18 กันยายน 2545 11:34 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
ชีวิตนี้ยังต้องมุ่งไปข้างหน้า
แม้หลายครั้งเหนื่อยล้าแทบสิ้นหวัง
แม้หลายคราวแทบสิ้นแรงไร้พลัง
แต่ใจยังบอกสองเท้าให้ก้าวเดิน
...เดินต่อไปบนผืนดินอันแห้งผาก
...เดินต่อไปแม้ทุกข์ยากลำบากเข็ญ
...เดินต่อไปแม้ชิวิตยังลำเค็ญ
...เดินต่อไปแม้ไม่เห็นซึ่งปลายทาง
ทางชีวิตที่ไม่มีใครรู้แน่
ว่าจริงแท้สุดปลายทางอยู่หนไหน
แม้สิ้นแรงขออย่าสิ้นพลังใจ
เหนื่อยเมื่อไร..พักตรงนั้นหยุดฝันชั่วคราว
...เมื่อแรงมีแล้วค่อยลุกเดินทางต่อ
...ไปให้พอดังที่ใจได้มุ่งหวัง
...แม้ร้อนหนาวล้มแล้วลุกทุกข์ประดัง
...หัวใจยังบอกสองเท้าให้ก้าวไป
12 กันยายน 2545 08:50 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
...เจ้านกชายเลนขนสีหม่นมัว
ฉันหลงรักพวกเธอได้อย่างไรหนอ
สีสันหรือ..ไม่สวยเอาเสียเลย
หน้าตาหรือก็ดู เด๋อๆซื่อๆ
...หากฉันมองผ่านเลย เธอก็คงเป็นเช่นที่ตาเห็น
แต่เมื่อฉันมองสู่ภายในกลับพบดวงใจที่แตกต่าง
รู้ไหม ฉันมองเห็นหัวใจอันแข็งแกร่ง
ซุกซ่อนอยู่บนเรือนร่างอันบอบบางของพวกเธอ
...กี่รัตติกาลที่พวกเธอบินผ่าน
กี่อรุณรุ่งที่พวกเธอได้แลเห็น
กับสองปีกกระพือถี่ด้วยหัวใจอันมุ่งมั่น
กับอีกสองตาที่จับจ้องไปยังจุดหมายที่ปลายฟ้า
...หลายพันไมล์แล้วสินะที่พวกเธอเดินทางมา
ยามเมื่ออ่อนล้าพวกเธอแวะพักแรมทางที่ไหนหนอ
ครั้นเมื่อยามมีเรี่ยวแรงพอ
พวกเธอไม่เคยลังเลเลยที่จะบิน บิน บิน
บิน..เพื่อให้ถึงจุดหมายที่เธอกำหนดไว้แล้วในหัวใจ
4 กันยายน 2545 19:26 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
บนชายหาดในวันฟ้าหม่น
เมฆฝนก่อเค้ามืดไปทั่วแผ่นฟ้า..ดูน่ากลัวกว่าที่เคยเป็น
และเมื่อฝนหยดแรกโปรยลงมา
เธอก็สะบัดมือหนีฉันไปโดยมิฟังคำอธิบายใดๆอีก
ไม่นานเธอก็ลับหายไปในม่านฝนอันพร่ามัว
...ฉันรู้ว่าฉันผิด
...ฉันยอมรับแต่โดยดีในทุกเรื่องที่เธอกล่าวหา
...บางทีอาจเป็นเพราะฉันเหงา ฉันอยากมีเพื่อน
...และฉันไม่อยากจมปลักอยู่กับตนเองจนเกินไป
...แต่เธอก็คือเธอ ที่มีอารมณ์แปรปรวนดั่งทะเล
ทะเลที่กำลังถาโถมคลื่นคลั่งอยู่ไม่ห่างจากตัวฉันในเวลานี้
ฉันเสียใจ..ฉันหวังว่าเธอจะหวนคืนมาดังเดิม
แต่..บางทีโทษของฉันครั้งนี้อาจรุนแรงเกินกว่าจะคาดคิด
...ฝนยังคงกระหน่ำหนักจนเห็นเป็นฝ้าขาวไปทั่ว
...ราวกับโลกทั้งโลกจะถูกห่มคลุมไปด้วยม่านน้ำ
ฉันคุกเข่าลงกับพื้นอย่างคนสิ้นแรง
ฝน..ลงโทษฉันให้สาแก่ใจเถอะ ฉันตะโกนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เม็ดฝนที่ตกต้องผิวกายทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแปลบ
และเหน็บหนาวไปถึงหัวใจ
