10 เมษายน 2548 22:40 น.
ธารินทร์
"ใครบางคน ในบางความคิดถึง"
ความจริงยุ่งเกือบจะลืมใครคนหนึ่งไปแล้ว.. เกือบจะลืมไปแล้วว่าเขายังมีตัวตนอยู่ในใจของยุ่งมาตลอด ก็แน่ล่ะ.. ยุ่งเก็บเขาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำไปตั้งนานแล้ว.. แต่วันนี้ยุ่งจำเป็นต้องนึกถึงใครคนนั้นขึ้นมาอีกจนได้ มันเป็นเพราะจดหมายเก่าๆฉบับหนึ่งที่สอดอยู่ในหนังสือที่ยุ่งหยิบขึ้นมาอ่าน ...
ซองจดหมายสีขาวหม่นเพราะกาลเวลา กระดาษข้างในซองเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาของคนอ่าน.. น้ำตาของยุ่งเอง.. ยุ่งแกะมันอ่านอีกครั้ง ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะทำให้ยุ่งพบเจอกับความรู้สึกอะไรบ้าง ..
ยุ่งครับ ..
ความจริงเรื่องนี้เราควรจะพูดคุยกันตั้งนานแล้วนะครับ ยุ่งเองก็คงรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร มันเป็นเรื่องที่ "เรา" พยายามปฏิเสธมันมาตลอด ทั้งๆที่ "เรา" ก็รู้อยู่ในใจตลอดเวลาว่าวันหนึ่งเราต้องพบเจอกับช่วงเวลานี้ อย่าพยายามปฏิเสธมันอีกต่อไปเลยครับ เราควรจะยอมรับความจริงว่าเราไม่สามารถจะจับมือกันเดินไปในเส้นทางเดียวกันได้จริงๆ ทั้งๆที่เราต่างก็เคยคิดว่าเราจะไปด้วยกันได้ ซึ่งในความเป็นจริงเราต่างก็ผิด.. เราผิดตั้งแต่เริ่มต้นด้วยกันทั้งคู่แล้ว .. ยุ่งครับ เราไม่ได้มีกันและกันเพราะความรัก ที่เรามีกันเป็นเพราะความเหงาเท่านั้น ในช่วงเวลาที่เรามีกันและกัน เราเพียงแค่ลบล้างความเหงาให้กันและกันได้เท่านั้น แต่เราไม่เคยเติมเต็มความรักให้กันและกันได้เลย
ผมเองก็เฝ้าถามตัวเองมาตลอด ว่าทำไมผมจึงพยายามยื้อเวลาระหว่างเราให้นานที่สุด คำตอบที่ให้กับตัวเองได้ก็คือ ผมไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตตามลำพังอีกแล้ว .. แต่ถ้าทำแบบนั้นมันคงจะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป.. ยุ่งครับ สำหรับตอนนี้ ตอนที่ผมเขียนจดหมายมาหายุ่ง มันเป็นเวลาที่ผมตัดสินใจได้แล้ว ตัดสินใจที่จะยอมรับความจริงที่ว่า "เราไม่ใช่กันและกัน" .. มันคงถึงเวลาแล้วล่ะครับ ที่เราจะปล่อยหัวใจและความรู้สึกของเราทั้งสองคนเป็นอิสระจากการผูกมัดของเส้นใยความเหงาของกันและกันเสียที..
ลำบากใจเหมือนกันนะ ที่จะบอกว่า "เราแยกจากกันเถอะ" แต่ในเมื่อทั้งผมและยุ่งต่างก็ไม่ใช่คนของกันและกัน เราก็ควรจะปลดปล่อยพันธนาการแห่งความรู้สึกของเรา เพื่อให้มันมีโอกาสได้พบเจอกับใครสักคนหนึ่งที่สามารถเข้ามาเติมเต็มความรู้สึก"รัก" ของเราได้ ซึ่งผมคิดว่าวิธีนี้คงเป็นทางเลือกเดียวที่มีอยู่สำหรับเรา..
