19 มกราคม 2552 06:19 น.
นรศิริ
อยากเอื้อมมือกุมมือเธอถือไว้
น้ำตาเธอรินไหลคงเจ็บแสน
อยากเฆี่ยนคนทำร้ายเธอเพื่อทดแทน
ให้สาสมเจ็บแค้นที่เธอครอง
อยากหยิบยื่นผ้าเช็ดหน้าราคาน้อย
ใช้ซับรอยน้ำตาคราหม่นหมอง
แต่ตัวฉันด้อยค่ากว่าสำรอง
จึงจำต้องเก็บฝังความหวังดี
อยากกจะลบภาพคนดีที่ช้ำหม่น
ไม่อยากเห็นทุกข์ทนหม่นหมองศรี
อยากเห้นเธอมีสุขทุกนาที
เพื่อที่ฉันคนนี้มีสุขใจ
สายแล้วค่ะเดี๋ยวเย็นนี้จะมาต่อใหม่นะคะ
16 มกราคม 2552 07:06 น.
นรศิริ
เอาเพลงเกี่ยวกับครูมาฝากค่ะน้อยคนนักที่จะรู้จักและเคยได้ยินเพลงนี้ เป็นเพลงของอาจารย์ รอน โพนทอง จำชื่อเพลงไม่ได้แต่จำเนื้อได้ชอบร้องด้วยค่ะ
งานของครูไทย เปรียบไปคล้ายดังถ่อเรือ
ถ่อพายร่างกายชุ่มเหงื่อ หวังเพื่อสร้างลูกปลูกหลาน
สร้างเด็กวันนี้ หนีโง่เขลาเข้าฝั่งสายธาร
เรือครูเข็นไปให้ผ่าน ความยากครูนั้นศิษย์หมั่นอาวรณ์
คุณงามความดี ที่ครูนั้นเคยอบรม
เมตตาปรานีพร่ำบ่ม อบรมและได้สั่งสอน
ให้เรียนให้รู้ น้ำใจครูท่วมหนูครั้งก่อน
คุณครูผู้เคยพร่ำสอน ยังซึ้งขวัญอ่อนไม่ลืมพระคุณ
ครูเป็นที่พึ่ง เหมือนหนึ่งพ่อแม่ที่สอง
เลี้ยงดูอุ้มชูประคอง เหมือนเกิดกับท้องของครูแสนอุ่น
สร้างฝึกนิสัย ให้ความดีมีไว้เป็นทุน
เจ็บป่วยช่วยเกื้อหนุน การุณย์ศิษย์ยามแสนจน
ครูอยู่แห่งใด ขอให้สุขีมีสุข
ขอครูอย่าได้มีทุกข์ เป็นสุขในทุกแห่งหน
ชื่อเสียงปรากฎ สูงลาภยศหมดทุกข์กังวน
ศิษย์ขอไหว้วอนพร่ำบ่น ให้เทพเบื้องบนคุ้มครองครูไทย
ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยและพร้อมที่จะแก้ไขนะคะ ขอให้ท่านบอกมาค่ะ
15 มกราคม 2552 05:58 น.
นรศิริ
นกบินจากไปไม่ทิ้งรอยเท้าไว้ในอากาศ ประดุจครูย่อมไม่หวังผลตอบแทน
แด่คุณครูด้วยดวงใจ
สิบหกมกราฟ้าไร้หม่น
ขอคุณครูทุกคนจงสุขี
เกริกเกียรติ์ก้องเปี่ยมล้นท้นความดี
อย่าได้มีขุ่นข้องหมองกมล
ที่มีทุกข์จงคลายมลายสิ้น
เป็นอาจิณศีลธรรมน้อมนำผล
มีเมตตาปรานีศิษย์ทุกคน
ส่งศิษย์พ้นวังวนอนธการ
ครูเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้
เป็นกำแพงคุ้มภัยทุกถิ่นฐาน
เป็นแม่พระแม่พิมพ์มายาวนาน
ศิษย์จึงผ่านผองภัยได้ด้วยครู
คารวะพระคุณสามงามสง่า
สูงคุณค่าสูงศักดิ์ยอดนักสู้
น้ำใจนั้นเลิศล้ำแสนดำรู
ขอเชิดชูปูชนีย์ศรีบุคคล
ร้อยอักษรกลอนกานท์ผ่านมาไหว้
เป็นมาลัยจากใจที่ท่วมท้น
ด้วยศรัทธาสาธยายหลายถกล
นำศิษย์พ้นโอฆะนทีภัย
10 มกราคม 2552 05:59 น.