...บนหาดทรายอันหม่นมัว
...คงไม่มีใครเห็นน้ำตาของฉันที่ละลายไปกับสายฝน
30 สิงหาคม 2545 19:34 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
...หลายปีก่อน ฉันเคยมีไฟที่จะเดินทางท่องเที่ยว
ไปบันทึกภาพตามท่องทุ่ง ป่าเขา ในเกือบจะทุกๆวันหยุด
...ราวตีสามตีสี่จะมีคนเห็นฉันแบกกระเป๋ากล้องขึ้นรถ
แล้วขับกระบะคู่ใจผ่าความมืดออกไปเพียงลำพัง
เป้าหมายคือรุ่งเช้าในป่าหรือพื้นที่ธรรมชาติที่ไหนสักแห่ง
ซึ่งเวลานั้นจะเป็นเวลาที่ดีเวลาหนึ่งในการบันทึกภาพ
...เมื่อถึงจุดหมาย ฉันก็จะแบกกล้อง เดินชมนกชมไม้
และบันทึกภาพอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย
นั่นอาจเป็นเพราะว่าฉันยังมีไฟ มีเรี่ยวแรง และยังมีเวลากับภารกิจที่รักนี้
เพียงเพื่อความสุขที่จะได้เห็นผลงานภาพธรรมชาติที่ตนเองได้บันทึก
...มาวันนี้ฉันเดินทางน้อยลง ทั้งที่ฉันยังรักการเดินทาง
อายุที่มากขึ้นทำให้ฉันรู้สึกฝืนที่จะตื่นแต่มืดแล้วขับรถท่องโลกไปไหนต่อไหน
ฉันรู้ดีว่าไฟมิได้ลุกโชนเช่นเก่า
ดีเพียงว่าฉันยังคอยเอาฟืนสุมมิให้มันมอดสนิทก็เท่านั้น
...จริงดังว่า ถ้าเรายังมีเรี่ยวแรงและมีไฟจะทำสิ่งใดก็จงทำเถิด
เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่งเราอาจไม่มีจังหวะและโอกาสดังเดิมอีก
ทุกวันนี้ฉันจึงยังรู้สึกดีที่ครั้งหนึ่งเมื่อไฟยังแรง
ฉันได้ทำในสิ่งหนึ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่แล้ว
...เพื่อนบางคนมาปรึกษาฉันว่า ทำสิ่งนั้นดีไหม ทำสิ่งนี้ดีไหม
ฉันไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า จงอย่ารอช้าถ้าเรายังมีไฟ
ทำเท่าที่ทรัพยากรในตัวตนของเราจะทำได้
แม้ว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม
เพราะไฟ..มิไดเกิดขึ้นง่ายๆ และจะโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา
หากเกิดขึ้นแล้วปล่อยให้มันดับมอด..บางทีมันอาจไม่มีวันลุกโชนขึ้นมาอีกเลย
23 สิงหาคม 2545 09:53 น.
นกน้ำ ไซบีเรีย
ค่ำมากแล้ว
แสงของกลางวันอ่อนแรงลงทุกขณะ
ฉันหยุดยืนมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับหายไปจากขอบฟ้า
งดงามแต่ช่างดูโดดเดี่ยวในยามนี้
เมื่อฉันหันกลับไปมองอีกด้านตามแนวหาดที่เดินจากมา
หนุ่มสาวคู่นั้นเดินจูงแขนห่างไกลออกไปทุกที
จนมองเห็นเป็นจุดเล็กๆหล่อรวมเป็นจุดเดียว
เมื่อฉันมองไปยังผืนทราย
น้ำที่ลงก่อนหน้านี้เผยให้เห็นแนวหาดสีขาวเนียนเรียบ
บนผืนทราย รอยเท้าทุกฝีก้าวของฉันยังปรากฏแจ่มชัด
....จริงหรือที่บางเรื่องในชีวิตต้องใช้เวลาลบเลือน
ฉันคงต้องรอ...
อาจนานจนถึงรุ่งเช้าที่น้ำทะเลจะขึ้นมาอีก
เมื่อนั้น คลื่นก็จะลบรอยเท้าของฉันให้เลือนหายไปจากผืนทราย