21 เมษายน 2551 08:56 น.
นรศิริ
ณ บ้านนี้ล้วนมากมีแช่งด่าบ่น
สุดจะทนเหลือจะทานต้านใจไหว
แสนทุกข์ร้อนอ่อนเพลียละเหี่ยใจ
อยากจะไปไกลสุดหล้าฟ้าแผ่นดิน
ทุกค่ำเช้าด่าทอพ่อป้าบ่น
น้ำตาแม่ร่วงหล่นคนติฉิน
รับกับความเจ็บปวดเป็นอาจิณ
น้ำตารินเจ็บแสนแทนแม่เรา
แม่ไม่เคยบ่นด่าหรือว่ากล่าว
มากเรื่องราวประดังทับแม่อับเฉา
แม่ไม่เคยโต้กลับหากรับเอา
ปัญหาเร้ารุมใจไฟสุมทรวง
พ่อยุแยงตะแครงป้ามาด่าแม่
ล้วนแต่คำต่ำช้านำมาหน่วง
แม่นั่งนิ่งน้ำตาหยดรินรดทรวง
น้ำตาเราร่วงหลั่งพรั่งพรู
แม่จ๋าแม่ของลูกปลูกชีวิต
แม่อุทิศทำสิ่งดีที่เลิศหรู
ใยกุศลผลบุญไม่หนุนชู
ทิ้งให้แม่หดหู่ทุกวันวาร
แม่ไม่เคยคิดร้ายกับใครอื่น
หากแม่ยื่นหยิบให้ใจสงสาร
แม่ล้วนสร้างกุศลผลบุญทาน
ใยไม่ผ่านพ้นทุกข์สุขเสียที
แม่ยิ้มชื่นระรื่นจิตคราชิดลูก
เราพันผูกร้อยใจไม่หมองศรี
แม่ของลูกปลูกปั้นสรรค์สิ่งดี
มิให้มีทุกข์ร้อนกัดกร่อนใจ
คราเมื่อแม่ยลลูกหลับกลับสะอึ้น
ลูกสุดฝืนน้ำตารินหลั่งไหล
เก็บสะอื้นซ่อนไว้แต่ภายใน
แม่รู้ไหมใจลูกจะขาดรอน
ขอตั้งจิตอธิษฐานสาบานว่า
จะเทิดทูนบูชาแม่มิไถ่ถอน
วอนเทพไท้โปรดได้ประทานพร
ให้ทุกข์ร้อนแม่นั้นพลันเสื่อมคลาย
อยากให้ ณ บ้านนี้มากมีรัก
เฝ้าฟูมฟักรักใคร่มิเหือดหาย
สิ้นสุดความสับสนปนวุ่นวาย
เลิกทำร้ายใจแม่เราเท่านั้นพอ
18 เมษายน 2551 13:26 น.
นรศิริ
มือชะม้อยซอยทอดสอดรวงข้าว
แล้วเคียวน้าวเหนี่ยวกระหวัดสบัดไหว
ปานจะทอดถอดรวงอันยวงใย
กระหวัดเคียวเกี่ยวใจสู่ดินแดน
ละมุนมือถือเคียวเกี่ยวท้องทุ่ง
ปาดเหงื่อมุ่งเกี่ยวรวงที่หวงแหน
ปั้นเป็นแผ่นดินเหนียววางเรียวรวง
แล้วเก็บรวงวางเรียงมารายเริ่ม
ก็ค่อยเสริมสอดไม้ละไมหวง
ค่อยรูดรัดจัดปองประครองควง
สะบัดจ้วงลงรำข้าวพรำพรา
เหนื่อยมากนักพักบ้างเถิดนางแก้ว
โลกรู้แล้วว่าแม่หญิงยิ่งภูผา
เจ้าอ่อนช้อยใช่เจ้าอ่อนซึ่งปัญญา
1 ใน2 คุณค่ามหาสตรี
16 เมษายน 2551 20:34 น.
นรศิริ
คนต่างด้าวเขาคือคนใช่หรือไม่
แล้วทำไมทำกับเขาราวกับหมา
เขาอดโซโหยหิวไส้กิ่วมา
อนิจจาถูกขังไว้ในห้องเย็น
เขาไม่ใช่ส่ำสัตว์สักน้อยนิด
รู้ผิดชอบชั่วดีมีคิดเห็น
เขาพลัดถิ่นดินแดนแสนลำเค็ญ
เพียงเพื่อเป็นซากศพพบความตาย
เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็นใครเห็นบ้าง
แม้รู้ว่าค่าจ้างบางส่วนหาย
ถูกนายจ้างนายทุนหมุนกลืนกลาย
หยุดทำร้ายเขาเถิดหนาพวกหน้าเงิน
ขอสาปส่งลงนรกจ่งหมกไหม้
อเวจีจงรับไว้อย่าขัดเขิน
แค่จำคุกนั้นหนามีค่าเกิน
จงเผชิญจุดจบพบความตาย
เป็นมนุษย์เพียงกายใจแสนชั่ว
ชอบเมามัวอบาย _ กาม ทรายเหลือหลาย
ในสายเลือดชอบแต่ยุ่งมุ่งทำลาย
จงวอดวายวายวอดตลอดไป
คนต่างด้าวเขาตายไปในวันนี้
เพื่อประตูแห่งเสรีนี้เปิดไข
อรุณรุ่งดุ่งแดงแห่งอำไพ
จุ่งสานชัยสืบสร้างทางเสรี
11 เมษายน 2551 23:02 น.
นรศิริ
สวัสดีพี่น้องผองหมู่ชาวกลอน ข้อยสิขอแถมพรปีใหม่มาเมษาฯเข้า
ปีใหม่ล่วงไปแล้วให้นำแนวเศร้าเก่าไป
เมือปีใหม่ล่วงเข้าซุมเจ้าให้ฮุ่งเฮือง
เหลืองเหลืองเหลือมเทียมเมฆาตาเว็นฮุง
ทั้งพ่อลุงแม่ป้าอาวอานั้นใหซุ่มเย็น
เคราะห์อย่าได้เห็นเวรอย่าได้ใกล้
เสนียดจัญไรให้ไกลห่าง
ทั้งกลางเว็นกลางคืนตื่นมาให้มีโชค
โรคฮ้ายอย่าพาลมารฮ้ายอย่ามาท่อง
ให้เจ้าใสฮองฮองกะดั่งทองทาไว้
ให้เหลื่อมจังไหมให้ใสจังแก้ว
ไผแงงแล้วเปิดบ่เป็น
บ่ออยากพลัดพรากเว้นเว็นหากจ่องจำหนี
บ่ออยากไกลสายคอแม่เวรหากพาเว้น
มันกะจำเป็นแหล่วสิลาลงโค้งอ่วย
ลาก่อนเด้อคนสวย หล่อด้วย
ขอจบลงท่อนี้สุขขีถ้วนทั่วทุกคน
เหล่นสงกรานต์ให้ม่วนๆเด้อพี่น้อง
10 เมษายน 2551 04:43 น.
นรศิริ
จะรู้บ้างไหมหนอใครรออยู่
จงรับรู้ว่าคนคอยสุดหงอยเหงา
แม้ความหวังจะมีเพียงบางเบา
ยังคงเฝ้ารอเธอเสมอมา
วิหคบินเคียงคู่อยู่ใกล้ใกล้
เยี่ยงปวดใจคนคอยละห้อยหา
เฝ้ารอคอยเธอหวนทวนกลับมา
รู้ไหมว่าคนคอยนั้นฝันละเมอ
หรือเธอมีคนอิงแอบแนบสนิท
จนลืมมิตรคนเก่าเฝ้าพลั้งเผลอ
คนที่มอบใจรักภักดิ์เพียงเธอ
เขาละเมอรอคอยอย่างน้อยใจ
รู้บ้างไหมใครคอยละห้อยหวน
แสนรัญจวนป่วนปั่นหวั่นและไหว
รอด้วยความคิดถึงซึ้งอาลัย
คงขาดใจหากเธอลับไม่กลับมา