28 เมษายน 2552 19:32 น.
นรศิริ
ตาบอดกับใจบอด
ดวงตาบอดมืดมิดจิตไม่ต่ำ
ความระยำทั้งหลายไม่มีเห็น
แม้นจะมีชีวีที่ลำเค็ญ
ก็หลีกเร้นเข่นฆ่าทารุณกรรม
สังคมอาจมองว่ามีค่าด้อย
เพราะต้องคอยขอเขาทั้งเช้าค่ำ
ด้วยหนทางทุจริตไม่คิดทำ
อย่าเหยียบย่ำเลยหนอข้าขอทาน
การทำมาหากินแม้สิ้นศักดิ์
แต่ก็รักความสงบทุกสถาน
ไม่เคยเบียดเบียนใครให้ร้าวราน
ทั้งวันวานวันนี้มีธรรมครอง
แม้นว่ามองไม่เห็นใจเป็นสุข
มิเคยทุกข์ทดท้อต่อภัยผอง
ยังร้องเพลงกล่อมขวัญตามครรลอง
ถึงมิใช่เสียงทอง ร้องจากใจ
มิเคยมีวันหยุดหรือวันพัก
มีใจรักผูกพันงานยิ่งใหญ่
บริสุทธิ์ยุติธรรมน้อมนำใจ
มิเคยได้แย่งชิงสิ่งทั้งปวง
สำหรับท่านผู้การุณย์บุญประเสริฐ
ขอชีวีเลอเลิศอย่าโรยร่วง
มีตรัยรัตน์ปกปักรักษาดวง
สถิตห้วงสุขาวดีเป็นนีรันดร์
26 เมษายน 2552 05:57 น.
นรศิริ
เมืองไทยเอยเคยเย็นเป็นไฉน
ต้องมาลุกเป็นไฟในทุกที่
เลือดไทยทาทั่วถิ่นปัถวี
น้ำตาไทยล้นปรี่ทุกวันวาร
การเข่นฆ่าล่าไล่มิได้หยุด
มวลมนุษย์ถูกฆ่าน่าสงสาร
เหตุด้วยต่างคนต่างอุดมการณ์
จึ่งต้องผลาญย่อยยับลงกับมือ
ตรองดูเถิดพี่น้องอย่ามองผ่าน
บรรพกาลของเราเฝ้ายึดถือ
ชาติ ศาสน์ กษัตริย์... ต้อง เลื่องลือ
ยึดมั่นมือป้องปัดปัถวิน
มาบัดนี้ลูกหลานต่างราญล่า
อนิจจาเมืองไทยใกล้สูญสิ้น
น้ำตาไทยไหลท้นล้นแผ่นดิน
ทุกชีวินขาดใจหากไร้เวียง
จงหยุดเถิดหยุดสร้างหนทางแยก
อย่าให้เมืองไทยแตกเป็นเสี่ยงเสี่ยง
ก่อนที่ไทยจะไร้ซึ่งสำเนียง
เหลือไว้เพียงตำนานเล่าขานกัน
24 เมษายน 2552 05:13 น.
นรศิริ
ในบทกลอนนี้บางคำไม่สุภาพต้องขออภัย นะคะ ถ้าท่านใดรับไม่ได้กรุณาอย่าอ่านค่ะ
เมื่อกิเลสครอบงำนำความคิด
จึ่งครองจิตใจต่ำส่ำสัตว์สา
หัวใจเอยมืดดำทุกเวลา
อนิจจานี่หรือคือค่าคน
กับการเป็นผู้นำที่ล้ำค่า
คงไม่สูงเกินหมาข้างถนน
เที่ยวเสพสมสู่ศิษย์คิดสัปดน
ขอให้จมสู่ก้นอเวจี
คำว่าครูคุณค่าอยู่ที่ไหน
หรือซุกใต้ฝ่าตีนคนสิ้นศรี
จิตใจต่ำอำมหิตคิดอัปรีย์
พอจะมีบ้างไหมในคุณธรรม์
22 เมษายน 2552 05:02 น.
นรศิริ
ต้นไม้ใหญ่ยิ่งแตกกิ่งสาขา
สรรพสัตว์นานาพักพาอาศัย
ร่มเย็นสุขสันต์สราญฤทัย
เถื่อนแถวแนวไพรสดชื่นฉ่ำเย็น
ให้ดอกออกผลเลี้ยงพลผองไพร
สรรพสัตว์น้อยใหญ่สุขได้มิเว้น
กิ่งหักใบร่วงดอกโรยที่เห็น
ล้วนเป็นอาหารพงศ์วานดื่มกิน
มีไหมไม้ใหญ่เบียดบังกาฝาก
ทนทุกข์ลำบากกาฝากดูดสิ้น
เจ็บปวดหนักหนาปวดชาชีวิน
นานวันพลันสิ้นเหลือเพียงต้นตาย
ดุจดั่งเรือนร่างสังขารมนุษย์
สักวันต้องสิ้นสุดแตกสลาย
ไร้สิทธิ์แม้เป็นเจ้าของเรือนกาย
ชิวาวายกลายเป็นเถ้าธุลี
ต้นไม้เอยคงคุณอนันต์ค่า
เราเกิดมาจงรักในศักดิ์ศรี
หมั่นสร้างอีกสั่งสมคุณความดี
วายชีวีจึงควรค่าบูชาชม
๒๑เมษายน ๒๕๕๒
ณ ลานหลวงพ่อศิลา
17 เมษายน 2552 17:34 น.
นรศิริ
หลับตาพริ้มสนิทปิดผัสสะ
ปล่อยพันธะทุกสิ่งทิ้งไปหมด
ติดตามลมหายใจไม่ละลด
เมื่อกำหนดชำนาญอ่านจิตตน
ที่ว้าวุ่นวุ่นวายทั้งหลายนั้น
ค่อยผ่อนผันเบาบางสร้างเหตุผล
อวิชชาค่อยจางห่างกมล
ปัญญาดลสมาธิสติครอง
นิ่งเนิ่นนานกาลเวลาอันผาสุก
สิ้นสุดทุกข์ระทมขมหม่นหมอง
อิ่มเอมในรสธรรมตามครรลอง
ฉ่ำเย็นผองสุขนั้นนิรันดร์กาล
ขอความกรุณาท่านนำรูปภาพพระพุทธองค์มาลงให้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