26 กรกฎาคม 2549 15:48 น.

เวบกลอนไทย

นครา ประไพพงศ์

........มีปากกา เป็นอาวุธ ดุจคมดาบ
ประกายวาบ แวววาม ความคิดฝัน
ประกาศิต ปลายปากกา ค่าอนันต์
สะท้อนสิ่ง สร้างสรรค์ กลั่นจากใจ

........สร้างผลงาน หลายประเด็น เป็นชีวิต
สื่อความคิด ด้วยความฝัน อันยิ่งใหญ่
ร้อยกรองคำ ร้อยคำกลอน อักษรไทย
สื่อนิยาม ยิ่งใหญ่ ในวิญญา

........มีคนถาม ที่เขียนไป ใครจะอ่าน
กองผลงาน  ที่เก็บไว้ มันไร้ค่า
ก็คิดมาก จนท้อ ทรมา
จึงมองหา ลู่ทาง สร้างชื่อตน

........แล้วก็พบ จุดเริ่ม ต่อเติมฝัน
แหล่งแบ่งปัน ความคิดเห็น เป็นกุศล
นำเสนอ ผลงาน สานสู่ชน
ภูมิใจล้น ศรัทธา คุณค่ากลอน

........ไทยโพเอ้ม...เวบกลอนไทย ให้โอกาส
ต่อเติมฝัน อันวิลาส ศาสตร์อักษร
ภาษาชาติ งามสง่า สถาพร
ทุกสุนทร ขอมอบ....ขอขอบคุณ				
25 กรกฎาคม 2549 15:27 น.

แผลเป็น

นครา ประไพพงศ์

แผลเป็น ที่เป็นแผล
ก็เพียงแค่ รอยเตือนใจ
ที่ผิด ที่พลาดไป
เจ็บ จดจำ ไม่ซ้ำรอย

           แผลเป็น ใช่สิ่งย้ำ
ให้ชอกช้ำ จนท้อถอย
รู้ตัว มัวคอย
ให้แผลเป็น เป็นแผลใจ

           แผลเป็น เป็นบทเรียน
เศษหนามเสี้ยน ที่ตำได้
ธรรมดา และทั่วไป
พลาดผิดมี..มีแผลเป็น
          
           อย่าให้แผลเป็นย้ำ
จนน้อมนำ ให้ลำเค็ญ
แผลใจ...ที่ไม่เห็น 
นั่นแหละแผล...ที่เจ็บจริง				
24 กรกฎาคม 2549 23:52 น.

จิตสำนึก...

นครา ประไพพงศ์

บริบท ๑

        แต่แบเบาะ พ่อแม่ ดูแลใกล้
เฝ้าห่งใย ปกป้อง มิหมองหม่น
ถนอมเลี้ยง อบรม บ่มค่าคน
หวังลูกตน เติบใหญ่ จะได้ดี

        ส่งเล่าเรียน สร้างค่า อนาคต
สิ่งทั้งหมด ทุ่มเทให้ มิหน่ายหนี
สรรพสิ่ง มอบให้มากมายมี
แต่ลูกนี้ ไม่ตระหนัก สักนิดเดียว

บริบท ๒

       นั่งจับคู่ ทุกครา เวลาดึก
รุ่นวัยไฟ มันก็คึก...นึกแล้วเสียว
กอบจับจูบ ลูบคลำล้วง น่าห่วงเทียว
สุกประเดี๋ยว ก็ปลงใจ ไปฉะกัน

       ไม่อายดิน อายฟ้า น่าบัดสี
แต่ละคู่ ตะบันบี้ เหมือนแข่งขัน
ระเริงรัก สุดขั้ว มั่วเมามัน
เป็นแฟชั่น แพร่ระบาด....อนาถนัก

       ยางอาย ณ บัดนี้ ไม่มีเหลือ
 โสมมเชื้อ ตัณหา น่าห่วงหนัก
เหยื่อสังคม โลกีย์ ชั่วชี้ชัก
เหลิงลืมหลักคุณธรรม นำชีวิต

บริบท ๓

       แต่แบเบาะ พ่อแม่ ดูแลใกล้
ลูกมองเมิน ไม่ใส่ใจ ใฝ่สิ่งผิด
อนาคต เป็นเช่นไร ไม่เคยคิด
หลงยึดติด พฤติกรรม ความจัญไร

       ณ สังคม เน่าเฟะ เละและเลอะ
ชาติเปื้อนเปรอะ สังคมแย่ อีกแค่ไหน
หนทางแก้ มิต้องหา หน้าที่ใคร
รู้แก่ใจ จิตสำนึก...สำนึกตน				
23 กรกฎาคม 2549 19:09 น.

ถวายพระพร ภาวนาจิต อธิษฐาน

นครา ประไพพงศ์

ข้าพระองค์ น้อมก้ม บังคมบาท
ภูวนาถ องค์บพิตร อดิสร
ขอน้อมใจ น้อมกาย ถวายพระพร
ด้วยบทกลอน สดุดี ศรีราชันต์

แผ่นดินไทย มีพระองค์ ทรงเป็นหลัก
ราษฎร์จงรัก ภักดี ที่คงมั่น
ธ คงอยู่ ในใจ ไทยนิรันดร์
เป็นมิ่งขวัญ ร่มโพธิ์ไทร ไทยทั้งมวล

ร่วมทำดี ถวาย องค์ในหลวง
ชนทั้งปวงประสานใจไม่ผันผวน
ราษฎร์ห่วงใย พระอาการ พระประชวร
ไทยทั่วถ้วน รวมใจภักดิ์ น้อมสักการ

ถวายความ จงรัก ผ่านอักษร
ถวายพระพร ภาวนาจิต อธิษฐาน
วอนเทพไท้ ทั่วสากล ดลบันดาล
พระชนม์ชีพ ยิ่งยืนนาน นิรันดร์เทอญ				
22 กรกฎาคม 2549 17:13 น.

"กระต่าย ใต้เงาจันทร์"

นครา ประไพพงศ์

แหงนหน้ามอง อย่างเหงา เฝ้าแลหา
ไม่เห็นหน้า หลายวัน ฉันคิดถึง
จันทร์เจ้าเคย รู้ไหม ใครคำนึง
นอนรำพึง รอ "กระต่าย ใต้เงาจันทร์"

คิดถึงฉัน บ้างไหม กระต่ายเจ้า
เคยเงียบเหงา บ้างไหม เหมือนใจฉัน
อยากให้คิดถึงบ้าง...แม้บางวัน
ในคืนฝัน ที่ฟ้ากว้าง ดาวพร่างพราย

คืนที่ดาว งามตระการ เต็มลานฟ้า
ฤๅงามตา เท่าคืนฝัน ที่จันทร์ฉาย
แม้คืนเหงา ในคืนนี้ มีดาวราย
ฉันคิดถึง เพียง"กระต่าย ใต้เงาจันทร์"				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนครา ประไพพงศ์