ยุ่งครับ ผมขอโทษนะครับที่ผมทำให้ยุ่งน้ำตาหล่นอีกแล้ว.. ผมเองก็รู้สึกไม่แตกต่างจากยุ่งหรอก ต่อไปนี้ทั้งผมและยุ่งคงต้องมีชีวิตอยู่เพียงลำพัง จนกว่าจะพบเจอกับใครคนที่เข้ามาเติมความรักของเราให้เต็ม และลบล้างความเหงาให้หมดไปได้..
ต่อจากนี้ไป ผมคงไม่อาจจะตามไปดูแลยุ่งทุกหนแห่งได้อีกแล้ว ดูแลตัวเองให้ดีนะครับ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่ยุ่งทำให้เกิดขึ้นในวันที่มีเรานะครับ.. ขอบคุณจริงๆ
แล้วก็เป็นอย่างที่ยุ่งคิดจริง กระดาษแผ่นนั้นก็เพิ่มรอยเปื้อนของน้ำตาอีกหลายหยด ยุ่งไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำตาที่มีส่วนผสมของความเหงา ความคิดถึง ความสับสน ความเหว่ว้า และอีกหลายๆความรู้สึก มันคงเป็นความรู้สึกคล้ายๆกับครั้งแรกที่ยุ่งได้อ่านข้อความในจดหมายนี้ล่ะมั้ง..
แต่ถ้าจะถามว่ายุ่งโกรธเขาหรือเปล่า ยุ่งคงตอบว่าไม่โกรธ เพราะในความเป็นจริง เราก็เป็นอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ "เราเพียงแค่ลบล้างความเหงาให้กันและกันได้ แต่เราไม่เคยเติมเต็มความรักให้กันและกันได้เลย" ยุ่งเองก็กล้าที่จะบอกได้ว่า ที่เรารู้จักกัน เราคบกัน เราสนิทกัน เรามีความรู้สึกดีๆให้กัน เกิดความความเหงาเท่านั้น ไม่ใช่"ความรัก" ..
ยุ่งคิดว่า ในเวลาที่เรารู้สึกเหงาเรายังนึกถึงกันบ่อยๆ ก็เพราะเราเป็นคนของความเหงาของกันและกันนี่นะ
ในระหว่างความคิดที่กำลังสับสน ยุ่งก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำลายความเงียบของความรู้สึก
"สวัสดีค่ะ พี่รินเหรอ.. "
ที่ปลายสายอีกด้านหนึ่งคงจับน้ำเสียงที่สั่นเครือได้ ..
"ขอโทษนะคะ ยุ่งขอโทษจริงๆ ที่วันนี้ยุ่งนึกถึงใครบางคนที่ไม่ใช่พี่ริน" ..
ยุ่งพูดปนน้ำตา แต่อีกฝั่งของปลายสายหัวเราะ ..
"พี่ริน ยุ่งเจอจดหมายเก่าๆฉบับหนึ่งน่ะ แล้วยุ่งจะเอาไปให้พี่อ่านนะคะ"
..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... ..... .....
10 เมษายน 2548 22:38 น.
ธารินทร์
" ใต้เงาดวงดาว "
คืนนี้ ผมมานั่งนับดาวกับใครคนหนึ่ง ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมชอบมานั่งนับดาวอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ บางที.. ผมอาจจะรู้สึกชอบมาตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้ ...
........................................................................
" ริน คืนนี้ไปนั่งนับดาวกันนะ อยากไปนั่งเล่นน่ะ " ใครบางคนมักจะชวนผมด้วยประโยคแบบนี้ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยคคำสั่งมากกว่า เพราะผมไม่เคยปฏิเสธได้เลยสักครั้ง ..
ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าดาวดวงนี้ชื่ออะไร ดาวดวงนั้นชื่ออะไร เธอก็คอยชี้ให้ดูแล้วก็บอกชื่อดาวแต่ละดวงให้ผมฟังตลอดเวลา ผมชอบนะ .. ชอบที่จะได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ไม่ได้ชอบดูดาวหรอก
แต่ว่าผมเองก็มักจะหลับไปก่อนทุกครั้ง ทุกครั้งจริงๆ ก็อาศัยตักของเธอนั่นล่ะแทนหมอน เธอเองก็ไม่เคยว่าอะไร ปล่อยให้ผมนอนไปจนถึงรุ่งสาง เธอก็จะสะกิดเบาๆเพื่อปลุกผม
" ริน ริน .. ริน " เสียงนุ่มของเธอมาพร้อมกับการสะกิดปลุก
" หือ .. "
" เช้าแล้วจ้ะ ดาวมันพากันไปหลับกันหมดแล้ว รินเองก็ตื่นได้แล้วน๊า .. "
ผมมักจะอิดออดทุกครั้ง เพราะยังง่วงอยู่ และส่วนใหญ่เธอก็จะปล่อยให้ผมนอนหนุนตักเธอต่ออีกหน่อยจนผมตื่นเอง
" แล้วคืนนี้มานับดาวต่อนะ ยังนับไม่หมดเลย " ก่อนจะกลับ เธอมักจะบอกผมแบบนี้ทุกครั้ง
........................................................................
เฮ้อ .. คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนจะเช้าแล้วเหรอเนี่ย ก็คงจะได้เวลากลับแล้วสินะ
" ยุ่ง ยุ่ง .. ยุ่ง " ผมเรียกชื่อคนที่นอนหนุนตักของผมตอนนี้
" หือ .. "
" เช้าแล้วนะ ดาวมันพากันไปหลับกันหมดแล้ว ยุ่งเองก็ตื่นได้แล้วน๊า .. " ผมพูดด้วยประโยคเดียวกันกับที่ผมได้ยินบ่อยๆ นั่นล่ะ
แล้วยุ่งก็มักจะอิดออดทุกครั้ง ผมก็ปล่อยให้เธอนอนหนุนตักของผมต่อไป จนเธอตื่นขึ้นมาเองนั่นล่ะ เราถึงได้กลับบ้านกัน
" แล้วคืนนี้มานับดาวต่อนะ ยังนับไม่หมดเลย " .. ให้ตายสิ นี่มันก็ประโยคเดียวกันกับที่คนรักเก่าของผมเคยพูดเลย ..
........................................................................
( ภาคต่อ .. )
" ฮึ ที่ชอบมานั่งนับดาวนี่ ก็เพราะคิดถึงแฟนเก่าอยู่นี่เองหรอ "
" เปล่านะ โธ่ ยุ่งก็ .. "
" เปล่าอะไร ก็เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยนี่นา "
" อย่างอนเลยน่า นะ ยังไงตอนนี้รินก็มีแค่ยุ่งคนเดียวล่ะน่า "
" ไม่ได้งอน แต่น้อยใจ คนอะไร มีเราอยู่ทั้งคน แต่กลับไปนึกถึงใครอีกคน "
" เอาล่ะน่า ไม่ต้องน้อยใจไปไหรอกนะครับ ตอนนี้พี่รักยุ่งนะ ไม่ได้รักเค้าแล้วนี่ "
" เอะอะก็บอกว่ารักเรา รักเรา นึกหรอว่าจะเชื่อน่ะ "
" ไม่เชื่อแล้วหน้าแดงทำไมล่ะ แน่ะ แอบยิ้มด้วย เห็นนะ "
" คนบ้า ... "
" ฮะ ฮะ ไม่โกรธแล้วใช่มั้ยครับ "
" ไม่รู้ไม่ชี้ หุ .. หุ"
........................................................................
10 เมษายน 2548 22:30 น.
ธารินทร์
"เอาล่ะ .. เอาเป็นว่าอย่างนี้ก็แล้วกัน"
ครั้งหนึ่ง ..
คุณเคยถามฉันว่า ฉันรักคุณมากแค่ไหน ..
ฉันบอกว่าตอบไม่ได้ ..
เพราะความรักไม่ใช่สิ่งของ
ที่จะนำมาชั่งหรือวัดได้
ความรักมันเป็นแค่ความรู้สึกหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นในบางเสี้ยวของหัวใจเท่านั้น
อีกครั้งหนึ่ง ..
คุณเคยถามฉันว่า ฉันรักคุณมากแค่ไหน
ฉันก็ยังคงบอกว่าตอบไม่ได้ ..
เพราะความรักไม่มีหน่วยวัดที่แน่นอน
จะมากหรือจะน้อย
ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน
ครั้งนี้ ..
