24 กันยายน 2549 00:03 น.
นครา ประไพพงศ์
ย * หยาดอรุณ
ข * กรวดสีฟ้า
น * นครา ประไพพงศ์
ด * แดนไกล ไลบีเรีย
ต * ต้นกล้า ในป่ากลอน
ย เมื่อฉันจุมพิตเธอนิดหนึ่ง
ข ช่างซาบซึ้งถึงดวงจิตพิศมัย
น รสรักร้อนรุมเร้าเข้าขั้วใจ
ด ดั่งทรวงในเร่าร้อนด้วยฟอนเพลิง
ข นึกไม่ถึงหนึ่งจุมพิต มีฤทธิ์ร้าย
น ร้อนรุ่มภายในใจให้ยุ่งเหยิง
ด ก่อความเจ็บปวดเหน็บร้าวราวระเริง
ข คล้ายความบันเทิงปนทรมาน
น หนึ่งจุมพิตที่ได้นั้นไหวหวาม
ด คือหนึ่งความสุขใจในเพลิงผลาญ
ต คือความรักความใคร่ใจสำราญ
น แทรกซึมผ่านเรือนร่างอย่างเร่าร้อน
ด กระตุกเส้นสั่นเทิ้มเมื่อเริ่มกอด
ต มือแทรกสอดโอบร่างอย่างโอนอ่อน
น หัวใจยิ่งเต้นเร้าวุ่นเว้าวอน
ด ตื่นจากนอน...ฝันนี้ไม่มีจริง
24 กันยายน 2549 00:00 น.
นครา ประไพพงศ์
ม - มัสลิน
น - นครา
ม - แอบรักใครคนหนึ่งซึ่งมุ่งมั่น
น - เก็บนอนฝันทุกคืนอย่างกลืนกล้ำ
ม - ผ่านราตรีที่เหน็บหนาวเข้าครอบงำ
น - ใจที่ช้ำก็ซึมเศร้าเหงาเดียวดาย
ม - เหมือนก้อนกรวดที่ร้าวเม็ดเป็นเกร็ดร่วง
น - สิ้นคนหวงห่วงหาน่าแหนงหน่าย
ม - หลบมุมมองอย่างเงียบเงียบเย็นเยียบกาย
น - ร้องไห้ภายในใจใครไม่แล
ม - แต่เพื่อความถูกต้องของชีวิต
น - จึงห้ามจิตห้ามใจไม่แยแส
ม - ทั้งที่รู้ว่าเจ็บถ่วงถึงดวงแด
น - รอยบาดแผลฝังลึกรู้สึกดี
23 กันยายน 2549 23:55 น.
นครา ประไพพงศ์
น - นครา
ม - มัสลิน
น - อยากรู้จักได้ไหมใครคนนี้
ม - ว่าเป็นพี่หรือเป็นน้องเฝ้ามองหา
น - สื่อหัวใจคิดอะไรในสายตา
ม - ถึงมองมาอย่างยั่วเย้าเร้าหทัย
น - อยู่เคียงข้างได้ไหมใครคนนั้น
ม - เพียงแค่ฝันก็ละเมอเพ้อหลงใหล
น - แอบมองหวังเคียงคู่อยู่ไกลไกล
ม - แม้เป็นไปไม่ได้ยังหมายปอง
น - รู้ว่าเธอมีคู่อยู่ก่อนแล้ว
ม - และผิดแนวหากมีเป็นที่สอง
น - จึงห้ามใจเพราะไร้สิทธิ์คิดครอบครอง
ม - ได้แต่มองเธอห่างไกลไปทุกครา
น - จึงห้ามใจห้ามรักหักใจห้าม
ม - แม้ไหวหวามโยงใยให้ห่วงหา
น - พร้อมจะเจ็บและช้ำเสียน้ำตา
ม - ยังดีกว่าเป็นที่สองรองจากใคร
22 กันยายน 2549 23:19 น.
นครา ประไพพงศ์
ย - หยาดอรุณ
ด - แดนไกล ไลบีเรีย
ว - Whitewizard
น - นครา ประไพพงศ์
ย - ทางที่ไกลใจที่พร้อมจะยอมสู้
ด - ทั้งที่รู้ว่าไกลแต่ใจถึง
ว - อุปสรรคฝ่าฟันไปไม่พรั่นพรึง
น -สู่สุดฝันต้องพึ่งซึ่งกายใจ
ด - แม้ว่ามีลำน้ำที่ไหลกั้น
ว - ผาสูงชันตั้งตระหง่านไม่หวั่นไหว
น -จะฝ่าฟันให้ถึงซึ่งเส้นชัย
ย - จะคว้าไขว่ป่ายปีนถึงปลายทาง
ว - เห็นฝั่งฝันตรงไปใกล้ถึงแล้ว
น - เดินตามแนวแห่งธรรมนำสรรค์สร้าง
ย - เก็บเกี่ยวหวังเท่าที่มีเท่าที่วาง
ด - จะเด่นค้างฝั่งฟ้าเป็นอาจิณ
น - ก้าวต่อไป ณ จุดหมาย สุดปลายฝัน
ย - ฝั่งฟ้านั้นคือดาวใจ ที่ใฝ่ถวิล
ด - ความสำเร็จคือเม็ดฝนที่หล่นริน
ว -ใจโบยบินสู่สวรรค์อันรื่นรมย์
ย - จะดื่มด่ำฉ่ำชื่นเต็มตื้นฝัน
ด - จะสุขสันต์กับสุขที่สั่งสม
ว - จะรื่นเริงไร้โศกโลกตรอมตรม
น -จะชื่นชมชื่นฝัน...วันเป็นจริง
22 กันยายน 2549 16:10 น.
นครา ประไพพงศ์
........รู้อยู่อย่างปล่อยวางเสียบ้างเถิด
สุขจะเกิดแก่ใจไม่หมองหม่น
อย่ายึดติดอย่าถือสาอย่าถือตน
รู้ผ่อนปรนมองสิ่งใดในแง่ดี
........เขาจะว่าก็อย่าถือสาเขา
รู้ตัวเราเป็นหลักแห่งศักดิ์ศรี
อัตตาคนต่างไปต่างใครมี
ล้วนอยู่ที่จะมองเห็นเป็นอย่างไร
........มองโลกในแง่ดีย่อมมีสุข
อย่าถือสาถือทุกข์จนหมองไหม้
ธรรมดาโลกนี้ที่เป็นไป
รู้เตือนใจศรัทธา...ค่ามนุษย์
........โลกนี้ยังงดงามทุกยามย่ำ
จงดื่มด่ำด้วยใจใสพิสุทธิ์
ความทุกข์เพียงมายามายื้อยุด
และย่อมหยุดเมื่อชีวิต คิดแง่ดี