31 มีนาคม 2551 22:51 น.

รุ่งอรุณณ ปางอุ๋ง

นรศิริ

แสงสูรย์สาดส่องขึ้น   ขอบสรวง
ดุจประทีปหมื่นแสนดวง   เด่นด้าว
ยองใยดุจเงินยวง   ใยย่อง
แลมณีกลางทุ่งข้าว   จรัสฟ้าพรมดิน
น้ำฟ้ารินข้าวฟ้า   ฟูแดน
หนาวเหน็บเจ็บแสบแสน   สร่างพื้น
แลสลัวราวเมืองแมน   มาร่วง
ดั่งจะหลั่งรดฟื้นรดฟ้า   พรมดาว
พราพราวดั่งเพชรพร้อย   พยับพราย
ต้องเปลวแดดแผดวางวาย   วูบร้าง
สูรย์แสงส่องแสงสาย   แผดหมอก
แลหมอกกว้างกว่ากว้าง   กู่แพร้วพรายตา
รัตนามาอุบัติแล้ว   ลานทะเล
ลมเหนือพัดหมอกเห   หักรุ้ง
ระรานระรวนเร    เรร่วน
ประสิงขรฟู่ฟุ้ง   ฟาดฟ้าจรัสศรี				
31 มีนาคม 2551 22:50 น.

คมตุลา

นรศิริ

ทั่วทุกที่ทั่วทางราร้างสิ้น
พบแผ่นดินมืดสลัวมัวสลบ
น้ำตาไหลเลือดหลั่งพังทำนบ
เหลือเพียงชิ้นส่วนศพไร้วิญาณ
เลือดไหลหลั่งนองไว้คือชัยชนะ
ปลดโซ่สู่อิสระที่สืบสาน
ไทยคือไทมิใช่ไทในตำนาน
มิใช่เรื่องวันกาลกองกูล
คือธงชัยธงธรรมนำประทีป
ทุกสาเหตุก่อผลคนใช่สูญ
ประเทศจะเรืองรัดจรัสจรูญ
ถ้าหยุดปูนกูลเผ็ดเผด็จการ
เสียงแว่วแว่วกระหึ่มไกลไปแว่วแว่ว
ลูกก้าวแล้วก้าวสร้างทุกทางผ่าน
จากโซ่เส้นรึงเร้ามาเนานาน
จากกองถ่านเป็นกองไฟสู่ชัยธง
จากดินร่วนดินเม็ดรวมเป็นก้อน
เป็นสิงขรตระหง่านกล้าท้าพิษสง
ทุกคนมีสิทธิ์นึกจารึกผจง
มิใช่ดงก้อนหินรอสิ้นใจ
จากวันนั้นวันนี้วันที่ผ่าน
ดอกตุลายังเบ่งบานอย่าหวามไหว
รอวันที่พี่น้องผองไผท
จะสานชัยสืบช่วงดวงเสรี				
31 มีนาคม 2551 22:46 น.

สืบ

นรศิริ

สืบไพรพงป่ากู้    กาลสมัย
นานับสับสืบสาน   สืบสร้าง
คะคู่คะพงพาน   ไพรพฤกษ์
เสถียรคู่ป่ากว้าง   กู่แล้วหลับสลาย
รายล้านหลับกี่ล้าน   ลืมตื่น
คนจนยังทนฝืน   ป่าค้น   
ตราบป่ายังถูกกลืน   ลอบกัด
น้ำตาหยาดเอ่อล้น   เอ่อแล้วใครเห็น
ยืนหยัดยืนเข่นข้า   สัตว์อยู่
กระสุนกราดยังสาดพรู   เผ่นขย้ำ
ไร้คนจริงไร้ครู   ครรลองเริ่ม
ท่านสืบท่านรุดล้ำ   รุดฟ้าไผทดิน
ปลุกชาติให้เจริญสิ้น   สูญพนา
คุณธรรมไร้ศักดา   สุดดิ้น
ตามติดดั่งทาสา   ปฉิมภาค
ความเป็นคนหมดสิ้น   ศักดิ์แท้ทาสา
นกยูงท้าแดดล้อ   รำแพน
ท่านสืบท่านหวงแหน   ห่วงไว้
ปลูกรักษ์ปลูกป่าแทน   ประทีปธูป
ดอยแดนปักธูปให้    ห่างสิ้นทุนสมัย
ท่านตายปลุกคนท้า       อธรรม
คือฝนร่วงพรมฉ่ำ   ฉ่ำพื้น
คนจริงคนกล้านำ    กล้านึก
สืบจักสืบฟื้น   สืบฟ้าประจักษ์สรวง				
31 มีนาคม 2551 22:44 น.

ต่างด้าว

นรศิริ

กี่ยุคแล้วร้อยยุคยังทุกทั่ว
คนจนต้องหดหัวเป็นคนเถื่อน
กี่สูรย์จันทร์ลาลับดับกี่เดือน
ก็ยังเกลื่อนกลาดกรายคล้ายเศษคน
เด็กเกิดในเมืองไทยเป็นต่างด้าว
ด้วยข้นคาวดอยเดนแสนขัดสน
ถ้าบ้านเมืองทรราชกราดเวียนวน
ไฉนปัญญาชนทนดูดาย
ถึงอำนาจบาตรใหญ่หากใฝ่ต่ำ
ก็ส่ำสัตว์สาสิงห์ทุกสิ่งสาย
เป็นเพียงคนหนักโลกรอวันตาย
เป็นคนทำลายเถื่อนเพื่อนมนุษย์
กฎหมายกฎกดกรอบกฎลอบกัด
หาทางลัดช่องว่างทางกินสุด
แสงแห่งความเป็นธรรมไม่นำรุด
แสงแห่งคอรัปชั่นผุดทั่วแผ่นดิน
ใยประทีปแห่งปัญญาไม่มาส่อง
ไม่เหลือแล้วทุ่งทองเพียงก้อนหิน
น้ำตาท่วมหน้าโหยค่อยโรยริน
ดั่งจะสิ้นขาดใจไร้พึ่งพา
กี่คราแล้วแสงทองเพียงมองผ่าน
ยิ่งประจานผู้ยิ่งใหญ่ไร้ศักดิ์ศา
นี่แหละคือยิ่งใหญ่ไร้ปัญญา
                           	เพียงควายสนตะพายพาหมาสินบน				
31 มีนาคม 2551 22:42 น.

ครูจันทร์แรม

นรศิริ

ผูกโคลงผูกกาพย์ก้ว   ภิวาทแล้วอภิวันฑ์
อุดมการณ์อนันต์   อเนกน้าวณด้าวดิน
อุดมการณ์บรรจบ   น้ำตาทบท่าวหลั่งริน
น้ำใจไออวยอิน   ฉ่ำเทวศทุกเขตคาม
ยอดคนครูจันทร์แรม   จำรัสแต้มแต่งทุ่งทาม
ดอยแดนแสนงดงาม   ฤจักเทียบเปรียบน้ำใจ
น้ำเอยน้ำเปลี่ยมแปล้   ประเสริฐแท้แม่พิมพ์ไทย
ครูคือประทีปชัย   ส่องทางธรรม์ตามครรลอง
เสริมนสร้างคุณค่า   ใช่สัตว์สาเขาจำจอง
เงินตรามาปกครอง   ไม่ดีแท้ตามทางธรรม
ฝิ่นบ้ายาเสพติด   สตรีสิทธิ์พินิจนำ
พระคุณการุณย์กำ   ซาบส่าซึ้งสากล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนรศิริ