27 มีนาคม 2548 15:53 น.
นกสีหมอก
เคยเป็นบัวดอกหนึ่งในบึงใหญ่
ที่สดใสงดงามฟ้าครามสวย
น้ำก็เย็นฉ่ำชื่นรื่นระรวย
อุดมด้วยปลาน้อยใหญ่ในวารี
แล้ววันหนึ่งฉันถูกดึงจากบึงนั้น
เขาเด็ดก้านบัวหักไร้ศักดิ์ศรี
เพียงแค่เห็นเป็นสิ่งลองของสวยดี
จึงย่ำยีสิ่งเบื้องล่างอย่างง่ายดาย
ฉันถูกโยนใส่อ่างน้ำสีดำเข้ม
เติมน้ำเต็มถึงปากอ่างน้ำยังใส
น้ำในอ่างชุบชีวิตและจิตใจ
บัวรอดตายเพราะน้ำคอยค้ำจุน
แล้วดอกบัวกับน้ำใสในอ่างเข้ม
ก็เติมเต็มแผ่เผื่อคอยเกื้อหนุน
ปรับชีวิตธรรมชาติที่ขาดดุล
เป็นเพื่อนกันอบอุ่นละมุนละไม
บัวมอบความสดใสให้น้ำเห็น
ทุกเช้าเย็นเห็นกันพลันเฉิดไฉ
เห็นน้ำสุขบัวก็สุขทุกทีไป
บัวตั้งใจอยู่เคียงข้างอย่างปรองดอง
วันเวลาผ่านไปไม่คงที่
น้ำเคยดีในอ่างบัวเริ่มมัวหมอง
อาจเพราะบัวที่ทำน้ำขุ่นนอง
บัวเริ่มมองตัวอีกทีพิจารณา
สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทีละนิด
ก็รู้สึกนึกผิดคิดรักษา
น้ำจะไม่ แย่กว่านี้ ที่เป็นมา
โอ้ฉันพาความทุกข์เยือนถึงเพื่อนตน
บัวต้องออก จากอ่างไป ให้จงได้
ต้องข่มใจ ยอมตาย ให้เหตุผล
จึงปลิดดอก สลัดกิ่ง ทิ้งตัวตน
ให้หลุดพ้น จากน้ำรัก เคยพักพิง
แต่น้ำนั้นได้ซึมผ่านเต็มก้านแล้ว
ได้เกิดเยื่อเป็นแถวตามแนวกิ่ง
เพราะเยื่อนั้น.. ก้านไม่ขาด กลับพาดพิง
พันผูกให้ ไม่อาจทิ้ง ยิ่งทรมาน
เยื่อบางบางแต่เกาะกุมความนุ่มเหนียว
พันเป็นเกลียวเกิดก่อรักที่ถักสาน
บัวเจ็บปวดแสนสาหัสเกินทัดทาน
เจ็บกว่าการ ตายช้าช้า ก่อนมาเจอ..
24 มีนาคม 2548 16:54 น.
นกสีหมอก
เปรียบเป็นเชือกที่ถูกขึงตรึงสองฝั่ง
ยึดหน้าหลังรั้งเกี่ยวเหนี่ยวแน่นขึง
แย่งกันโยกแย่งกันใหญ่ให้เชือกตึง
ซ้ำถูกดึงให้เจ็บจิตเพราะติดกัน
ฝั่งที่หนึ่ง คือจำ ความดีได้
ที่เธอให้ที่เธอมีดีกับฉัน
ที่เธอก่อที่เธอปลูกจนผูกพัน
ที่เธอแบ่งที่เธอปันฉันกับเธอ
อีกฝั่งหนึ่ง คือจำ ความเลวชั่ว
ที่เธอยั่วที่เธอยวนชวนเสมอ
ที่เธอลวงที่เธอบอกหลอกให้เจอ
ที่ฉันเพ้อเธอทำร้ายจิตใจลง
ความสับสน จากความจำ จึงกำเนิด
ให้ฉันเกิดความรวนเรลังเลหลง
ในที่สุดเชือกอ่อนเพลียเสียรูปทรง
ต้องขาดลงปลงชีวิตปิดตัวเอง...
21 มีนาคม 2548 01:08 น.
นกสีหมอก
ต้องเก็บกดทนเอาตัวเราผิด
ต้องนั่งคิดทบทวนหวนความหลัง
ต้องยอมรับกับโชคที่บดบัง
ต้องรับฟังความจริงสิ่งต้องทน
ต้องใช้กลอนผ่อนระบายไว้แทนเพื่อน
ต้องฟั่นเฟือนพาชีวิตจิตสับสน
ต้องทนเหงาเฝ้ารังเกียจทุกทุกคน
ต้องหลุดพ้นความเป็นตัวของตัวเอง
ต้องเสแสร้งแกล้งล้อต่อกระซิก
ต้องแพลงพลิกเล่นละครสอนให้เก่ง
ต้องแปรปรวนทวนกระแสของตนเอง
ต้องโคลงเคลงคลอนแคลนไม่แน่นอน
ต้องไร้กฎไร้ระบบหมดระเบียบ
ต้องเงีบบเชียบแล้วเริงร่าน่าสั่งสอน
ต้องขึ้นบ้างลงบ้างในบางตอน
ต้องอุทธรณ์ความคิดที่ผิดไป
20 มีนาคม 2548 22:00 น.
นกสีหมอก
ไม่จำเป็นต้องจริงใจให้ใครแล้ว
เหมือนรู้แกวอนาคตไม่สดใส
ไม่ต้องการทุกสิ่งที่จริงใจ
ก็คงไม่ต้องให้เพื่อนเหมือนเคยมา
เคยเชิดชูความจริงใจไว้เหนือสิ่ง
แต่ความจริงไม่ใช่เลยฉันเคยหา
หาเท่าไหร่หาไม่ได้ในสักครา
หนักอุราเหนื่อยเปล่าไม่เข้าใจ
แม้จะให้เท่าไหร่ไม่กลัวหมด
ถือเป็นกฎชีวิตดีที่ถือไว้
ทุกทุกอย่างอยู่ยิ่งด้วยจริงใจ
ก็เลยใส่ให้ทุกคนจนหมดตัว
ไม่ได้อยากเรียกคืนต้องฝืนจิต
แต่อยากคิดเก็บไว้อยู่ในหัว
ไม่แสดงออกไปให้ใครกลัว
อยากรักตัวของฉันนี้กว่าที่เป็น
ไม่แคร์ใครว่าอะไรฉันไม่โกรธ
ถึงขอโทษไม่รู้สึกนึกมองเห็น
อยู่เงียบเงียบเฉยไปไม่ลำเค็ญ
สุขที่เห็นคือสันโดษโปรดมองเอา
ถ้าต้องสุขเพื่อรับทุกข์ในภายหน้า
สู้อุตส่าห์ไม่สุขใจคงไม่เขลา
ขอเพียงทุกข์มีน้อยค่อยผ่อนเอา
อย่างน้อยเราคงชินติดดินโคลน
พอมีทุกข์ทนได้เลยเพราะเคยแล้ว
ใจไม่แผ่ว แกร่งกล้าน่าฉงน
เพราะลำบากกว่านี้ที่เคยโดน
สุขไม่สนเพราะกัดกร่อนให้อ่อนแอ
20 มีนาคม 2548 14:42 น.
นกสีหมอก
อุปสรรคผ่านมา คือยาหมอ
ฉีดแล้วรอต่อสู้เชื้อเพื่อให้สิ้น
หากจะเทียบเปรียบทุกข์ยาก กับวัคซีน
เมื่อเชื้อสิ้นเราชนะตลอดไป
ตอนเริ่มต้นไข้ขึ้นมึนปวดหัว
ทั้งน่ากลัวน่าสลดไม่สดใส
เหมือนความทุกข์ที่เข้ามาหาฉันไง
ทั้งทุกข์ใจทุกข์ร้อนไม่หย่อนยาน
พอภายหลังหายดีเริ่มมีสุข
ไม่มีทุกข์แข็งแรงแข่งขยัน
เพราะร่างกายได้มีภูมิคอยคุ้มกัน
เชื้อโรคนั้นไม่กล้ามารังควาญ..
แต่ตัวฉันเหมือนฉีดยา มากกว่านั้น
เชื้อโรคพลันได้ทีมีล้างผลาญ
ฉันอ่อนแอทุกข์ตรมจึงซมซาน
ถูกร้าวรานกลายเป็นโรคน่าโศกใจ
ยิ่งโรคร้ายโรคนี้มีแทรกซ้อน
ทั้งกัดกร่อนหัวใจคงไม่หาย
บทสรุปชีวิตฉันนั้นคือตาย
วันนั้นไซร้ฉันชนะ จะสุขเอย.