28 กันยายน 2552 15:59 น.
นรศิริ
วันนี้คนแก่ขออนุญาตลงกลอนรักหน่อยนะคะ ถึงไม่หวานหวือหวาก็กรุณาอ่านให้ด้วยนะคะ
อยากจะบอกเธอนักว่ารักมาก
อยากจะฝากหัวใจไว้ใต้หมอน
อยากกระซิบเบาเบาคำเว้าวอน
ฝากบทกลอนจากใจมอบให้เธอ
จากหัวใจดวงหนึ่งซึ่งเปี่ยมรัก
มอบความภักดีใจให้เสมอ
จะเนิ่นนานเพียงใดยังใฝ่เจอ
ยังเฝ้าฝันละเมอเพ้อทุกครา
เธอยังเนาแนบในหัวใจฉัน
ยังทอถักสัมพันธ์ปรารถนา
แม้นยามเศร้าเหงาท้อทรมา
ห้วงคำนึงสิเนหาพาเหงาคลาย
ระยะทางใช่กำหนดบทเหินห่าง
มิกั้นขวางทางใจใฝ่ปองหมาย
มิอาจแยกเราได้แม้ความตาย
ขอเป็นข้าเคียงกายทุกภพไป
อยากจะบอกเธอนักกลัวรักช้ำ
อยากจะถามสักคำคิดถึงไหม
อยากให้รู้ว่ารักมากเพียงใด
อยากเชือดเนื้อเถือใจออกให้ดู
26 กันยายน 2552 04:32 น.
นรศิริ
เนื่องในวันเกิดของลูกชาย (นายฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล ...จุ๋นจุ่น)
ชีวีนี้มีเพื่อชนผอง
เรียกร้องป้องถิ่นแผ่นดินแม่
ร่วมสู้เคียงผู้ถูกรังแก
แก้ไขเขินขัดขจัดภัย
อาวุธในมือคือปากกา
เลือดทั้งวิญญาณ์จุดต่อไต้
พลังมวลชนมิพ่ายผู้ใด
ช่วงชิงชัยอย่าท้อรอรา
พี่น้องทุกคนผู้ทนทุกข์
จงปลอบปลุกขวัญหวั่นผวา
ทุกผู้หวังพึ่งพิงเจ้านำพา
จง กล้า แกร่ง แน่น ดังแผ่นดิน
แม่ขอฝากความหวังทั้งหมดนี้
ให้คนดีสืบสานอย่าสิ้น
เจ้าหน่อเนื้อเชื้อสาย นรินทร์
มิ่งขวัญ ปฐวิน นิรันดร์กาล
21 กันยายน ซึ่งเป็นวันคล้ายเกิดของลูกชาย
เป็นสิ่งเดียวที่มอบให้ เป็นทั้งพรและของขวัญ
25 กันยายน 2552 05:55 น.
นรศิริ
ก้ามปูต้นนั้น
ก้ามปูเอยดูเด่นเป็นศรีศักดิ์
เป็นร่มเงาพิงพักเหล่าสัตว์สา
กังวานแว่วแจ้วแจ้วสกุณา
อีกหอยกุ้งปูปลาได้ร่มเงา
ดั่งสถานวิมานทิพย์ท่ามทุ่งข้าว
กระยางสาวเหม่อซึมขรึมหงอยเหงา
เธอไร้คู่ออเซาะพะนอเน้า
กระจิบเฝ้าไถ่ถามถึงความนัย
นกเค้านั่งสัปหงกตกคาคบ
แซงแซวซบอิงแอบแทบไถล
สรรพเสียงแซ่ซ้องก้องไปไกล
โอนเอนไหวใบก้ามปูลู่ลมวน
สระน้ำใสบัวงามทุกยามสวย
อุดมด้วยมัจฉาน่าฉงน
ปลาหมอเต้นกระดี่ว่ายแหวกเวียนวน
เจ้าดุกอุยสับสนจนเป็นลม
ท่ามกลางความสับสนอลหม่าน
หอยโข่งคลอนต้วมเตี้ยมเยี่ยมหอยขม
ปลาไหลเลื้อยคืบคลานใต้เปลือกตม
กุ้งซิวซมซานหนีพี่ปลานิล
เจ้าทุยลอยล่องไปในสระน้ำ
เอี้ยงเกาะบนหัวดำอย่างถวิล
จับจิกเจ้าเห็บเหาเอามากิน
เลี้ยงชีวินเจ้าเอี้ยงผู้เลี้ยงควาย
แสนสุขสมนั่งชมธรรมชาติ
ให้อนาถย้อนรำลึกนึกความหมาย
หมู่สัตว์สาหากินเพียงกันตาย
มิได้หาซื้อขายเหมือนอย่างคน
กับคำกล่าวว่ามนุษย์สุดประเสริฐ
เป็นคำที่ล้ำเลิศเหนือเหตุผล
ต่ำกว่าสัตว์แก่งแย่งแล้งกมล
นี่หรือคนผู้ประเสริฐเจิดจำรูญ
23 กรกฎาคม 2552 19:48 น.
นรศิริ
อยากเห็นดอกไม้บานบนลานฝัน
อยากเห็นแววสุขสันต์จากใจหม่น
ไม่อยากเห็นพี่น้องต้องทุกข์ทน
อยากเห็นค่าของคนจากบนดอย
เด็กน้อยเอยเยาว์วัยไร้เดียงสา
แต่ต้องมานั่งเศร้าทั้งเหงาหงอย
ด้วยไม่มีสัญชาติเป็นทาสคอย
หนูน้อยน้อยถูกลอยแพแค่เถื่อนคน
เกิดในแดนแผ่นดินถิ่นสยาม
เนาเขตคามดอยไกลในไพรสณฑ์
สู้ชีวีทดท้อและทุกข์ทน
ฝ่าผจญฝนหนาวทุกคราวไป
ค่าของคนบนดอยมีน้อยนัก
หากแต่ค่าความรักนั้นยิ่งใหญ่
เปี่ยมเมตตาการุณย์อบอุ่นใจ
มากมีให้มวลมิตรทุกทิศทาง
อยากฝากให้บางใครได้ตระหนัก
คงไม่หนักเกินไปหากได้สร้าง
ช่วยโอบอุ้มชีวีที่บอบบาง
สู่เส้นทางชีวิตสิทธิ์ของคน
17 กรกฎาคม 2552 19:47 น.
นรศิริ
โอ้ดึกดื่นคืนแรมไม่แจ่มฟ้า
เหมือนชีวาของคนที่หม่นหมอง
โดดเดี่ยวเดียวดายไร้หมายปอง
น้ำตานองเปื้อนปนบนแก้มนวล
เสียงหริ่งหรีดขับขานสะท้านทุ่ง
เหลือบริ้นยุงตอมไต่ปนไห้หวน
ลมหายใจแผ่วผ่าวร้าวรัญจวน
เซซังซวนล้มพับทับแผ่นดิน
ภาพอดีตกรีดดวงแดเป็นแผลลึก
ยังผนึกฝังแน่นดังแผ่นหิน
เคยพะนอล้อเล่นเป็นอาจิณ
ให้ถวิลโหยหาใจอาวรณ์
เขาจะรู้ไหมหนอใครรออยู่
คอยเคียงคู่มิ่งขวัญจันทร์สมร
ฝากสายลมเดือนดาวไปเว้าวอน
พาบังอรคืนมาข้านี้คอย