1 มีนาคม 2548 03:31 น.
นกขมิ้นเหลืองอ่อน
เขาเดินดุ่มคลุ้มคลั่งบนทางเปลี่ยว
หน้ามนุษย์บูดเบี้ยวเที่ยวขวักไขว่
แออัดยัดเยียดเบียดเนื้อใน
กลิ่นสาบสาวคาวใครไม่ชัดเจน
เพลิงแดดแรงเริงกล้านัยน์ตาพร่าง
เสียงสัตว์ครางครึมโครมคระโหมเต้น
เขาปัดป่ายบ่ายตีนเลี่ยง เช้าเที่ยงเย็น
ไม่ว่างเว้นคลื่นเหียนอาเจียนชีวิต
กระจับแดงแข่งขันประชันโฉม
ลมปากโหมวาจาพร่ำคำลิขิต
กลิ่นนวลเนื้อเจือกลิ่นกรดรดพรมนิด
อีกยาพิษในคำหวานอันร่านเร้า
ทั้งเครื่องจักรเครื่องกลคนถีบชัก
ลมก็หนักฟ้ามืดครึ้มดูซึมเศร้า
ขี้สนิมกราดเกรี้ยวใต้เรียวเงา
แห่งป่าปูนที่ปกเราอย่างล้าแรง
เขาเดินดุ่มคุ้มคลั่งกลางเมืองฟ้า
ปรารถนาหาทางกลับคืนทับแหล่ง
แสงแห่งไฟเสมือนดูเลือนแรง
สาบมนุษย์คล้ายสางแสร้งกว่าสัตว์ไพร
เขาเดินดุ่มคุ้มคลั่งดั่งคนบ้า
เห็นตุ๊กตาพลาสติกระริกไล่
นี่มันแดนอมนุษย์สุดฟ้าไกล
หรือกูหลงพงไพรมาเดินกรุง
เขาเป็นสัตว์หรือคนในหนนี้
หรือผู้ที่รายล้อมนั้นปลอมยุ่ง
คนจึงกลายคล้ายสัตว์แกล้งแต่งบำรุง
คนค้างคนถูกกดทุ้งใต้อุ้งตีน
จึงเช่นนี้ค่าของคนจึงข้นแค้น
คนจึงแค่นทุกข์ทนไม่พ้นสิ้น
สัตว์ร่างคนบีฑาซ้ำน้ำตาริน
คนค้างคนจึงคลุกดิน กินน้ำโคลน
เขาเดินดุ่มคุ้มคลั่งดั่งสัตว์บ้า
กลืนน้ำตาเก็บไว้ใต้หัวโขน
หลงกลางเถื่อนสวรรค์อันยวบโยน
สุดท้ายเป็นสัตว์หรือคน มิรู้แล้ว
ยี่สิบแปด กุมภาพันธ์ สี่แปด