พากันกลับมาบ้านสงกรานต์มาม่วน
ชวนบ่าวสาวหนุ่มน้อยมายั้งฮ่วมฮัง
ฟังเสียงครืนครืนฟ้าปนน้ำตาแม่หลั่ง
แม่ตั้งตาท่าเจ้าคืนคืนเข้าฮ่วมเฮือน

ตกเดือนห้าเมษาหักฮ้อนเฮ่งเด้นอ
สาปลารอลูกน้อยใจข้อยสั่นสะเทือน
เดือนเทิงฟ้าเอิ้นขวัญตาคืนแถวเถื่อน
อย่าให้แก้มแม่เปื้อนใบหน้าน้ำตา

ให้มากินข้าวปุ้นบุญบ้านแม่เฮา
มากินข้าวกับต้มไก่ต่อนหนา
แม่สิปิ้งปลาค่อใหญ่ไว้ท่า
ผูกแขนลูกหล่าอยู่ดีมีแฮงตั้ว				
5 เมษายน 2552 20:15 น.

เพื่อเธอที่รัก...จักได้คิด

นรศิริ

เมื่อยังไม่หลุดพ้นวนเวียนว่าย
ก่อกำเนิดเกิดกายวายเสื่อมสูญ
บ้างสถิตล้ำเลิศเจิดจำรูญ
อีกเพิ่มพูนสินทรัพย์นับอนันต์

ลางเกิดมาคับแค้นแสนลำบาก
ทนทุกข์ยากใจกายจวบวายขันธ์
จ่อมจมในลำเค็ญมิเว้นวัน
เหตุเพราะกรรม์สรรค์สร้างแต่ก่อนกาล


เมื่อยินดีในภพชาติปรารถนา
จะต้องวนเวียนมาวัฏสงสาร
สบทุกข์สุมรุมเร้าทุกวันวาร
ทรมานมิรู้จบหากภพยัง

เมื่อเบื่อหน่ายคลายติดจิตผ่องแผ้ว
คือดวงแก้วงดงามข้ามพ้นฝั่ง
ไร้ทุกข์สุขโศกเศร้าเข้าประดัง
นิพพานังปรมังสุขขังทิพย์ทางทอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนรศิริ