26 กรกฎาคม 2551 13:26 น.
นรศิริ
พวงหรีดกรีดดวงใจ
ควันธูปลอยอ้อยอิ่งทอดทิ้งก้าน
ดั่งดวงใจแหลกราญคราไร้ขวัญ
เจ้าจากไปครานี้ชั่วชีวัน
ปีเดือนเนิ่นนานวันยิ่งห่างไกล
ปานถูกเชือดเฉือนใจข้างในเน่า
ทุกข์ถาโถมโรมเร้าแทบตักษัย
คิดถึงเคยอิงแอบแนบดวงใจ
เจ้าจากไปไม่ย้อนทับหวนกลับคืน
ดวงวิญญาณสถิตที่สถานไหน
แสนอาลัยไหม้หม่นสุดทนฝืน
ภาพความหลังยังย้ำสุดกล้ำกลืน
ไม่อยากตื่นมาให้ใจปวดชา
จงไปสู่สรวงสวรรค์วิมานแก้ว
คีตะแผ่วบรรเลงรับหลับเถิดหนา
จงสุขีที่สวรรค์บนชั้นฟ้า
สุขเถิดหนาจงหลับฝันนิรันดร์กาล
ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญให้
ขอดวงใจจงสุขเกษมศานติ์
มองพวงหรีดเหมือนมีดกรีดดวงมาน
ดุจวิญญาณเรานี้จะหลุดลอย
25 กรกฎาคม 2551 06:05 น.
นรศิริ
นี่แหละคือคู่กัน
ก่อกำเนิดทุกสิ่งอันนั้นดับสิ้น
เดินบนดินบินบนฟ้ามาเสื่อมสูญ
ถึงคราดับทรัพย์สินสิ้นเกื้อกูล
สิ่งเพิ่มพูนดีชั่วที่ตัวทำ
ทุกชีวาอีกผาหินสิ้นสลาย
รักษ์จิตกายละอายชั่วอย่ามัวถลำ
กลีร้ายเสริมสร้างหนทางกรรม
จงน้อมนำพุทธคุณมาจุนเจือ
วนเวียนว่ายอนิจจังวัฏสังขาร
ทรมานท่วมท้นเจ็บจนเหลือ
ทุกชีวีมีหวานเค็มเข้มขมเกลือ
จงแผ่เผื่อบางใครบ้างในบางครา
ทุกสรรพสิ่งเกิดเพราะกรรมเรากำหนด
โศกสลดอีกสุขสันต์และหรรษา
บ้างจ่อมจมทุกข์ท้อทรมา
บ้างชีวาผาสุกไร้ทุกข์ตรม
นั่นเพราะผลบุญสร้างแต่ปางก่อน
ตามมาย้อนดีร้ายได้ขื่นชม
ใครเคยทำกรรมร้ายให้ระบม
ใครสุขสมเพราะผลกรรมที่ทำดี
เลิกก่อกรรมทำเข็ญเวรสาปส่ง
คราปลดปลงลงไปไม่หมองศรี
จงลาร้างเหินห่างทางราคี
ทุกชีวีมุ่งมั่นสรรค์คุณธรรม
23 กรกฎาคม 2551 03:42 น.
นรศิริ
ไตรมาสจริยวัตร
จวบไตรมาศปฏิบัติวัตรข้นเข้ม
เพื่อเติมเต็มมิขาดขัดจรัสศรี
ให้ผ่องแผ้วแววใสในฤดี
มิให้มีมัวหมองข้องกมล
ทุกค่ำเช้าเฝ้ารักษ์จิตพิชิตชั่ว
ที่เมามัวหลงผิดคิดสับสน
ทั้งหม่นหมองครองใจให้ทุกข์ทน
ฤดีดลดื่มด่ำธรรมคุณ
ในคราใจบริสุทธิ์ผุดผ่องแผ้ว
เนื่องเน้นแนวศีลธรรมมานำหนุน
พรหมวิหารภาวนามาเจือจุน
ไตรรัตน์คุณอนันต์สร้างปัญญา
เกิดปัญญาอวิชชาย่อมเหือดหาย
โลกวุ่นวายในกิเลสเหตุตัณหา
รู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
รู้คุณค่าดีชั่วรู้ตัวตน
รู้ปล่อยวางละเว้นเวรสาปส่ง
รู้จักปลง เหนี่ยวใจในเหตุผล
รู้ผิดชอบชั่วดีที่เวียนวน
ไม่ต้องทนทุกข์ท้ออีกต่อไป
20 กรกฎาคม 2551 19:49 น.
นรศิริ
สายสัมพันธ์นิรันดร์กาล
คราพ้นอกมารดามายลโลก
หนูน้อยเริ่มวิโยคทั้งโศกศัลย์
ร้องไห้โฮกลัวปัญหาสารพัน
นิจจานั้นเด็กได้รู้ต้องสู้เอา
เริ่มรู้จักหายใจร้องไห้ขอ
ทั้งแม่พ่อคอยพะนอดูแลเขา
ลูกร้องหิวหรือเจ็บป่วยช่วยบรรเทา
ทุกค่ำเช้าเจ้าเนื้อเย็นเป็นโซ่ใจ
ครั้นลูกหลับขยับหาหุงอาหาร
กมลมานร้องลั่นใจสั่นไหว
ถลาปลิวลิ่วมาหาทรามวัย
ดวงฤทัยอกแม่เจียนแดดาย
มิยอมให้สรรพภัยกล้ำกรายลูก
เจ้าบุญปลูกป่วยไข้ดุจใจแม่สลาย
ยลสายโยงน้ำเกลือแทบวางวาย
ลูกทุรนทุรายใจแม่จะขาดรอน
ลูกนอนแบบแนบเตียงแม่เคียงข้าง
ไม่เคยห่างแรมไกลใจสุดถอน
ไม่เขยื้อนขยับลับจากจร
แม่นั่งเฝ้าขวัญอ่อนทุกวันวาร
เจ้าร้องจ้าพยาบาลมาเจาะเลือด
ดั่งถูกเชือดหัวใจไปประหาร
แม่กล้ำกลืนชลนาฝ่าดวงมาน
แสนร้าวรานสะท้านไหวที่ในทรวง
ลูกเจ็บหนึ่งแม่ปวดแสนแน่นในอก
น้ำตาตกรินไหลใจห่วงหวง
กราบขอพรพุทธคุณคุ้มภัยปวง
ให้ดวงใจแม่หายป่วยไข้พลัน
คราครั้งเจ้าเติบโตโอ้ลูกรัก
ยิ่งประจักษ์รักยิ่งทุกสิ่งสรรค์
แม่อบรมบ่มนิสัยให้ครบครัน
สิ่งที่ดีทั้งนั้นแม่มอบมา
เจ้านั้นเป็นเช่นเคียวเกี่ยวชีวิต
รู้ชอบผิดชั่วดีที่เสาะหา
เป็นกุศลของแม่แล้วเจ้าแก้วตา
ไม่ให้แม่โศกาแม้คราเดียว
เจ้าล้ำค่าเกินใดหาไหนเทียบ
หาใดเปรียบไม่ได้แท้แม้ครึ่งเสี้ยว
เราผูกพันฝั้นแก่นแน่นเป็นเกลียว
มิเคยเลี้ยวลดใจไปจากกัน
เรากินนอนร่วมกันสรรค์ความสุข
คราใครทุกข์หม่นใจได้ปลอบขวัญ
ช่วยแก้ไขคราข้องขัดขจัดพลัน
ความผูกพันธ์แน่นเหนียวดุจเดียวกัน
18 กรกฎาคม 2551 03:07 น.
นรศิริ
พรเพื่อคุณ และปุจฉา
อีกเมื่อไรเล่าจะถึงซึ่งพรุ่งนี้
คำถามที่หัวใจเฝ้าไถ่ถาม
อีกนานไหมจะมีมาวันฟ้างาม
อาบน้ำตาต่างน้ำอีกเท่าไร
ฟ้ามืดมิดดั่งชีวิตที่มืดหม่น
ว่ายเวียนวน วนเวียนจะเปลี่ยนไหม
อีกกี่ช้ำฟ้าสีทองจึงผ่องไพ
หรือหาไม่สำหรับเราผู้เฝ้ารอ
กับชีวิตที่เรียบเรียบและง่ายง่าย
สะดวกดายกับการให้แม้ใครขอ
มอบเมตตาการุณย์อุ่นลออ
ไม่เคยพ้อแม้เหนื่อยแสนแม้ทำบุญ
ทนไม่ได้ที่จะเห็นใครเป็นทุกข์
อยากให้สรรพสัตว์สุขจึงเกื้อหนุน
ทุกส่ำสัตว์ใหญ่โตหรือเพียงจุล
ใจการุณย์แผ่บุญไปให้เหมือนกัน
จงสุขกายสุขใจไร้เศร้าโศก
วิปโยคจงร้างห่างไกลขวัญ
จงมีสุขทุกผู้อยู่นิรันดร์
จงพบพานสุขสันต์นิรันดร์กาล