31 ตุลาคม 2551 14:45 น.
นรศิริ
ฝากผ้าห่มใจให้ชาวดอย
ระรอกลมพัดมาแสนชาเจ็บ
ให้หนาวเหน็บทรวงในใจห่วงหา
คิดถึงล้นคนบนดอยที่จากมา
ป่วนอุราปั่นฤดีคนที่ไกล
อุ่นกายาอุ่นได้ด้วยผ้าห่ม
ใจเหน็บหนาวระบมห่มไฉน
ยิ่งดื่นดึกเหน็บหนาวร้าวหัวใจ
ยิ่งคำนึงถึงคนไกลที่บนดอย
ถึงบนดอยหนาวกายหากใจอุ่น
ดอกเอื้องกรุ่นหอมกลิ่นถวิลสอย
โอ้ป่านนี้เขาหนอคงรอคอย
จะหอบใจดวงน้อยคืนดอยเยือน
ยังคิดถึงที่นั่นมั่นดวงจิต
ใจยังคงแนบชิดเสมอเหมือน
โสมดาราคู่ฟ้ามิลาเลือน
สุรีย์เลื่อนลงคงนิรันดร์
จะกลับไปสานฝันดังวันก่อน
จะคืนคอนร่อนถลาสู่ฟ้าฝัน
ร่วมถากถางร่วมสร้างทางชีวัน
ร่วมประจัญประจญภัยในทุกคราว
ณ พื้นราบยังเหน็บหนาวถึงเพียงนี้
บนดอยที่หมอกพราวคงเหน็บหนาว
ฝากไออุ่นอุ่นรักมากับฟ้าพราว
เป็นผ้าห่มกันหนาวให้ชาวดอย
18 ตุลาคม 2551 22:33 น.
นรศิริ
เสียงสะอื้นจากคนคอย
จากท้องนาป่าเขาลำเนาเถื่อน
ฝากลมเคลื่อนเดือนคล้อยล่องลอยหา
หอบความรักคิดถึงติดตรึงตรา
กระซิบเว้าวอนว่าคิดถึงเธอ
คืนนี้ฟ้ามืดมิดจิตมัวหม่น
คิดถึงคนคนหนึ่งซึ้งเสมอ
เคยนอนหนุนอุ่นละไมใจละเมอ
คิดถึงเธอเจียนใจจะขาดรอน
สายฝนพรำจากฝากฟ้ามาสู่พื้น
แสนกล้ำกลืนอาลัยสายสมร
โหยไห้หวนครวญคร่ำพร่ำอาวรณ์
ทอดถอนทุกข์ระทมตรมมิวาย
หริ่งเรไรระงมพรมน้ำฟ้า
หยาดน้ำตาไหลรินถวิลหาย
โอ้ดึกดื่นขื่นข้นทุรนทุราย
มิวางวายเว้นว่างห่างทุกข์ทน
ไก่ป่าขันกังวานมาเจื้อยแจ้ว
อรุณรุ่งอีกแล้วเวหาหน
สรรพสิ่งเข้าสู่วังเวียนวน
หากหัวใจคนคอยไม่เปลี่ยนแปลง
9 ตุลาคม 2551 15:15 น.
นรศิริ
ผิดด้วยหรือที่เกิดเป็นกาดำ
ถูกประณามหยามหมิ่นจนชินช้ำ
ตัวแสนดำซ้ำเจอข้อกล่าวหา
ลักขโมยเขากินน่าระอา
แสนชั่วช้าสามาลย์สันดานไพร
ดั้นด้นสู่จุดหมายที่ปลายฟ้า
อรุณทองส่องหล้านภาใส
จากถิ่นฐานบ้านเกิดสู่แดนไกล
ผ่านผองภัยนานาเป็นอาจิณ
แต่ฉันไม่ทำใครให้ช้ำหม่น
ทุกผู้คนรังเกียจฉันหวั่นถวิล
ไม่เคยทำใครช้ำน้ำตาริน
ไม่เคยโกงแผ่นดินเหมือนบางคน
มิเคยเข่นฆ่าใครผู้ใดสิ้น
มีชีวินบริสุทธิ์ทุกแห่งหน
เที่ยวเก็บกินเศษซากทั่วมณฑล
มิเคยบ่นทดท้อต่อชะตา
เกิดมาแล้วไม่แคล้วต้องตายดอก
เป็นทางออกสุดท้ายวายสิ้นหนา
ต่ำติดดินหรือเหาะเหินเดินบนฟ้า
ทุกชีวาต้องดับลาลับลง
อนิจจาใครประเสริฐเลือกเกิดได้
ทุกผู้ไซร้จะต้องสมประสงค์
ถึงตัวดำก็มีเจตจำนง
สัจมั่นคงจะเทอดธรณิน
กาไม่เคยแย่งชิงไม่ฆ่าใคร หากแต่เก็บกินเศษซากสัตว์ที่ตายแล้ว เสมอ แต่ทำไมคนจึงมองว่ากาต่ำต้อยนัก กาขยันออกหากินแต่เช้าตรู่ ไม่อู้งานเหมือนมนุษย์นะคะ
5 ตุลาคม 2551 20:51 น.
นรศิริ
นิยายรักสองเรา
โบกโบยบินคืนคอนอย่างอ่อนล้า
ข้ามขอบฟ้ากว้างไกลและไพศาล
ทั้งเจ็บปวดรวดร้าวเศร้าซมซาน
ดุจดั่งดวงวิญญาณจะหลุดลอย
หวังตามติดชิดชมให้สมรัก
มอบใจภักดิ์เธอหมดมิถดถอย
จะกี่ภพกี่ฝันฉันจะคอย
ถึงวันเคลื่อนเดือนคล้อยไม่นำพา
และแล้ววันคอยรอก็มาถึง
ฉันดีใจสุดซึ้งได้สบหน้า
ทั้งชีวิตมอบอุทิศเธอทุกครา
อนิจจามามอดม้วยด้วยมือเธอ
ก่อนสิ้นลมพนมมือขอสาปส่ง
เจตจำนงแคล้วคลาดปราศเสมอ
ขอจงครองรวดร้าวเฝ้าละเมอ
และขออย่าพบเจอเธอใจดำ
แม้นว่ารู้ความจริงทุกสิ่งสิ้น
เป็นอาจิณโหยไห้ใจถลำ
อัสดงมองฟ้าหา(ฉัน)ประจำ
จงดื่มด่ำความเศร้าร้าวระบม
หากพานพบก็เพียงสาบฟ้าแลบ
จงปวดแปลบทุกอณูจงขื่นขม
ในทุกคราครองคู่ความระทม
ให้สาสมกับที่ฉันร้าวราน
2 ตุลาคม 2551 19:32 น.
นรศิริ
ความเจ็บปวดของวันนี้ที่ได้รับ
ฉันยินดีที่จะรับกับความช้ำ
กับเวรกรรมทำไว้ในหนหลัง
แม้นชีวีฉันนี้จะภินท์พัง
หรือไร้หวังชั่วนิจนิรันดร
ไม่ทดท้อต่อชะตาฟ้าลิขิต
ขอใช้หนี้ชีวิตดวงสมร
จะเจ็บช้ำฉันใดไม่อาทร
มิผัดผ่อนเลี่ยงหลบจะพบพาน
หากทดแทนเธอได้จะไม่ยั้ง
ขอประสบทุกครั้งทุกถิ่นฐาน
ยินดีรับกับความเศร้าเหงาร้าวราน
ทรมานจวบจนชีพวางวาย
คงจะสายเกินไปใช่ไหมขวัญ
กับค่าความรักมั่นเธอมอบหมาย
พิษรักเผาเธอไหม้ม้วยมลาย
ทุกภพตายด้วยช้ำหนักรักคนเลว
แม้เพียงนั้นเธอไม่หวั่นยังตามติด
ยอมอุทิศชีวิตทิ้งห้วงเหว
เธอภักดิ์ฉันเลอล้ำดั่งคำเปลว
ร่วงหลุดเหลวลมฝนชะพระประทาน
มาบัดนี้ฉันซึ้งในน้ำใจนั้น
จะอุทิศชีวันเพื่อสืบสาน
มอบใจรักภักดิ์เพียงเธอนิรันดร์กาล
ขอพบพานพิศสวาทมิคลาดคลา
ขอตั้งจิตอธิษฐานสาบานไว้
จะตั้งใจสร้างกุศลผลบุญหา
พรหมวิหารทานศีลภาวนา
อุทิศส่วนกุศลมาให้คนดี
ขอเธอจงมีสุขทุกคราเถิด
จงประเสริฐเจิดจำรัสรัศมี
ขจรฟุ้งเกียรติก้องปัฐพี
ขออย่ามีทุกท้นหรือหม่นใจ
หากความทุกข์ทั้งหมดปรากฏขึ้น
จงหยิบยื่นมาสิมิผลักไส
จะขอรับแทนขวัญนิรันดร์ไป
พร้อมพลีชีพตักษัยทดแทนเธอ