คุณก็ยังคงถามฉันว่า ฉันรักคุณแค่ไหน
ครั้งนี้ฉันมีคำตอบให้คุณ
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถนำความรักมาชั่งตวง
ตามมาตราวัดแบบไหนไหนก็ตามเถอะ
แต่ฉันก็พอจะรู้แล้วล่ะ ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน
เอาล่ะ เอาเป็นว่า .. ฉันรักคุณที่สุด .. ก็แล้วกัน ..
10 เมษายน 2548 22:29 น.
ธารินทร์
"ขอบคุณ .. สายลม"
ขอบคุณ .. สายลม
ที่พัดพาความรักมาให้ฉัน
ในช่วงเวลาที่เหมาะสมพอดี
ไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าเกินไป
ทำให้ฉันได้พบเจอ ..
กับความรักที่สวยงาม
ขอบคุณ .. สายลม
ที่พัดพาเธอจากปลายฟ้าแสนไกล
เข้ามาเติมบางสิ่งที่ขาดหาย
และทำให้ฉันมีวันที่สดใส
ทำให้ฉันได้มี ..
ช่วงหนึ่งของชีวิต ที่งดงาม
ขอบคุณ .. สายลม ..
ถ้อยคำในความรู้สึก : ริน 14 ก.พ.
...................................................
ขอบคุณ .. สายลม
ที่พัดพาความรู้สึกดีดีมาให้
เป็นความรู้สึกที่ทำให้หัวใจอบอุ่น
แม้ในค่ำคืนที่ร้าวใจ
ขอบคุณ .. สายลม
ที่พัดพาฉันมาพบเจอกับใครบางคน
ที่ทำให้หัวใจฉันมีความสุข
และพบเจอเจอแต่สิ่งที่สวยงาม
ขอบคุณ .. สายลม
ที่ยังคงพัดพาเสมอเสมอ
ทำให้ฉันรับรู้ถึงความรัก
ที่ใครบางคนส่งมา .. ตามสายลม
ขอบคุณนะ .. สายลม ..
ถ้อยความในห้วงคำนึง : ยุ่ง 14 ก.พ.
10 เมษายน 2548 22:27 น.
ธารินทร์
"ความผูกพันผ่านสายลม"
21 ธ.ค. 25xx ; 08:27 น.
"สวัสดีค่ะ ยุ่งค่ะ"
'สวัสดีครับ"
"อืม ถ้าจะให้เดานะ พี่รินใช่รึเปล่คะ"
"เก่งนี่ จำได้ด้วยเหรอ"
"ก็ไม่ค่อยมีใครโทรมาหาหรอกค่ะ ถ้าจะให้พูดจริงๆก็คือ ไม่มีใครโทรมาหาหรอกค่ะ ไม่ได้ให้เบอร์ใครไว้นี่"
"สบายดีมั้ย ถ้าจะให้เดานะ พี่ว่าคงสบายดี ใช่มั้ย เสียงออกจะสดใสขนาดนี้"
"หุ หุ .. ว่าแต่ว่า หายไปเลยนะพี่รินน่ะ หายเงียบไปเลยนะ ให้เบอร์ไปก็ไม่ยอมโทรมา นี่งอนแล้วรู้มั้ย"
"โธ่ ก็รอให้รู้สึกคิดถึงจริงๆก่อนค่อยโทรมาไง หุ หุ เปล่าหรอก.. ไม่อยากโทรมากวนน่ะ"
"อ่ะ.. รู้มั้ยว่ายุ่งเหงาๆมากๆเลย จะออกไปดุหนังฟังเพลง ก็ไม่มีใครไปด้วย ไปคนเดียวน่าเบื่อ.."
