29 พฤศจิกายน 2551 06:29 น.

ทนไม่ได้ที่จะลาตาคู่นั้น

นรศิริ

ลา
มิอาจเอื้อนเอ่ยคำว่าลาจาก
จำต้องพรากจากไปไกลสุดแสน
เหตุเพราะต้องศึกษาในต่างแดน
รักสุดแสนสุดใจจำไกลลา

เคยร่วมเรียนร่วมเล่นมิเว้นว่าง
เคยเคียงข้างเธอฉันสุขหรรษา
รุ่งอีกวันยิ่งร้าวรวดปวดอุรา
กลัวเวลาพาพรากเราจากกัน

ไม่อยากตื่นมารับอรุณรุ่ง
กลัววันพรุ่งพลัดพรากไปจากขวัญ
เราคงเหมือนชีวีไร้ชีวัน
เพียงกายพรากเท่านั้นใจเธอครอง

เจ็บแผลนอกพอบอกหมอรักษาให้
แต่เจ็บที่หัวใจมันกลัดหนอง
เราพลาดหวังทั้งปวงที่หมายปอง
จึงจำต้องห่างไกลจำใจลา

เธอได้เป็นนิสิต  ม.เชียงใหม่
ฉันจากเธอมาไกลถึงสงขลา
จึงไม่เหลือแววใสในแววตา
เหลือแต่รอยห่วงหาในสองเรา

ยลเธอหมองหม่นไหม้ใจจะขาด
มันแสนบาดอุราพาหงอยเหงา
อยากจับมือถือไว้แนบใจเรา
แต่ก็กลัวเกียรติ์เจ้าจะเสื่อมคลาย

คำปลอบโยนจากมาสู่ตานั้น
สื่อสัมพันธ์บ่งบอกความมุ่งหมาย
ว่าจะขอจงรักภักดิ์จนตาย
แม้ชีพวายก็ยังรักเพียงเธอ

ทนไม่ได้ที่จะลาตาคู่สวย
ฉันคงม้วยหากมีใครเสนอ
วอนเทวาอย่ามีใหม่ให้เจอะเจอ
ฉันคงเพ้อเดียวดายตายทั้งเป็น

ฝากตะวันจันทราดาราเฝ้า
อย่าให้มีใครเขามาพบเห็น
จงเก็บใจเธอไว้อย่างซ่อนเร้น
ทุกคืนค่ำย่ำเย็นจงคุ้มครอง				
24 พฤศจิกายน 2551 05:30 น.

รักกันไว้เถิด

นรศิริ

จากเมล็ดมาเป็นกล้า
อีกไม่ช้าเป็นรวงสวย
แล้วสุกเหลืองหอมระรวย
ก่อนจะม้วยไปตามกาล

ทุกสิ่งนั้นแปรเปลี่ยน
วนเวียนในวัฏสงสาร
จวบจนสิ้นกาลนาน
จักรวาลยังเวียนวน

ลางคนสูงบางคนต่ำ
บางคนดำบ้างขาวล้น
ทั้งบางผู้สู้ทุกข์ทน
แต่บางคนสุขสบาย

เกิดมาแล้วก็ล้วนดับ
สูรย์ยังกลับแลลับหาย
มีจันทราดาราราย
กระจายทั่วท้องนภา
สิ่งใดหนอที่ยืนยั้ง
ล้วนสูญพังทั้งนั้นหนา
วันนี้เอมเปรมอุรา
วันพรุ่งหนาอาจม้วยมรณ์

ยึดมือมั่นกันแน่นไว้
แน่นหนักให้ดั่งสิงขร
ชูชาติไทยให้กำจร
เลิกริดรอนชาติตัวเอง



สวัสดีค่ะญษติพี่น้องบ้านกลอนทุกท่าน.......นรศิริ  กลับมารายงานตัวให้รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ค่ะ  เดี๋ยวตอนเย็นกลับเข้ามาใหม่ค่ะ				
10 พฤศจิกายน 2551 06:15 น.

