12 พฤษภาคม 2551 14:23 น.

ซับน้ำตาด้วยใจ แด่คนบ้านลกอนผู้ร้าวราน (กาพญ์ยานี ๑๑)

นรศิริ

ซับน้ำตาด้วยดวงใจ

    ขอใช้ใจแทนผ้า
 ซับน้ำตาที่หลั่งริน
กอดรัดใจโบยบิน
ประโลมขวัญทุกเวลา

    น้องเหนื่อยมามากแล้ว
เจ้าดวงแก้วพักเถิดหนา
เอนองค์พักกายา
ลบน้ำตาเปื้อนแก้มนวล

    เริ่มต้นบนทางใหม่
สิวิไลไร้กำสรวล
ผ่านเลยแล้วทบทวน
มัวคร่ำครวญจะเสียกาล

    ปัญหามีเพื่อแก้
ไม่เที่ยงแท้ดอกสังขาร
วันนี้เราซมซาน
พรุ่งนี้หวานฉ่ำอุรา

    ไม่มีที่สิ้นสุด
คือมนุษย์นั่นแหละหนา
โกงกินทุกเวลา       
หยุดเถิดหนาเพื่อขาติไทย				
11 พฤษภาคม 2551 10:16 น.

เสียงสะอื้นจากคนคอย

นรศิริ

เสียงสะอื้นจากคนคอย

     จากท้องนาป่าเขาลำเนาเถื่อน
ฝากลมเคลื่อนเดือนคล้อยลอยล่องหา
หอบความรักภักดิ์คิดถึงติดตรึงตรา
กระซิบเว้าวอนว่าคิดถึงเธอ

     คืนนี้ฟ้ามืดมิดจิตมัวหม่น
คิดถึงคนคนหนึ่งซึ้งเสมอ
เคยนอนหนุนอุ่นละไมใจละเมอ
คิดถึงเธอจวนเจียนใจจะขาดรอน

     สายฝนพรำจากฝากฟ้ามาสู่พื้น
แสนกล้ำกลืนอาลัยสายสมร
โหยไห้หวนครวญคร่ำพร่ำอาวรณ์
ทอดถอนทุกข์ระทมตรมมิวาย

     เรไรหริ่งระงมพรมน้ำฟ้า
หยาดน้ำตาไหลรินถวิลหาย
โอ้ดึกดื่นขื่นข้นทุรนทุราย
มิวางวายเว้นว่างห่างทุกข์ทน

     ไก่ป่าขันกังวานมาเจื้อยแจ้ว
อรุณรุ่งอีกแล้วเวหาหน
สรรพสิ่งเข้าสู่วังเวียนวน
หากหัวใจคนคอยไม่เปลี่ยนแปลง				
10 พฤษภาคม 2551 21:37 น.

คู่กันแล้ว

นรศิริ


                     คู่กันแล้ว
ปากกาคู่กระดาษ      ตฤณชาติคู่ผืนดิน
ร่ำรวยคู่ทรัพย์สิน     กัดเกลือกินคู่ความจน

ความเลวคู่จอมโจร     ดีฉายโชนทุกชั้นชน
ดอกไม้คู่ใจคน      คือความดีที่ใจจินต์

ภมรคู่มาลี      ฝั่งนทีคู่โขดหิน
ผืนฟ้าคู่แผ่นดิน     อีกจันทราคู่ตาวัน

สายหมอกคู่คืนหนาว    เดือนคู่ดาวที่ผกผัน
กลางคืนคู่เคียงจันทร์     ตัวโฉมนั้นจะคู่ใคร

                                     				
8 พฤษภาคม 2551 21:08 น.

........ฤาหยุดได้ฉันใด

นรศิริ

ฤาหยุดได้ฉันใด

วันเดือนปีเคลื่อนคล้อย     คลาไคล  ดอกนา
วันเปลี่ยนแปรไป     เปล่าสิ้น
ความดีห่อนลาไกล     กลับยั่ง  ยืนยง
คราเมื่อตัวด่าวดิ้น     ไป่สิ้น  ความดี

วันวานเอยไม่รั้ง     รอใคร
หมุนเปลี่ยนเวียนไป     ค่ำเช้า
มีใครเล่าหยุดใจ      ไป่ลง  จงจินต์
ใครไม่อาจอยู่เฝ้า      แผ่นฟ้า  แดนดิน				
8 พฤษภาคม 2551 04:13 น.

เสียงเพรียกจากพงไพร (เอาป่ามาคืน ตอนที่ ๒ )

นรศิริ

เสียงเพรียกจากพงไพร  ( เอาป่าคืนมา ตอน ที่ ๒ )

     ไม่เหลือแล้วแนวพนาป่ากว้างใหญ่
เพียงเศษซากตอไม้มีให้เห็น
เจ็บปวดแสบแทบเลือดตากระเด็น
ใยไม่เห็นคุณค่าพนาดอย

     ฝูงสัตว์แลป่าใหญ่หายไปสิ้น
ยุงเหลือบริ้นบินว่อนซ่อนเปลือกหอย
ถูกรุมเผาเป็นขี้เถ้าเหลือเพียงกลอย
หมู่มดตัวน้อยน้อยค่อยขุดรู

     อนิจจาน่าอนาถเอน็จแท้
เหลือดตาแลเศร้าสลดทั้งอดสู
ไม่เหลือแล้วแววงามไว้เชิดชู
สัตว์ได้รู้ผู้สูงล้ำใยต่ำทราม

     จงอดทนเถิดหนาป่าแลสัตว์
สารพัดสารพันอย่าครั่นขาม
เจ้าคือแก้วสารพัดจรัสงาม
วับแววงามอร่ามตาอรุณใจ

     เจ้ามีค่ามากล้นเกินคนรู้
เจ้าคือผู้สูงส่งอย่าสงสัย
เจ้ามีค่ามากล้นท้นภพไตร
หล่อเลี้ยงให้ชีวิตสถิตธรรม์

     เมื่อไหร่หนอมวลมนุษย์หยุดทำร้าย
คงไม่สายเกินไปใช่ไหมขวัญ
หยุดทำลายป่า -  สัตว์ขจัดควัน
เอาป่าไม้บ้านฉันนั้นมาคืน


ต้องขออภัยท่านผู้อ่นด้วยนะคะ วันนี้ดูมันฝืดจัง      เพราะยังสะเทือนใจกับพม่าอย่างรุนแรงสงสารเขาจังเลย ผีซำดำพลอยแท้ๆเลย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนรศิริ