5 กุมภาพันธ์ 2553 04:17 น.
นรศิริ
โบยบินจากถิ่นพฤกษ์ มุ่งสู่ตึกสูงตระหง่าน
มุ่งมาเพื่อทำงาน เลี้ยงพ่อแม่ที่แก่ชรา
ค่ำคืนลูกขื่นขม ร้าวระบมแล้วแม่จ๋า
คนเมืองหลอกลูกยา บังคับให้ขายบริการ
กายานี้แตกยับ แทบแดดับดิ้นสังขาร
ล่ามโซ่ทรมาน อีกเฆี่ยนตีเบียดบีฑา
เหล็กแดงเผาไฟนาบ กรีดหน้าอาบโชกเลือดหนา
ไร้สิทธิ์ในกายา สิทธิ์ครอบครองเพียงลมปราณ
บางคนที่ขัดขืน ก็ถูกปืนลั่นประหาร
หนูอยากจะกลับบ้าน ห่วงแม่พ่อที่คอยรอ
โทรศัพท์กับจดหมาย ถูกยึดไว้เฆี่ยนตีต่อ
น้ำตาลูกเอ่อคลอ แล้วรินไหลอาบนวลปราง
เพื่อนหนูตายต่อหน้า อนิจจาไร้ขัดขวาง
ชีวีที่บอบบาง ถูกกระทำต่ำกว่าคน
วอนขอต่อดินฟ้า เทพเทวาทุกแห่งหน
กำจัดพวกเหลือคน ให้หมดสิ้นสินค้า....มนุษย์
2 กุมภาพันธ์ 2553 04:08 น.
นรศิริ
แม่จ๋า....ลูกสิ้นหวังภิณฑ์พังแล้ว
ดังดวงแก้วแตกสลายเป็นทรายสูญ
ทุกข์เทวศเจตนาให้อาดูร
ซ้ำเพิ่มพูนลำเค็ญทั้งเข็ญใจ
มืดมิดทุกทางอ้างว้างว้าเหว่
ทรุดซวนเซเกินกับรับไหว
ทิพย์วิญญาณท่านแม่สถิตใด
รับลูกไปเถิดหนาในครานี้
น้ำตาเหือดแห้งแล้งแล้วจะไหล
ผิวกายไซร้ซีดขาวราวผี
ทุกวารหยัดยืนอย่างไร้ชีวี
ดุจดังสุรีย์ลาลับดับลง
เลือนลางลางเลือนเหมือนบอดใบ้
แผ่วหายใจลางครั้งยังลืมหลง
อยากจะหลับให้ไร้ตื่นยืนยง
ฝากชีพลงแด่พระแม่ธรณี
30 มกราคม 2553 06:12 น.
นรศิริ
แสงโสมส่องพราวใสในคืนนี้
ใยฤดีของเราเศร้าจริงหนอ
นับเนิ่นนานกับกาลที่ต้องรอ
เฝ้ารอยคลอรอคอยอย่างน้อยใจ
ทั้งเจ็บเจ็บเหน็บหนาวและร้าวรวด
ให้ปวดปวดปร่าปร่าน้ำตาไหล
มันร้อนรุ่มรุมเร้าดังเผาไฟ
แล้วซึมซ่านผ่านไปทุกอณู
เดียวดายไร้หวังภิณฑ์พังสูญสิ้น
ท่ามชีวินอันรันทดอดสู
หมายสัมผัสความรุ่งเรืองเฟื่องฟู
ไม่อยากอยู่อย่างไร้ในทิศทาง
โน่นแสงโสมส่องพราวสกาวฟ้า
หากอุราของเราเหงาอ้างว้าง
กับชีวีวันนี้ที่บอบบาง
ขอบฟ้ากว้างหากแต่แพ้ใจเรา
ปล.วันนี้วันพระนะคะ เป็นวันเพ็ญด้วย ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ยังไม่ได้หากลอยธรรมะมาลงเลยเพิ่งไปรับลูกชายกลับมาค่ะ
23 มกราคม 2553 07:09 น.
นรศิริ
สุขเถิดหนาขออย่ามีหมองหม่น
มิตรบ้านกลอนทุกคนจงสุขี
ทุกวันวารพานพบสบสิ่งดี
อีกไพรี โรคาอย่าเบียดบัง
กอปรกิจใดเรืองรุ่งเกินมุ่งหมาย
ทั้งหญิงชายรายได้อย่าถอยหลัง
ที่มีสุขขอให้สุขจีรัง
ที่มีทุกข์ทุกข์จงพังพินาศไป
อีกรู้สึกสำนึกสัมมาสติ
มีสัมมาสมาธิอย่าเผลอไผล
จิตกำกับจับไว้อย่าให้ไกล
ชัยชนะยิ่งใหญ่คือใจเรา
เป็นสินตอบมอบมาจากห้องพระ
ที่นระ สิริ ให้ไม่อับเฉา
สามัคคีกันไว้อย่าใจเบา
มิตรบ้านกลอนของเรา....สุขนิรัดร์
วันนี้วันพระนะคะขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓
ให้เจ้าสุขีหมั่นพันปีอย่าขูฮ่วง
คุณธรรมล่วงเข้าหาเจ้าอย่าป่วนเวิน
เงินคำนั้นขออย่ามีเขินขาด
พยาธิฮ้ายอย่ากลายกล้ำสู่คิง เด้อพี่น้องเอ้ย
ขอความกรุณษหากล้วยไม้ป่าสวยๆลงให้หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
15 มกราคม 2553 19:56 น.
นรศิริ
ดับไฟ
ริษยาพาใจให้ตกต่ำ
เช้าค่ำดั่งไฟแผดเผา
ร้อนรุ่มสุมไหม้ใจเรา
บรรเทาลงได้ฉันใด
ภพไตรกว้างใหญ่ยิ่งนัก
ฤจักเท่าจิตหาไม่
คุมทัพคุมชนยากไซร้
คุมใจยากนักจักทำ
เสี้ยวหนึ่งอารมณ์ข่มไว้
ดับไฟก่อนใจจะถลำ
อุเบกขาพาน้อมนำ
ชื่นฉ่ำยินดีปรีดา
มุฑิตาจิตมิตรยิ่งใหญ่
ใครใครย่อมรักนักหนา
อีกมีจิตคิดเมตตา
ริษยาพ่ายลาลับไกล
วันนี้วันพระนะคะ แรม ๑๕ ค่ำเดือน ๒
ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย ปกป้องคุ้มภัยให้ทุกท่านเทอญ