30 กรกฎาคม 2548 17:49 น.
น.นิรัติศัย
ฉันยังเป็นคนรักเธออยู่ ถามว่าอยากรู้ใช่ใหม?
ฉันยังเป็นคนรักหรือเปล่าฉันสงสัย
เธอทำไมทำร้ายจิตใจกันทุกนาที...
นั้นหนะสิ
พอเถอะพอหากจะต่อรักอีก
ขอจงหลีกหนีไกลไม่ต้องหา
พอเถอะพอคนนี้พี่ขอลา
ให้แก้วตาจงอย่าได้แลเหลียว...เอย
พอเถอะพอแค่นี้ที่ใจพัก
แสนช้ำนักในอุราพาอดสู
พอเถอะพอสิ้นแล้วที่เฝ้าดู
ใจไม่อยู่ที่ใครในเมื่อวัน
ลาก่อนที่รักหักใจห้าม
ไม่ขอตามเธออีกหลีกเข้าป่า
จะไปพักซ่อมใจในไม่ช้า
ไม่กลับมา ณ เวลามีสองเรา
I have no filling about that.
yes
I'm concerned about you.
no
23 กรกฎาคม 2548 19:05 น.
น.นิรัติศัย
รอ เรือ หากนำคำต่างๆ มาผสมคงได้หลายคำ หลายความหมาย เช่น
เรียน รู้ รอบ เรื่อง รัก แรก เริ่ม รบ เร้า ร้อน แรง รุ่ง โรจน์ โรง แรม รวน เร ร้าง รา ร่อน เร่ ไร แร้น จนอาจถึง "แ-ด" ก็อาจเป็นได้
หากเปรียบคนอย่างเราๆ ท่านๆ รอ เรือ คงเป็นพาหนะในการเดินทาง ณ ท้องทะเล บนแม้น้ำ เพื่อไปยังจุดหมายที่ต้องการ จนบางครั้ง มักมีเรือสองลำใต้ฝ่าเท้า ซ้าย-ขวา โดยมีน้ำหนักเท่าๆ กัน เมื่อผ่านเข้าสู่ มหาสมุทรแล้วย่อมยากต่อการยกเท้าจากฟากใดฟากหนึ่งได้
หาก...ใจมิเข้มแข็งพอ จนแล้วจนรอด บ้างถึงฝั่งฝัน บ้างล่ม ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือพยุงรั้งไว้ มันช่างน่าสงสารปนน่ารังเกียจ แต่มิอาจพูดมันออกมาได้ต้องปล่อยตามเวลา เป็นเครื่องเตือนสติแก่ผู้นั้น อนาคตอันใกล้เข้ามา โดยมิแน่ใจ แน่แท้ ต่อการหยั่งรู้ ย่อมแปรเปลี่ยนได้เสมอ
ชีวิตมี 1 ชีวิต ย่อมพร้อมรับเรื่องความไม่แน่นอน การแปรเปลี่ยน และความเสี่ยงอยู่เสมอ
หากไม่ยุติ ไม่รั้ง ไม่รอ บางทีอาจสร้างสิ่งที่เรียกว่า "ความจริง" ขึ้นมาก็อาจเป็นได้ หรือ เป็นไปไม่ได้เลยก็อาจจะใช่...
วันหนึ่งพร้อมรับความเสียง ความแปรเปลี่ยน และความไม่แน่นอน คงต้องยกเท้าออกจากฟากหนึ่งและพายต่อไปจนถึงฝั่งอย่างตั้งใจ
โดย...ทิ้งให้อีกฟากหนึ่ง เผชิญชะตากรรมด้วยตัวเองบนความเสี่ยง แปรเปลี่ยน และความไม่แน่นอน...
แล้ววันหนึ่งฟากฝัน คงถึงฝั่งในไม่ช้า.... ความจริงก็คงเกิดขึ้น ณ ฝั่ง ข้างใดข้างหนึ่ง...
23 กรกฎาคม 2548 19:01 น.
น.นิรัติศัย
เฉือนเนื้อเพื่อเปิดทางสร้างประตู
ย่างเข้าสู่ดินแดนแสนยิ่งใหญ่
ผ่านหยดเลือดแดงฉานดั่งธารไหล
ละเลงไฟโอบอุ้มชุ่มวิญญาณ
เร้าร้อนอิทธิฤทธิ์จิตแค้นเคือง
ชำเลืองคู่อริมิหวาดหวั่น
ไฟอาฆาตมุ่งร้ายหมายชีวัน
ฟาดฟันเหมือนกระบี่ที่เร้าใจ
เชือดเนื้อเถือหนังดั่งมัจจุราช
ละเลงวาดแต่งแต้มสีสันสร้าง
ด้วยเลือดทุกหยาดหยดลดเส้นทาง
ทำลายล้างแผดเผาเหล่าเทวัญ
น.นิรัติศัย
22 กรกฎาคม 2548 17:31 น.
น.นิรัติศัย
เส้นสายปลายทางหว่างมรณะ
ชั่วขณะจิตหวาดหวั่นพลันจึงตื่น
สวรรค์หรือนรกสุดจะฝืน
ก้าวผ่านคืนร้อนรุ่มสุมกายา
ทิ้งสิ่งดีสิ่งชั่วกลั้วตัณหา
ให้เวลาผ่านนาทีที่เร่งเร้า
คอยต่อเติมเชื้อไฟเข้าใส่เตา
เหมือนน้ำเมากดประสาทบาดลำคอ
ทางดีที่ควรเดินเพลิดเพลินจิต
ใช้ความคิดพินิจดูสู่ฟากฟ้า
อันสวยสดงดงามตระการตา
ด้วยเมฆาที่ฟูฟ่องล่องลอยไป
๙ น.นิรัติศัย ๙
17 กรกฎาคม 2548 14:11 น.
น.นิรัติศัย
จากฟางรวมตัวก่อตั้งรูป
ช่วยจับผูกมัดให้แน่นเป็นแกนหลัก
ต่อแขนขาพาใจได้หยุดพัก
พร้อมด้วยรักษ์มอบให้ไร่กลางนา
จากแสงแดดอ่อนอ่อนตอนเช้าตรู่
สายลมพลิ้วผ่านใบหูดูเวิ้งว้าง
ทอดสายตายาวไกลสุดปลายทาง
โดดเดี่ยวกลางสงครามตามชะตา
หุ่นไล่กา จับอาวุธสุดแน่วแน่
มิผ่ายแพ้แม้ตัวตายมลายสิ้น
จะต่อกรกับศัตรูผู้โผบิน
ด้วยชีวินที่กล้าแกร่งแห่งทุ่งนา
สงครามผ่านไปใช่ไปลับ
ฝูงวิหคย้อนกลับมาสานต่อ
วันวานผ่านฤดูกาลมิย่อท้อ
ก้างขวางคอมิอาจอยู่คู่แผ่นดิน
๑๗ กรกฎาคม ๔๘
๙ น.นิรัติศัย ๙