11 ตุลาคม 2552 18:58 น.
นรศิริ
หากฉันทำได้
มืดมิดมืดมนทุกหนแห่ง
แห้งแล้งหัวใจในทุกที่
อึดอัดขัดข้องหมองฤดี
เหน็ดเหนื่อยเหลือที่จะพรรณนา
อยากจะซ่อนหน้าซบหลบลี้
อยากฝังกายีที่ภูผา
อยากเนาในเถื่อนแถวแนวพนา
เอาสัตว์สาเป็นเพื่อนเรือนใจ
สังคมแสนวุ่นวายร้ายนัก
ความรักจักมีที่ไหน
หลากหลายศัตรูหมู่ภัย
รายรอบกายใจให้ตรม
ต่างคนยื้อยุดฉุดแย่ง
ต่างแข่งต่างขันกันขรม
มือยาวย่อมแย่งมาชม
ซื่อเซ่อโง่งมซมซาน
อนิจจามหาโศกโลกมนุษย์
ยิ่งกุดยิ่งสั้นนับวันผันผ่าน
นิยมชมชอบกอปรชั่วสันดาน
สามานย์หมกไหม้ฝังในกมล
อยากจะเชือดเฉือนหัวใจไปผ่า
เอาน้ำยาฆ่าเชื้อที่เข้มข้น
ชำระล้างให้ใสเลือดไหลวน
เพื่อค้นหาความเป็นคนคืนมา
6 ตุลาคม 2552 05:40 น.
นรศิริ
ทั่วทุกที่ทั่วทางราร้างสิ้น
พบแผ่นดินมืดสลัวมัวสลบ
น้ำตาไหลเลือดหลั่งพังทำนบ
เหลือเพียงชิ้นส่วนศพไร้วิญาณ
เลือดไหลหลั่งนองไว้คือชัยชนะ
ปลดโซ่สู่อิสระที่สืบสาน
ไทยคือไทมิใช่ไทในตำนาน
มิใช่เรื่องวันวานกาลกองกูล
คือธงชัยธงธรรมนำประเทศ
ทุกสาเหตุก่อผลคนใช่สูญ
ประเทืองไทเรืองรัดจำรัสจรูญ
ถ้าหยุดปูนกูลเผ็ดเผด็จการ
เสียงแว่วแว่วกระหึ่มไกลไปแว่วแว่ว
ลูกก้าวแล้วก้าวสร้างทุกทางผ่าน
จากโซ่เส้นรึงเร้ามาเนานาน
จากกองถ่านเป็นกองไฟสู่ชัยธง
จากดินร่วนดินเม็ดรวมเป็นก้อน
เป็นสิงขรตระหง่านกล้าท้าพิษสง
ทุกคนมีสิทธิ์นึกจารึกผจง
มิใช่ดงก้อนหินรอสิ้นใจ
จากวันนั้นวันนี้วันที่ผ่าน
ดอกตุลายังเบ่งบานอย่าหวามไหว
รอวันที่พี่น้องผองไผท
จะสานชัยสืบช่วงดวงเสรี
ขอความกรุณาหาภาพมาลงให้ด้วย ขอบคุณมากนะคะ
4 ตุลาคม 2552 13:08 น.