นรศิริ
เด็กเอ๋ยเด็กน้อยคอยใครหนอ
นั่งเหม่อรอน้ำตารื้นสะอื้นผวา
เสื้อเปปียกชุ่มใรบซับน้ำตา
เจ้าชะแง้แลหาผู้ใดเอย
รอพ่อแม่มารับหนูกลับบ้าน
ถูกจับมาขอทานหนูเฉลย
หนูอยากอยู่กับพ่อแม่เหมือนอย่างเคย
หนูหิวข้าวจังเลยบอกแม่ที
ช่วยพาหนูส่งแม่เถิดได้ไหม
หนูเป็นไข้โดนแส้ด้วยคิดหนี
หนูอยู่บ้านไม่เคยมีใครตี
คนพาหนูมาอยู่นี่ตีทุกวัน
พากลับบ้านเถิดหหนอหนูขอร้อง
ตวาดก้องอีเด็กบ้ามึงอย่าฝัน
อยู่ขอทานเลี้ยงกูชั่วนิรันดร์
พร้อมลงทัณฑ์พด้วยแส้แผลทั้งตัว
คุณหนูนั้นผันแปรเป็นยาจก
ตกนรกทั้งเป็นเพราะคนชั่ว
มันลักมาทารุณจนหวาดกลัว
ถูกทำร้ายทั้งตัวและหัวใจ
โปรดเมตตาปรานีหนูทีเถิด
ท่านผู้ใหญ่ใจประเสริฐอยู่หนไหน
หนูคิดถึงพ่อแม่แทบขาดใจ
รีบช่วยหนูเร็วไวก่อนสิ้นลม
8 มกราคม 2552 05:30 น.
นรศิริ
มือของเธอแค่นี้แต่มีค่า
สร้างปัญญาลิขิตชีวิตใหม่
เธอมุ่งมั่นเธอกล้าหาญการก้าวไกล
ด้วยซึ้งในจรรยาคำว่าครู
คือดอกหญ้าป่าเหนือเอื้ออุทิศ
คือชีวิตอันอำนวยช่วยทุกผู้
คือบุคคลอันประเสริฐน่าเชิดชู
คือวิญญูนามจูหลิงมิ่งครูไทย
แม่พิมพ์นี้พิมพ์ชีวิตอุทิศมั่น
แม่พิมพ์นี้สร้างสรรค์โลกวันใหม่
ถึงวันนี้กาฬยุคทุกถิ่นไป
ยังอำไพโชนแสงแห่งศรัทธา
เธอคือครูผู้สร้างทางชีวิต
สร้างเพื่อศิษย์เพื่อชาติศาสนา
ไม่ใช่ครูเพียงครูที่มีปริญญา
ไม่ใช่ครูเพียงว่ามีผลงาน
เธอผู้ไม่ใฝ่ฝันเกียรติยศ
ทรหดฟันฝ่าอย่างกล้าหาญ
เธอคือครูผู้สั่งสมอุดมการณ์
จิตวิญญาณแห่งวิญญูผู้ปรานี
เธอจากเพียงร่างกายที่ตายจาก
ความดีหากปรากฏไว้ในทุกที่
หนึ่งครูจุ้ยตายไปในวันนี้
ขอจงเกิดครูดีอุดมการณ์
วันนี้ครบรอบการจากไปของคุณครูจูหลิงอีกครั้งหนึ่ง เธอคือแม่พิมพ์ที่หมึกไม่มีวันจากจากใจเรา ทุกท่านคงจำได้นะคะ