"อ้าว ก็ไหนยุ่งเคยบอกว่าเหงาจนชินแล้วไง"
"ก็..นะ.. ยุ่งก็บอกไปยังงั้นล่ะ ยังไงก็ไม่ค่อยชินกับมันอยู่ดี"
"งั้นไปเที่ยวกับพี่มั้ย พี่จะพาไปงานหนังสือ"
"อ้าว ที่ยุ่งอยากดูน่ะ หนังที่เป็นภาพยนตร์นะคะ ไม่ใช่หนังสือ หุ หุ"
"แหม.. ก็พี่เห็นว่าชอบอ่านหนังสือน่ะสิ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ"
"ไปก็ได้... พี่จะไปวันไหนล่ะ จะได้เตรียมตัวถูก"
"ไปวันนี้ล่ะ อยากเจอหน้าคนขี้เหงาซะหน่อย"
"หุ.. งั้นยุ่งไม่ไปแล้วดีกว่า พี่รินไปคนเดียวเถอะ"
"อ้าว.. งอนอีกแล้ว เดี๋ยวพี่ไปรับตอน 10โมงก็แล้วกันนะครับ"
"ค่ะ มารับเค้าจริงๆนะ"
...................................................................................
3 ม.ค. 25xx ; 18:43 น.
"สวัสดีค่ะ พี่ริน"
"สวัสดีครับ ไม่สบายเหรอ รู้สึกว่าเสียงเหมือนจะเป็นหวัด"
"ก็ประมาณนั้นล่ะค่ะ คนอ่อนแอก็แบบนี้ล่ะ"
"แล้วนี่กินยารึยังล่ะ ไปหาหมอมารึยัง ไปหาหมอมั้ย เดี๋ยวพี่จะไปรับไปส่งเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ กินยาไปแล้วน่ะ เดี๋ยวก็คงหายมั้ง"
"ไม่ต้องมามั้งเลย เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านนะ ไปหาหมอด้วยกัน ห้ามปฏิเสธ นี่คือประโยคคำสั่ง"
"เจ้าค่ะ รีบมาละกันจะมืดแล้ว"
...................................................................................
5 ม.ค. 25xx ; 07:51 น.
"ฮัลโหล ..."
"เป็นไง ค่อยยังชั่วหรือยัง"
"ก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่พาไปหาหมอ"
"ก็เรานี่นะ ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยล่ะ ขนาดเป็นไข้ยังไม่ยอมไปหาหมอ"
"ก็ยุ่งคิดว่ากินยาไปแล้วเดี๋ยวก็หายนี่นา ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ แล้วที่โทรมานี่ โทรมาต่อว่ายุ่งแค่นั้นใช่มั้ย"
"อ้าว.. รู้สึกว่าจะงอนอีกแล้ว งอนเก่งจริงๆเลยนะ"
"แล้วจะทำไมล่ะคะ ยุ่งก็เป็นของยุ่งยังงี้ล่ะ มีอะไรมั้ยล่ะ"
"ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ข้าน้อยมิกล้า"
"หุ หุ .. ว่าแต่โทรมาทำไมแต่เช้าล่ะคะ"
"เปล่าหรอก ก็แค่เป็นห่วงน่ะ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เป็นห่วง อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอกจัง อยากไปดูหนังด้วย"
"ไม่ต้องเลยนะ อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไปให้ ดีมั้ย"
"ไม่ล่ะค่ะ เค้าอยากออกไปข้างนอกน่ะ"
"ไม่ได้ ไม่ได้ รอให้หายก่อนก็แล้วกันนะ แล้วอยากไปไหน พี่จะพาไป แต่ตอนนี้ต้องพักผ่อนก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปหาก็แล้วกัน"
"ค่ะ ค่ะ ค่ะ"
...................................................................................
21 ก.พ. 25xx ; 00:07 น.