นรศิริ
ว้ายช่างน่าเกลียดขยะแยง
ปากแดงแดงเต้นไห้ดังไฟเผา
ทั้งกระทืบขยี้ซ้ำเหยียบย่ำเอา
ฉันดิ้นเร่าก่อนที่จะแหลกลาญ
ไม่เคยทำร้ายใครให้เจ็บปวด
ไม่ทำใครร้าวรวดอีกล้างผลาญ
การคดโกงไม่เคยมีในสันดาน
ใยประหารเข่นฆ่าไม่ปรานี
อยากบอกให้เธอรู้ผู้รังเกียจ
หยุดหยามเหยียดย่ำใจให้หมองศรี
แม้ไม่มีสมญาว่าผู้ดี
เทือกแถวฉันนั้นมากมีคุณธรรม
เกียรติ์ยศที่ยกยอต่อกันนั้น
น่าขบขันทำตัวมั่วสิ่งต่ำ
ล้วนหลายหลากมากมายเรื่องระยำ
การกระทำของผู้ดีเช่นนี้เอง
ต่างแข่งขันชิงดีบีทาเข่น
มิวางเว้นเพศวัยได้ข่มเหง
แม้นอยากดังอยากเด่นเป็นนักเลง
พรรคพวกของตนเองยังฆ่าลง
แสนสงสารมวลมนุษย์สุดอนาถ
แม้นใครพลาดถลำเหยียบย่ำส่ง
มิแม้นเหมือนพวกเรารักเผ่าพงศ์
อยู่ในดินดำรงสามัคคี
ทุกผู้ต่างทำงานประสานรักษ์
พรวนดินสวนพืชผักในทุกที่
ดินร่วนซุยพืชผักงามจำจงดี
สร้างสำนึกสักทีอย่าหมิ่นเรา
ไส้เดือนอย่างเรานิรโทษ
เราไม่เคยโฉดชั่วมั่วสิ่งเน่า
ไม่เคยคิดกิชั่วไม่มัวเมา
ไม่แย่งเอาของใครไม่เคยโกง
เรานั้นแสนซื่อหรือเซ่อบริสุทธิ์
จิตมนุษย์คดโค้งกว่าลำโขง
ทั้งสุดท้ายปลายทางคือลงโลง
ยังคดโกงโกงกินจวบสิ้นใจ
1 ตุลาคม 2552 17:57 น.
นรศิริ
ออกพรรษาหน้าหนาวก้าวมาสู่
กาลฤดูหมุนเวียนแปรเปลี่ยนผัน
อนิจจังอนัตตาสารพัน
หายั่งยืนนีรันดร์นั้นไม่มี
วันเวลาวารีมิหยุดยั้ง
ใครจักรั้งยื้อยุดฉุดวิถี
รีบสั่งสมคุณธรรมความงามดี
ก่อนจะสายเกินที่ไร้เวลา
ทำการใดไม่ได้ทำใจก่อน
ดับรุ่มร้อนภายในไม่กังขา
ที่เร่งเร้าร้อนรนผ่อนปรนนา
เฝ้าศึกษากายาของตัวเรา
แหล่งข้อมูลความรู้อยู่ที่นี่
หากศึกษาถ้วนถี่มิอับเฉา
ศึกภายในยากนักจักบรรเทา
จึ่งต้องเฝ้าพินิจพิจารณา
ทั้งสติสมาธิจงตั้งมั่น
อย่าไหวหวั่นอื่นใดใจผวา
สงบนิ่งเยือกเย็นเน้นทุกครา
จึงก่อเกิดปัญญาปัญหาคลาย
กรุณาหารูปภาพเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่ท่านชอบมาลงให้ด้วยขอบ คุณค่ะ วันนี้อยู่คนเดียวจะรีบเข้าห้องพระแล้วค่ะ
29 กันยายน 2552 15:56 น.
นรศิริ
ชลธีที่รัก
ชลธีเจ้าไหลไปที่ใดหนอ
ไม่รีรอหยุดพักสักครานั่น
เอื่อยเอื่อยไหลชื่นฉ่ำนำชีวัน
เลี้ยงเผ่าพันธุ์สัตว์น้ำล้ำค่าเอย
ผู้ใดเล่าทำอย่างเจ้าได้บ้างหนอ
ทำหน้าที่ตามต่ออย่างเปิดเผย
ไร้เงื่อนงำซ่อนเร้นเซ่นสังเวย
ไร้ค่าจ้างชดเชยทุกวันวาร
ประดุจผู้ทำดีมิเกรงกริ่ง
กล้าทำการทุกสิ่งอย่างห้าวหาญ
แม้ไพรีมากมายมารุกราน
ก็ยืนหยัดประจัญบานอย่างทระนง
ไร้ลาภยศสรรเสริญประเมินค่า
แต่ทว่ายุติธรรมหนุนนำส่ง
ความถูกต้องเที่ยงธรรมที่ธำรง
จิตจำนงผองชนสุขไร้ทุกข์ทน