25 สิงหาคม 2551 12:22 น.
นรศิริ
ขอร้องนะ
หากฉันไม่ดีดังเธอหวังไว้
แล้วเธอรั้งฉันไว้ทำไมหนอ
หรือยังทารุณฉันนั้นไม่พอ
หรือรอให้ฉันวายตายเย็นเย็น
ความร้าวรวดทุกวันฉันได้รับ
เธอยิ้มรับและยินดีที่ได้เห็น
ฉันจึงอยู่อย่างผู้ตายทั้งเป็น
มิวายเว้นเข็ญขลุกอยู่ทุกวัน
ขอร้องนะคนดีที่เคยรัก
อย่าให้ต้องจมปรักเลยนะขวัญ
ปล่อยฉันเถิดปล่อยไปชั่วนิรันดร์
ขออย่ามีเธอฉันอีกต่อไป
จะไม่ขอมากมายให้เคืองขุ่น
ขอเพียงลายมือคุณจะได้ไหม
ขอฉันพ้นโซ่ตรวนพันธะนัย
ช่วยเซ็นใบหย่าให้ฉันเท่านั้นพอ ( ขอบคุณมากๆ)
6 สิงหาคม 2551 19:50 น.
นรศิริ
คิดถึงแม่
แม่จ๋า
ลูกนี้หนาตรอมตรมขมขื่นล้น
ลูกเจ็บช้ำกล้ำกลืนสุดฝืนทน
ลูกหมองหม่นทดท้อต่อโชคชัย
แม่จ๋า
ลูกอ่อนล้าเกินกว่าใจสู้ไหว
ลูกหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบหัวใจ
น้ำตาลูกรินไหลล้นจากทรวง
แม่จ๋า
สารพันปัญหาพาหนักหน่วง
เพราะลูกซื่อถือเมตตาพาโดนลวง
สิ่งทั้งปวงจึงสูญสิ้นทั้งภิณฑ์พัง
แม่จ๋า
ลูกซานมาด้วยใจที่ไร้หวัง
ทั้งทุกข์โศกโรครุกโรมโหมประดัง
คงมีเพียงพลังฝังทรวงใน
แม่จ๋า
เจ็บเกินกว่าจะเยียวยาหรือแก้ไข
ไร้เรี่ยวแรงยั้งยืนฝืนฤทัย
เนื้อเน่าทุกห้องใจสุดทานทน
แม่จ๋า
ชลนาลูกหลั่งดังห่าฝน
จากข้างในทั้งผองห้องกมล
ปนเปื้อนกับสายฝนล้นเจิ่งนอง
ถ้าผิดตกบกพร่องประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ รู้สึกเบลอๆเหมือนกันเพราะทานยาเยอะแต่ก็อยากจะเขียน พอดีไม่สบายก็เลยยิ่งเพิ่มความคิดถึงแม่ผู้ล่วงลับ
ทุกครั้งที่นอนโรงพยาบาลลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าแม่ก่อนใครๆเพราะแม่รักและเป็นห่วง เป็นคนที่เข้าโรงพยาบาลบ่อยๆแม่ก็เลยเป็นห่วงพิเศษกว่าใครเพื่อน เฮ้อคิดถึงแม่เราเหลือเกิน
4 สิงหาคม 2551 03:46 น.
นรศิริ
คิดถึงบ้านกลอน
คิดถึงคนบ้านกลอนเคยอ้อนพร่ำ
เคยดื่มด่ำคำหวานสะท้านไหว
พจมานหวานซึ้งตราตรึงใจ
หอบหทัยหวนมาหาบ้านกลอน
ด้วยมีงานมากมายให้ไขแก้
น้อยนิดแม้เวลาจะพักผ่อน
หากโหยถึงน้ำคำล้ำสุนทร
คนบ้านกลอนที่แสนซึ้งติดตรึงทรวง
สุขสราญดีไหมหรือใจหม่น
หวังว่าทุกผู้คนสุขล้นหลวง
คงไม่ให้ความหลังฝังภาพลวง
คงหนักหน่วงแน่นในหัวใจตน
ขอทุกผู้จงยิ้มรับกับวันใหม่
วันที่ฟ้าสดใสไร้เมฆหม่น
รับความหวานวารชื่นรื่นกมล
คารวะทุกผู้คนในบ้านเรา
พอดีพึ่งทำงานเสร็จ ก็เลยนั่งพิมพ์กลอน ถ้าผิดพลาดประการใดอภัยด้วยนะคะไม่เพราะไม่ได้ตวจทานเลย เดี๋ยวของีบสักนิดนึงค่ะ
26 กรกฎาคม 2551 13:26 น.
นรศิริ
พวงหรีดกรีดดวงใจ
ควันธูปลอยอ้อยอิ่งทอดทิ้งก้าน
ดั่งดวงใจแหลกราญคราไร้ขวัญ
เจ้าจากไปครานี้ชั่วชีวัน
ปีเดือนเนิ่นนานวันยิ่งห่างไกล
ปานถูกเชือดเฉือนใจข้างในเน่า
ทุกข์ถาโถมโรมเร้าแทบตักษัย
คิดถึงเคยอิงแอบแนบดวงใจ
เจ้าจากไปไม่ย้อนทับหวนกลับคืน
ดวงวิญญาณสถิตที่สถานไหน
แสนอาลัยไหม้หม่นสุดทนฝืน
ภาพความหลังยังย้ำสุดกล้ำกลืน
ไม่อยากตื่นมาให้ใจปวดชา
จงไปสู่สรวงสวรรค์วิมานแก้ว
คีตะแผ่วบรรเลงรับหลับเถิดหนา
จงสุขีที่สวรรค์บนชั้นฟ้า
สุขเถิดหนาจงหลับฝันนิรันดร์กาล
ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญให้
ขอดวงใจจงสุขเกษมศานติ์
มองพวงหรีดเหมือนมีดกรีดดวงมาน
ดุจวิญญาณเรานี้จะหลุดลอย
25 กรกฎาคม 2551 06:05 น.
นรศิริ
นี่แหละคือคู่กัน
ก่อกำเนิดทุกสิ่งอันนั้นดับสิ้น
เดินบนดินบินบนฟ้ามาเสื่อมสูญ
ถึงคราดับทรัพย์สินสิ้นเกื้อกูล
สิ่งเพิ่มพูนดีชั่วที่ตัวทำ
ทุกชีวาอีกผาหินสิ้นสลาย
รักษ์จิตกายละอายชั่วอย่ามัวถลำ
กลีร้ายเสริมสร้างหนทางกรรม
จงน้อมนำพุทธคุณมาจุนเจือ
วนเวียนว่ายอนิจจังวัฏสังขาร
ทรมานท่วมท้นเจ็บจนเหลือ
ทุกชีวีมีหวานเค็มเข้มขมเกลือ
จงแผ่เผื่อบางใครบ้างในบางครา
ทุกสรรพสิ่งเกิดเพราะกรรมเรากำหนด
โศกสลดอีกสุขสันต์และหรรษา
บ้างจ่อมจมทุกข์ท้อทรมา
บ้างชีวาผาสุกไร้ทุกข์ตรม
นั่นเพราะผลบุญสร้างแต่ปางก่อน
ตามมาย้อนดีร้ายได้ขื่นชม
ใครเคยทำกรรมร้ายให้ระบม
ใครสุขสมเพราะผลกรรมที่ทำดี
เลิกก่อกรรมทำเข็ญเวรสาปส่ง
คราปลดปลงลงไปไม่หมองศรี
จงลาร้างเหินห่างทางราคี
ทุกชีวีมุ่งมั่นสรรค์คุณธรรม