20 กันยายน 2550 18:08 น.
นนทสรวง
เดือนสิบสุดฉุดขาดวาสนา
ได้ฤกษ์ทรามสามสิบเดือนกันยา
ชุลีลาร่ำไห้ใจรอนรอน
ลาแล้วเจ้าเก้าอี้เอ๋ยที่เคยนั่ง
ที่เคยสั่งลงสลักเซ็นอักษร
ลาเลขานงนุชสุดงามงอน
อรชรแต่นี้ไซร้คงไกลกัน
เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงนุชเจ้า
สัญญาเก่ากับน้องให้สองขั้น
แต่ยามนี้มีกรรมเป็นสำคัญ
ด้วยถึงวันถึงวัยต้องไกลลับ
ผ่านหน้ากรมซมโศกวิโยคย้อน
ให้อาวรณ์หวั่นไหวดั่งไข้จับ
เคยสนุกสุขสบายต้องหายวับ
เก็บของกลับบ้านเก่าไปเฝ้าเรือน
ร้อนแผลเก่าเคยพลั้งสันหลังหวะ
ไปพบปะเฝ้ารองอนง้อเพื่อน
เจ้ารุ่นน้องป้องปิดช่วยบิดเบือน
ทั้งเหล่าเพื่อนญาติมิตรสนิทกัน
แม่ทัพหลายนายกองที่ครองทัพ
ต่างเสร็จสรรพสิ้นหมดเรื่องยศขั้น
สิ้นเส้นสนกลแกล้งที่แย่งกัน
กลับหลังหันสู่เคหาน้ำตาพราย
เมื่อคำนึงถึงเคหาน้ำตาตก
ให้เจ็บอกบ้านน้อยต้องพลอยหาย
กลับบ้านเก่าเมียซ้ำยิ่งช้ำร้าย
หมดสบายสิ้นสนุกทุกข์คงเยือน
จากนี้คงอับเฉาต้องเหงาจิต
เหล่าคู่คิดห่างหายล้วนคลายเคลื่อน
สิ่งที่ฝันพลันดับแม้นกลับเรือน
ยิ่งย้ำเตือนวัยเฒ่าความเศร้าพบ
เกษียณกันวันนี้ต้องดีแน่
หากยึดแต่ตนไซร้คงไม่จบ
สี่สิบปีหลายงานที่ผ่านพบ
คิดว่าจบจากนี้สุขศรีเอย.
20 มิถุนายน 2550 17:17 น.
นนทสรวง
วิโยคใดไหนเลยเคยเทียบได้
วิบากใดไหนเลยที่เคยผัน
อันว่าทุกข์ไหนเลยเคยจาบัลย์
จักเท่าวันนี้เล่าของเผ่าไทย
กรุงเทพร้อนการเมืองเรื่องเหตุผล
คนเพียงคนสร้างแง่กระแสได้
ศาลสูงต่ำเคยพักเป็นหลักใจ
วันนี้ไซร้ดุจแร้งขัดแย้งกัน
ทั้งม็อบมั่วแย่งยัดล้วนจัดฉาก
ดั่งเศษซากศพฝืนยืนหลับฝัน
อวิชชาพาหลงมิลงกัน
อีกกี่วันเล่าจักพบประสบชัย
สสร.หวังหลักยิ่งหนักอก
สุดจะยกบัญญัติญัติไหน
มาตราสงฆ์มัดตราสังข์ต้องชั่งใจ
ฤาจักให้ศาสน์ร้อนทุกข์รอนราน
อีกสองเส_ผู้ใหญ่ใจฉกาจ
ต่างฟันฟาดไม่ลดละเกินประสาน
แต่ยุคก่อนเคยกล่าวมายาวนาน
ก่อนภัยพาลเกิดพิบัติอาณัติมี
น้ำตาองค์ปฏิมาถึงคราหลั่ง
ไฟไหม้วังเวียงวัดช่างบัดสี
เหล่านกกาตายกล่นหล่นปฐพี
ผู้ใหญ่มีเหตุอนาจวิวาทกัน
ไหนเล่ากรุงรุ่งเรืองเมืองสุขศรี
ทุกข์ทวีใช่ประเทืองเมืองสวรรค์
มหาภัยโจมจู่อยู่ทุกวัน
แล้วจะหันหน้าซึ่งไปพึ่งใคร
ทางเหนือเล่ารอยพิบัติวิวัฒน์สู่
แผ่นดินแยกแตกเป็นรูเคยมีไหม
ธรณีเร่งรัดวิบัติภัย
ดั่งแคว้นไทยเขตจะแยกแตกแผ่นดิน
ที่เห็นชัดภาคใต้ภัยมหันต์
ต่างฆ่าฟันหมู่ชนจนจะสิ้น
ผู้ใหญ่เด็กคนชราคร่าชีวิน
ดั่งแผ่นดินทุรยศกบฏเรือง
เหล่าทหาร ตำรวจ ต่างปวดร้าว
ล้วนถึงคราวถูกสับแทบดับเครื่อง
ครูถูกฆ่าพร่าชีวิตหมายปิดมือง
แสนขัดเคืองพวกหมู่ผู้ก่อการ
นายอำเภอ ตุลาการ มาพาลดับ
ต่างย่อยยับรับเหตุเขตประหาร
ดั่งเมืองไร้ขื่อแปพ่ายแพ้มาร
ทุกเรือนรานหลั่งน้ำตาประชาไทย
ขอเถิดท่านผู้บัญชาในครานี้
เกียรติศักดิ์ศรีถูกลบกลบไฉน
โจรใต้เหิมเกินรับจงฉับไว
ขจัดภัยขจัดทุกข์เพื่อสุขชน
ขอเทพไทที่สถิตประสิทธิ์สร้าง
อย่าให้ร้างคนดีมีเหตุผล
มาช่วยดับทุกข์เข็ญให้เย็นยล
กล้าประจญปวงทุกข์ที่รุกราน
ดั่งที่วอนว่ามาในครานี้
แต่ล้วนตีความชัด รัฐ ประหาร
หากว่าใต้คงร้อนมิผ่อนพาล
อีกกรุงกาญจน์วายวุ่นกรุ่นการเมือง
ดั่งศึกเหนือเสือใต้ภัยประชิด
เศรษฐกิจ สังคม จมทุกเรื่อง
เห็นได้ชัด รัฐ เอ๋ย เคยประเทือง
ถูกการเมือง พร่าผลาญ ประหารเอา.
8 พฤษภาคม 2550 19:25 น.
นนทสรวง
มาเถิดน้องพี่สร้าง ผลบุญ
สร้างหลักฐานเจือจุน ใหญ่น้อย
บุญใหญ่เล็กจักหนุน ชีพดั่ง ทรัพย์เอย
หนุน ชีวิตบ่คล้อย เคลื่อนสู่ อกุศล
ชีวิตบ่อยู่ยั้ง ยืนยง
เปรียบดั่งไม้ใหญ่คง หลักค้ำ
ดั่งเราท่านมั่นประสงค์ ชีพอยู่ นานเอย
ไหนเลยจักเลิศล้ำ หลุดพ้น ชนม์วาย
ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
เป็นเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บาปบุญแล้ ก่อเกื้อ รักษา
ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญบริจาคปัจจัยก่อสร้างพระอุโบสถ
วัดใหม่ศรีสมบูรณ์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
ติดต่อได้ที่ท่านเจ้าอาวาส พระอธิการประเสริฐ คุตตจิตโต โทร ๐๕๕ ๖๘๕ ๓๐๙
ขอขอบคุณวัดใหม่ศรีสมบูรณ์ ที่กรุณาเอื้อเฟื้อภาพถ่าย
17 เมษายน 2550 15:00 น.
นนทสรวง
อย่าเลยอ้อนงอนง้อกึ่งขอโทษ
จะหายโกรธทันใจกระไรหนา
ด้วยในจิตติดขัดอยู่อัตรา
ดูหรือมายอกย้อนให้ร้อนใจ
สัพยอกว่าเราเอาแต่จิต
แต่ความผิดตนหรืออย่าถือได้
ผิดหนึ่งสองสามสี่ทุกทีไป
แล้วไฉนมาบอกเหตุให้เมตตา
ให้เวลาแก้ตัวอย่ามัวหลง
ก่อนจะปลงสัมพันธ์ต่อกันหนา
ตอนนี้ งอน อย่าง้อจะขอลา
ไว้วันหน้า ง้อใหม่ ตอนใจเย็น.
13 ธันวาคม 2549 18:57 น.
นนทสรวง
หอมเอยหอมกลิ่นแก้ม นวลสมร
วันนี้ต้องจากจร ห่างแล้ว
ร้อยรสพันบทกลอน อันกล่าว ไว้เฮย
ใดจักเปรียบได้แพร้ว เทียบซึ้งคนึงสมร
วาระแห่งชาตินี้ ชักนำ
ต้องห่างจิตกายจำ ห่างเจ้า
นอนดินกินทรายสำ หรับพี่ แล้วเอย
ยังมิทุกข์โศกเศร้า เท่าน้องคนึงหา
สามวันพี่ห่างเจ้า เข้ากอง กลุ่มเอย
อย่าเจ้าอย่าหมางเลย จิตน้อง
ทำเพื่อชาติรักเฉลย ดั่งนี้ นุชรา
สามศอกอกพี่คล้อง ป้ายคุ้ม ปวงประชา
เย้วเย้วเสียงเพื่อนพ้อง ก้องดัง
กลางสมรภูมิกลุ่มพลัง รักแท้
ชาติ ประชาธิปไตยหวัง คืนกลับ
เป็นดั่งนี้แน่แล้ เหล่านักชุมนุมฯ.