ครูอย่างฉัน…ที่ได้รับคำชมว่าทั้งบ้าทั้งโง่

นรศิริ

ครูอย่างฉันที่ได้รับคำชมว่าทั้งบ้าทั้งโง่

อุดมการณ์จะสร้างสรรค์ปั้นแต่งศิษย์
ทั้งมุ่งมั่นจะพิชิตความโง่เขลา
เติมให้เต็มสีที่จางและบางเบา
ให้เข้มข้นซึมและเข้าสู่แก่นใจ

จึงอุทิศทั้งชีวิตเพื่อสอนสั่ง
ด้วยความหวังล้ำเลิศประเลิศไสว
ศิษย์ของครูจักชูเชิดเลิศวิไล
ด้วยความรู้และหัวใจใฝ่คุณธรรม

ครูหลายคนคอยพร่ำบ่นว่าครูบ้า
เล่นกับศิษย์ชอบเกือกกลั้วทำตัวต่ำ
แต่ครูยังจะยืนยันการกระทำ
เพียงเพื่อศิษย์ครูเลอล้ำคุณความดี

เป็นทั้งพ่อทั้งแม่แลเพื่อนทุกข์
คราใดศิษย์ไร้สุขครูหมองศรี
ครูขอเป็นเพียงแม่พระของคนดี
ศิษย์จึงมีครูเป็นแม่ดูแลเธอ

รักศิษย์ทุกคนเสมอ				
5 พฤศจิกายน 2551 05:25 น.

คอยด้วยความปวดร้าวใจ

นรศิริ

คอยด้วยความปวดร้าว

ทุกวันฉันนั่งคอยเธอ  ณ  ที่เก่า
มิมีแม้เพียงเงาเจ้าจอมขวัญ
คอยด้วยความปวดร้าวเศร้าชีวัน
โปรดกลับมาหาฉันเถิดดวงใจ

การรอคอยด้วยรอยหวังยังมีสุข
ฉันรอย่างท้นทุกข์ทำไฉน
เพราะฉันรออย่างไร้หวังพลังใจ
ทับถมด้วยหม่นไหม้เข้ามาเยือน

โอ้อนาถวาสนานิจจาหนอ
อกคนรอหมองไหม้ใครจะเหมือน
และวันนี้ความหวังกำลังเลือน
เมื่อแสงเดือนฉายส่องท้องนภา

เก็บฝันหวังไว้รอต่อพรุ่งนี้
ด้วยความหวังล้นปรี่เธอเยือนหนา
คงเหมือนหยาดน้ำทิพย์ธารธารา
ที่หลั่งมาชโลมใจหายโศกตรม



ฝูงนกกระยางที่แสนรักเคยนั่งดูทุกวันห่างหายไปร่วมสามสัปดาห์แล้วคิดถึงเหลือเกินค่ะ				
2 พฤศจิกายน 2551 04:58 น.

โปรดยื่นมือให้ฉัน....ด้วย

นรศิริ

โปรดยื่นมือให้ฉันด้วย

คนไร้หวังนั่งรออย่างท้อแท้
คนพ่ายแพ้หม่นไหม้ใจสลาย
คนที่อยู่อย่างทดท้อรอวันตาย
คนที่หัวใจละลายเสี้ยวธุลี

ใช่อ่อนแอแต่ไร้ซึ่งทางสู้
จึงเป็นผู้แพ้ชะตาแพ้ราศี
ให้หนาวเหน็บเจ็บแสบแปลบฤดี
ดั่งนกที่ไร้คอนร่อนเอกา

โอ้อนาถวาสนานิจจาหนอ
เฝ้าแต่รออรุณรุ่งพรุ่งนี้หนา
อาจโชคดีมีหวังดังจินตนา
สุริยาอัสดงยังคงเดิม

หวังสิ่งใดได้เพียงแต่สิ้นหวัง
หมดพลังใจกายามาส่งเสริม
หาแรงใจใครหนอมาต่อเติม
เพื่อมาเพิ่มพลังสู้ผู้อ่อนแรง

โปรดจับมือฉันไว้ในวันนี้
ให้ฉันมีชีวันอันเข้มแข็ง
อีกมือนั้นขอจงอย่าเปลี่ยนแปลง
ฉันคงแกร่งพอจะอยู่สู้ต่อไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนรศิริ