24 เมษายน 2552 05:13 น.
นรศิริ
ในบทกลอนนี้บางคำไม่สุภาพต้องขออภัย นะคะ ถ้าท่านใดรับไม่ได้กรุณาอย่าอ่านค่ะ
เมื่อกิเลสครอบงำนำความคิด
จึ่งครองจิตใจต่ำส่ำสัตว์สา
หัวใจเอยมืดดำทุกเวลา
อนิจจานี่หรือคือค่าคน
กับการเป็นผู้นำที่ล้ำค่า
คงไม่สูงเกินหมาข้างถนน
เที่ยวเสพสมสู่ศิษย์คิดสัปดน
ขอให้จมสู่ก้นอเวจี
คำว่าครูคุณค่าอยู่ที่ไหน
หรือซุกใต้ฝ่าตีนคนสิ้นศรี
จิตใจต่ำอำมหิตคิดอัปรีย์
พอจะมีบ้างไหมในคุณธรรม์
22 เมษายน 2552 05:02 น.
นรศิริ
ต้นไม้ใหญ่ยิ่งแตกกิ่งสาขา
สรรพสัตว์นานาพักพาอาศัย
ร่มเย็นสุขสันต์สราญฤทัย
เถื่อนแถวแนวไพรสดชื่นฉ่ำเย็น
ให้ดอกออกผลเลี้ยงพลผองไพร
สรรพสัตว์น้อยใหญ่สุขได้มิเว้น
กิ่งหักใบร่วงดอกโรยที่เห็น
ล้วนเป็นอาหารพงศ์วานดื่มกิน
มีไหมไม้ใหญ่เบียดบังกาฝาก
ทนทุกข์ลำบากกาฝากดูดสิ้น
เจ็บปวดหนักหนาปวดชาชีวิน
นานวันพลันสิ้นเหลือเพียงต้นตาย
ดุจดั่งเรือนร่างสังขารมนุษย์
สักวันต้องสิ้นสุดแตกสลาย
ไร้สิทธิ์แม้เป็นเจ้าของเรือนกาย
ชิวาวายกลายเป็นเถ้าธุลี
ต้นไม้เอยคงคุณอนันต์ค่า
เราเกิดมาจงรักในศักดิ์ศรี
หมั่นสร้างอีกสั่งสมคุณความดี
วายชีวีจึงควรค่าบูชาชม
๒๑เมษายน ๒๕๕๒
ณ ลานหลวงพ่อศิลา
17 เมษายน 2552 17:34 น.
นรศิริ
หลับตาพริ้มสนิทปิดผัสสะ
ปล่อยพันธะทุกสิ่งทิ้งไปหมด
ติดตามลมหายใจไม่ละลด
เมื่อกำหนดชำนาญอ่านจิตตน
ที่ว้าวุ่นวุ่นวายทั้งหลายนั้น
ค่อยผ่อนผันเบาบางสร้างเหตุผล
อวิชชาค่อยจางห่างกมล
ปัญญาดลสมาธิสติครอง
นิ่งเนิ่นนานกาลเวลาอันผาสุก
สิ้นสุดทุกข์ระทมขมหม่นหมอง
อิ่มเอมในรสธรรมตามครรลอง
ฉ่ำเย็นผองสุขนั้นนิรันดร์กาล
ขอความกรุณาท่านนำรูปภาพพระพุทธองค์มาลงให้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
16 เมษายน 2552 12:19 น.
นรศิริ
จากคนซึ้งทรวงห่วงหา
ดินแดนบ้านป่าอาศัย
อยู่เย็นเป็นสุขหรือไร
คนไกลห่วงหาอาทร
ผ่านร้อนฝนหนาวร้าวรวด
เจ็บปวดดวงใจสุดถอน
ข่าวคราวเงียบหายขาดตอน
สะท้อนสะท้านทรวงใน
โลกสวยสำหรับใครเขา
หากสำหรับเราหม่นไหม้
มืดมิดทุกทางย่างไป
สิ้นไร้ทุกทางร้างลา
ที่นี่มีแต่ลวงหลอก
กลับกลอกหลอกหลอนซ่อนหน้า
ศีลธรรมไม่มีนำพา
เข่นฆ่าผู้พ่ายวายปราณ
ความเจริญเดินทางมาถึง
คุณธรรมจึงถูกมองผ่าน
ผู้ด้อยจึงถูกรุกราน
ซาตานเข้าแทรกสิงใจ
ความจริงที่นี่หายาก
มากมีหน้ากากสวมใส่
โสมมชั่วช้าจัญไร
มั่วสุมสิ่งร้ายครอบครอง
เบื่อความวุ่นวายที่นี่
คิดถึงคีรีไพรผอง
เถื่อนถ้ำบุปผาเคยครอง
สาดสายเนืองนองจากผาน่ายล
เสือช้างค่างลิงสิงสู่
เขาเคยขันคูสุขล้น
ผีเสื้อว่อนบินเวียนวน
อวลมาลีปนไอดิน
เสียงเพรียกพงไพรใจสุข
ไร้ทุกข์กมลแดนถิ่น
ใจเอยล่องลอยโบยบิน
แนบซบแดนดินดงดอย
13 เมษายน 2552 20:34 น.
นรศิริ
ร้อยมาลัยจากใจของคนยาก
นำมาฝากพี่น้องผองสหาย
ให้สุขสมอารมณ์ปองที่หมองคลาย
ภยันตรายใดใดอย่าแผ้วพาน
สบแต่สิ่งดีดีในชีวิต
มากมีมิตรล้ำค่ามหาศาล
คนชั่วช้าเหินห่างชั่วกาลนาน
สุขสราญเริงรื่นชื่นฤทัย
หวังสิ่งใดสมหวังดังใจเถิด
สบสรรพสิ่งประเสริฐชีวีสดใส
ไพรีเวราหลีกเล้นห่างไกล
สดชื่นแจ่มใสทุกวันเวลา