31 มีนาคม 2551 22:59 น.

ซึ้ง

นรศิริ

สุดแสนสวยโฉมสอางค์น้องนางหนึ่ง
ยิ้มซึ้งซึ้งปักใจใครจะเหมือน
เสียงหวานหวานสะท้านใจมิลืมเลือน
ดุจดั่งเหมือนกังสดาลซ่านชิวา
ยามน้องเดินเยื้องย่างดั่งนางหงส์
ใฝ่พวงหลงใหลใจห่วงหา
อยากเก็บน้องไว้ในห้องห้วงอุรา
อนิจจาได้เพียงเพ้อละเมอครวญ				
31 มีนาคม 2551 22:58 น.

เพียงฝัน

นรศิริ

เพียงพบพักตร์พิศเพลินเกินใจห้าม
ให้วาบหวามหวั่นไหวใจนักหนา
ยิ้มเขินเขินสะเทิ้นอายชม้ายมา
สุดพรรณนารอยยิ้มปริปริ่มใจ
เพิ่มพลังยังใจคนไกลบ้าน
โปรดประทานใจรักอย่าผลักไส
ขอให้พี่นี้สมหวังดังตั้งใจ
ขอฝากชีพชีวาลัยแทบตักนาง				
31 มีนาคม 2551 22:56 น.

ณ ปางอุ๋ง

นรศิริ

สายลมร้อนร่อนฟางกลางท้องทุ่ง
วอนลมพัดสายรุ้งที่สูงสอย
วอนผ่านดาวผ่าวเดือนลงเยือนดอย
ขอสายลมเกี่ยวก้อยผู้ด้อยความ
วิมานหนึ่งบ่ลืมเลยข้าเคยอยู่
ใช้ชีวิตดั่งทุกผู้รู้แบกหาม
สัจธรรมหนึ่งนาข้าเห็นตาม
หนอเพชรใดใสงามเช่นน้ำใจ
แววใสใสซื่อซื่อคือจริต
หาประดิษฐ์คิดค้นเล่ห์กลไหน
แต่งามล้ำงามเด่นเป็นนัยนัย
กลางพงไพรไกลเมืองกลับรองรอง
แดนดอยเด่นเห็นค้อมเหมือนอ้อมกอด
ปานจะทอดเชื่อมทางทั้งข้างสอง
ผีเสื้อเอยโบยบินถิ่นรวงทอง
จิ้งหรีดเคยแซ่ซร้องเคยร้องครวญ
ม่านหมอกเมฆเฉกรับกับฟ้าแสด
รับเปลวแดดแผดไหวในสรวงสรวญ
ลมรำเพยเลยพร่ำลมรำจวน
ปานเจ้าร้องเรียกชวนหาพาข้าไป
รูปสมบัตินั้นหรือคือของแน่
ต้องผันแปรผุทิ้งแม้ยิ่งใหญ่
ถึงคนจนจนนี้มีหัวใจ
ยังมีลมผ่าวให้ได้แว่วยิน
น้ำซังซ่าถาไหลพาใจนึก
พาหัวใจไหวรำลึกนึกถวิล
เสียงของใครไหนเล่าผ่าวแผ่นดิน
เสียงคนจนทั้งสิ้นใช่หินดอย
ข้าเฝ้าคอยเวลาพาข้ากลับ
สู้รอลับแลเล่าใจเหงาหงอย
เม็ดฝนเคยพร่างฟ้ามาปรอยปรอย
หยาดน้ำตาข้าก็พร้อยดั่งฝนพรำ				
31 มีนาคม 2551 22:53 น.

สิทธิ

นรศิริ

สิทธิคนชนชั้นและสัญชาติ

สิทธิผูกขาดความเป็นคนแห่งหนไหน
โลกใบนี้ท่านเห็นเป็นอะไร
เป็นคอกขังเป็ดไก่หรือควายกัน
(เงิน)ค่าแรง(นั้น)แล้วแต่ท่านจะให้
ท่านพอใจให้ใครท่านเสกสรร
อีก(พวก)ส่วนหนึ่งจะเป็นร้ายตายช่างมัน
ไม่เคยยกเป็นปัญหาของใจ
ท่านคือผู้บงการงานเบ็ดเสร็จ
ผู้เผด็จการดูดขูดรีดไถ
ค่าของคนเพียงคนเป็นคนไทย
คนต่างด้าวคือไรชอนไชคน
ค่าแรงนี้สูงลิบแปดสิบบาท
ใส่เสื้อขาดหุ้มร่างอย่างสับสน
ขะมักเขม้นเน้นงานอย่างทานทน
ด้วยความจนข้นแค้นแสนลำเค็ญ
เขาฟันฝ่าคับแค้นจากแดนเกิด
ฝ่าระเบิดหลบปืนฝืนยากเข็ญ
สู่เขตแดนแคว้นอุดมให้ร่มเย็น
อย่าเหยียบย่ำเขาเป็นคนเถื่อนทราม
เรียนนายจ้างจงเป็นกลางการวางกฎ
จงกำหนดยุติธรรม์อย่าครั่นขาม
ในระบอบขอบระเบียบเปรียบดีงาม
ให้เขตคามประเทศนี้บริรักษ์
หากว่าท่านยังเมินเดินผิดหมาก
ท่านก็เพียงกาฝากกากไร้ศักดิ์
เป็นน้ำเสียปฏิกูลที่ทึกทัก
เป็นไส้ติ่งไร้หลักไร้ความดี
หยุดเสียเถิดจงหยุดจุดความคิด
ทุกสิ่งที่มีชีวิตมีศักดิ์ศรี
ท่านใช้ความรู้สู้ย่ำยี
ท่านก็เพียงหมาที่มีปอกคอ				
31 มีนาคม 2551 22:51 น.

รุ่งอรุณณ ปางอุ๋ง

นรศิริ

แสงสูรย์สาดส่องขึ้น   ขอบสรวง
ดุจประทีปหมื่นแสนดวง   เด่นด้าว
ยองใยดุจเงินยวง   ใยย่อง
แลมณีกลางทุ่งข้าว   จรัสฟ้าพรมดิน
น้ำฟ้ารินข้าวฟ้า   ฟูแดน
หนาวเหน็บเจ็บแสบแสน   สร่างพื้น
แลสลัวราวเมืองแมน   มาร่วง
ดั่งจะหลั่งรดฟื้นรดฟ้า   พรมดาว
พราพราวดั่งเพชรพร้อย   พยับพราย
ต้องเปลวแดดแผดวางวาย   วูบร้าง
สูรย์แสงส่องแสงสาย   แผดหมอก
แลหมอกกว้างกว่ากว้าง   กู่แพร้วพรายตา
รัตนามาอุบัติแล้ว   ลานทะเล
ลมเหนือพัดหมอกเห   หักรุ้ง
ระรานระรวนเร    เรร่วน
ประสิงขรฟู่ฟุ้ง   ฟาดฟ้าจรัสศรี				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนรศิริ
Lovings  นรศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนรศิริ