28 มกราคม 2552 22:40 น.
นครา ประไพพงศ์
"""""เริ่มบันทึกเช้าวันที่ยี่สิบห้า
เดือนกันยาปีห้าหนึ่งซึ่งใจเศร้า
คนที่รักเดินทางไกลไปห่างเรา
มีความเหงามาใกล้ในวันนี้...
""""" น้อยใจเราไม่ได้ขึ้นไปส่ง
แต่เธอคงเข้าใจไม่หน่ายหนี
ตอนเช้าตรู่ก่อนเครื่องออกบอกคนดี
ว่าตัวพี่สัญญา...ว่าจะรอ
""""" ได้โทรคุยเหมือนว่าน้ำตาไหล
รักและหวงดั่งดวงใจรู้ไหมหนอ
รักของพี่ฝากใจไปให้พอ
น้องอย่าท้ออยู่ทางนี้พี่ห่วงใย
""""" บันทึกรักฝากฝันแห่งวันเหงา
ที่สองเราร้างลาน้ำตาไหล
แต่ด้วยรักคงมั่นสัญญาใจ
นานแค่ไหนพร้อมรอรับน้องกลับคืน
"""""กับการรอที่ใจไร้จุดหมาย
ความเดียวดายห่อหุ้มใจไม่อาจฝืน
เหงาอ้างว้างแต่หวังยังหยัดยืน
รอวันชื่น...รักแท้ที่แน่ใจ
"""""กอดตัวเองยามเหงาเศร้าท้อถอย
โอบห้วงกาล...การรอคอยอย่างหวั่นไหว
เนิ่นนานที่คืนวันผันผ่านไป
แต่มั่นใจความแน่นหนักรักของเรา
"""""บอกตัวเองว่ารักต้องหนักแน่น
อย่าหาใครมาแทนแม้นต้องเหงา
แม้สับสนหัวใจไม่บรรเทา
ก็ยังเฝ้ารอคอยไม่น้อยใจ
"""""รักที่มีมีค่ากว่าทุกสิ่ง
เป็นรักแท้แน่จริงและยิ่งใหญ่
เธอสำคัญล้ำค่าเกินกว่าใคร
เวลาผ่านนานแค่ไหนไม่เปลี่ยนแปลง....
"""""เธออยู่ไกลเกินกว่าไปหาได้
แต่อยู่ในใจฉันทุกหนแห่ง
ตราบที่ใจดวงนี้ยังสีแดง
รักก็ไม่เหือดแห้งจางหายไป
"""""ฝากกับฟ้าว่าคิดถึงหนึ่งคนนั้น
ฝากกับลมว่ารักมั่นไม่หวั่นไหว
ฝากกับดาวว่ายังหวงและห่วงใย
ฝากช่วยบอกดวงใจ...คนไกลตา
"""""" นั่งนับคืนวันผ่านเนิ่นนานนับ
รำพันกับเงาใจใฝ่ฝันหา
อยากจะเร่งดาวเดือนเคลื่อนเวลา
แต่รู้ว่าทำไม่ได้ดั่งใจคิด...
"""""" หนึ่งนาทีกว่าจะผ่านเนิ่นนานนัก
มันเหมือนสักหนึ่งปีที่ดวงจิต
หนึ่งคืนวันการรอคอยเหมือนน้อยนิด
คนใช้สิทธิ์รอคอยเหมือนน้อยใจ
"""""" รักของเราจะแน่วแน่แม้วันเหงา
รักของเราจะคงมั่นไม่หวั่นไหว
รักของเรามีค่ากว่าสิ่งใด
ตลอดมาตลอดไปจนนิรันดร์
"""""" ยังรอคอยคนดีอยู่ญี่ปุ่น
ใจว้าวุ่นห่วงใยไม่ไหวหวั่น
คิดถึงเธอคนดีทุกวี่วัน
ยังรอฝันวันพ้นผ่านการรอคอย...
28 มกราคม 2552 21:08 น.
นครา ประไพพงศ์
....แล้ววิญญาณบริสุทธิ์ก็หลุดล่อง
ท่ามเสียงก้องมัจจุราชมิอาจหลบ
สถาบันเมื่อต่างสี...ขยี้รบ
ต้องเป็นศพเลือดกองนองแนบดิน
....นักเลงในคราบนักเรียนเพี้ยนบทบาท
อนาคตของชาติจึงขาดวิ่น
สถาบันแห่งศักดิ์ศรีมีมลทิน
ความบ้าบิ่นหลงเข่นฆ่าอาฆาตกัน
....สถาบันการศึกษาค่ายิ่งใหญ่
แล้วสิ่งใดคือศักดิ์ศรีที่คงมั่น
เมื่อนักเรียนทิ้งตำรามาฆ่าฟัน
สถาบันเหลือศักดิ์ศรีอยู่ที่ใด
....หรือเรียนเพียงเอาวิชาหาความรู้
คุณธรรมขาดครูผู้สอนให้
หรือสั่งสอนไม่จำ...ทำจัญไร
จะโทษใครเมื่อหลงผิดคิดอัปรีย์
....เป็นนักเรียนจงขยันหมั่นฝึกฝน
อย่าลืมตนทิ้งตำราลืมหน้าที่
ศักดิ์ศรีใดศักดิ์สิทธิ์คิดให้ดี
อยู่ให้มีคุณค่า...อย่าลืมตัว
26 มกราคม 2552 22:35 น.
นครา ประไพพงศ์
(น) เมื่อน้องบอกให้สอนเล่นกลอนสด
(ม) เฝ้าจับจดจ้องจ้องลองขีดเขียน
(น) เรื่องกลอนสดไม่ยาก...หากพากเพียร
(ม) จึงนั่งเทียนจับปากกาจารึกกลอน
(น)เล่นกลอนสดสมองได้ใช้งานบ้าง
(ม)มาร่วมทางสายกวีศรีอักษร
(น)ร่วมสืบสานงานภาษาเป็นอาภรณ์
(ม) เชิญนักกลอนทั่วหล้ามาประชัน
(น) ช่วยสร้างความครึกครื้นตื่นกันหน่อย
(ม) ขออย่าปล่อยให้เรารอเพื่อต่อฝัน
(น) เถิดมวลมิตรมีเวลามาร่วมกัน
(น) มาสร้างสรรค์งานกลอนสอนใจชน
(น) จึงเชิญชวนออดอ้อนเล่นกลอนสด
(ม) ให้ปรากฎงานงามตามแห่งหน
(น) จบบทนี้เชิญสนุกกันทุกคน
(ม) ร่วมร่ายมนต์แห่งรัก...จากนักกลอน
ด้วยความร่วมมือจาก....
(น) นครา ประไพพงศ์ และ (ม) มัทนา
25 มกราคม 2552 15:39 น.
นครา ประไพพงศ์
.........อยากเป็นโน่นเป็นนี่เป็นนั่น
จึงมีหลากความฝันทั้งนั้นนี่
ทุกอย่างหลายหลากอยากจะมี
ถ้านิ้วชี้สั่งได้คงไม่ทุกข์
.........ซื้อเก๋งคันใหม่ไว้ขับเที่ยว
โฉบเฉี่ยวว่องไวให้สนุก
มือถือใหม่สักอันให้ทันยุค
มีสุขไม่น้อยเลยที่มี
.........ซื้อบ้านสักหลัง...หลังใหญ่ใหญ่
ติดแอร์เย็นใจทุกพื้นที่
เครื่องเสียงกระหึ่มเสียงดีดี
โทรทัศน์สีจอใหญ่ใหญ่ไปซื้อมา
.........แล้วหาแม่บ้านหุ่นนางแบบ
ไว้คลอชิดสนิดแนบเสน่หา
มีชีวิตแสนสุขทุกเวลา
แต่จบลงเพียงอัตตาวิวาทะ
.........เมื่อเตือนตนแย้งตนบอกตนรู้
ที่มีอยู่....ที่อยากได้ ไกลเกินกะ
ต้องเก็บเงินสักเท่าไหร่....ลืมไปซะ
เมื่อไหร่จะมีครบ...ลืมทบทวน
23 มกราคม 2552 22:13 น.
นครา ประไพพงศ์
เพียงตัวเลขสมมุติมนุษย์ตั้ง
หมุนตามหลังเรื่องราวเข็มยาวสั้น
เป็นตัวแทนแห่งกาลผ่านคืนวัน
ที่ผ่านผันทุกเวลาทุกนาที
เมื่อครบรอบครบเวลาเพิ่มอายุ
เพื่อผ่านลุวันวัยไม่อาจหนี
เกิดมาเพื่อเพิ่มอายุลุวันปี
จนเป็นผีหมดอายุลุล่วงพ้น
แต่เริ่มต้นจนหมดสิ้นชีวินจบ
รู้ถ้วนครบทุกการณ์ผ่านแดดฝน
เก็บเกี่ยวทุกเรื่องราวคราวเป็นคน
นำเตือนตนเตือนใจในทุกครา
เมื่อยังมีลมหายใจในวันนี้
จงมุ่งมั่นทำดีมีคุณค่า
เมื่ออายุล่วงผันวันตายลา
คนศรัทธารุ่นหลังยังเชิดชู