"สวัสดีค่ะ"
"ยุ่งหรอ คือว่า พี่มีอะไรจะบอกน่ะ"
"อะไรหรอคะ"
"ก็ จะเริ่มต้นยังไงดีล่ะ ถ้าพี่จะบอกว่า 'พี่ชอบยุ่ง' น่ะ"
"ชอบยุ่งหรอ แล้วชอบยุ่งเรื่องอะไรล่ะ ไม่ดีเลยน๊า.. ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเนี่ย"
"อ้าว เป็นงั้นไป.. หมายถึงชอบคนที่กำลังคุยด้วยอยู่เนี่ย"
"อ๋อ.. หุ หุ .. แล้วคิดยังไงถึงมาชอบยุ่งล่ะ ยุ่งก็แค่ใครคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีความสำคัญกับใครเท่าไหร่"
"เอ๋า.. พี่หาเหตุผลที่จะมาบอกยุ่งว่าทำไมพี่ถึงชอบยุ่งไม่ได้นะ พี่รู้แค่ว่า เวลาที่อยู่ใกล้ๆยุ่ง ได้พูด ได้คุย มันทำให้พี่รู้สึกดีๆ มันเป็นความรู้สึกที่ขาดหายไปนานแล้วน่ะ พี่บอกได้แค่นี้ล่ะ"
"อ๋อ.. หุ หุ .. ให้ยุ่งมาแทนที่ใครบางคนน่ะเองหรอ"
"เปล่านะครับ .. ยุ่งแทนที่ใครคนนั้นไม่ได้หรอก พี่คิดว่าไม่มีใครแทนที่ใครได้หรอกนะ เอ่อ.. พี่จะบอกว่า พี่ไม่เคยคิดจะให้ยุ่งมาแทนที่ใครคนนั้นหรอกนะ ว้า.. บอกยังไงดีล่ะเนี่ย.."
"ค่ะ ค่ะ เข้าใจ หุ หุ .."
"ขยันหัวเราะจังนะ นี่เรื่องซีเรียสน๊า.. ไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ"
"อ้าว.. หุ หุ"
"........"
"ฮัลโหล ทำไมถึงเงียบไปล่ะคะ"
"เปล่าครับ.. แบบว่าตอนนี้พี่รู้สึกโล่งมาก เพราะได้ระบายความรู้สึกที่มีให้ยุ่งรู้หมดแล้ว คราวนี้ก้ได้แต่หวังล่ะ"
"หวังว่ายุ่งจะรับรู้น่ะหรอคะ"
"อืม.."
"ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ ยุ่งรู้ตั้งนานแล้วล่ะ"
"......."
"......."
"แล้วยุ่งรู้สึกยังไงกับพี่ล่ะ บอกได้มั้ยล่ะ"
"เอ่อ.. ยุ่งไม่บอกดีกว่านะ"
"อ้าว.. นิดนึงน่า นะ นะ"
"ไม่กลัวว่าจะผิดหวังหรอคะ"
"เป็นไงเป็นกันสิน่า"
"แหม.. อายจัง แค่นี้ก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ"
...................................................................................
4 มี.ค. 25xx ; 19:04 น.
"สวัสดีครับ"
"เงียบหายไปเลยนะพี่ริน เป็นอะไรรึเปล่าคะ"
"ก็ไม่กล้าโทรไปน่ะ"
"แหม.. ทีแบบนี้ล่ะไม่กล้า แล้วคืนนั้นนึกยังไงมาสารภาพรักล่ะคะ"
"ก็..นะ.. "
"ถามจริงๆ คืนนั้นพี่รินเมารึเปล่าคะ"
"ก็นิดหน่อยนะ แต่ไม่ถึงกับเมาจนจำอะไรไม่ได้หรอก"
"จำได้ด้วยหรอ หุ หุ .. น้ำเน่าดีเน๊าะ"
"พี่ก็ว่างั้นล่ะ หุ หุ ว่าแต่ว่า พี่ยังไม่ได้คำตอบเลยนะ ที่ถามไปเมื่อคืนนั้นน่ะ"
"แน๊ะ.. ยังจำได้อยู่หรอคะ แต่ยังไงยุ่งก็ไม่บอกหรอกนะ หุ หุ"
"เปลี่ยนเรื่องดีกว่านะ ไปดูหนังกันมั้ย"
"อะโห.. ตั้งแต่รู้จักกันนี่ พี่รินยังไม่เคยชวนไปดูหนังเลยนะ"
"ก็สัญญาไว้ตอนนั้นว่า ถ้ายุ่งหายป่วยแล้วจะพาไปดูหนัง แล้วพี่ก็ยังไม่ได้พาไปดูเลย ว่างมั้ยล่ะ"
"หุ หุ .. ยุ่งว่างเสมอล่ะคะ สำหรับพี่รินน่ะ มารับเร็วๆนะ ยุ่งจะรอ"
"ครับ จะไปเดี่ยวนี้เลย"
...................................................................................