25 เมษายน 2555 20:30 น.
ธันวันตรี
พุทธรูปพุทธเลิศล้ำ...........เลอลักษณ์
คู่รัตนโกสินทร์ศักดิ์..........สืบหล้า
งามเพ็ญผ่องเพียงพักตร์...พระพุทธ-รูปฤๅ
ประทับแท่นศิลากล้า.........กล่อมเกล้าชาวสยาม
พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปอันศักดิสิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมือง มาช้านาน มีความวิจิตรงดงาม ดุจวิศวกรจากเมืองสวรรค์เสกสร้าง ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถอันวิจิตรยิ่ง ยากที่จะหาสถานที่ใดในโลกเสมอเสมือน
เราชาวไทยควรจะภาคภูมิใจในศิลปะแห่งแผ่นดิน ที่ฝากไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้บอกเล่าเรื่องราวของแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง
แม้ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของบ้านเรา จะค่อยๆ เลือนหายไป
แต่ความวิจิตรขององค์พระแก้วยังเปล่งแสงมรกต สีเขียวงามแห่งธรรมชาติ บอกเล่าถึงธรรมะอย่างงดงามอยู่เป็นนิรันดร์
ข้าพเจ้าขออาราธนาองค์พระแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดอภิบาลและคุ้มครองทุกท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัย มีชีวิตที่สงบร่มเย็น สาธุ
ด้วยความสงบ ความบริสุทธิ์ และความเมตตา
ૐ ธันวันตรี ૐ
20 เมษายน 2555 13:57 น.
ธันวันตรี
ได้กลิ่นไอกลิ่นหอมจากลอมฟาง
เมื่อฝนตกมาล้างรอยดินแล้ง
หญ้าแทงยอดเขียวงามตามเรี่ยวแรง
รุ้งทอแสงเริงระบำบนท้องนา
แม่ใส่ซิ่นผ้าฝ้ายพาลุยฝน
ได้อาหารเหลือล้นหาบบนบ่า
มีน้ำใจแบ่งปันกันเรื่อยมา
บนนิยามคุณค่าความเพียงพอ
ลอมฟางรวมกองไว้กลางลานดิน
เมื่อวัวควายได้กลิ่นมากินต่อ
ยามเย็นกรูกลับถึงที่ไม่รีรอ
และพาพ่อไปทุ่งทุกรุ่งเช้า
ฝนตกโรยลอมฟางกลางเมษา
กลับไม่หอมโชยมาเหมือนคราเก่า
เหลือร่องรอยประทับใจในวัยเยาว์
เป็นเรื่องเล่าฝากไว้ในแผ่นดิน
ผ่านเทศกาลสงกรานต์ ฝนตกโปรยปรายเหมือนน้ำตาหล่นร่วงมาซับดินแล้ง
ลูกหลานต่างหลั่งไหลเข้าเมืองกรุง เหลือภาพที่มีลูกหลานเต็มบ้าน ให้เป็นเพียงแค่ความทรงจำ
ภาพในอดีตที่พ่อแม่ ลูกหลาน ปู่ย่า ตายาย วัวควาย ต่างตื่นเต้นดีใจเมื่อต้นฤดูฝน ฤดูแห่งอาหาร ฤดูแห่งชีวิตจิตวิญญาณของชาวนา ค่อยๆจางหายไป
ในท่ามกลางสายฝน ข้าพเจ้านั่งเขียนบทกวี และฟังบทเพลงตามรอยพ่ออย่างเงียบๆ สัมผัสถึงความรัก ความห่วงใยของพ่อต่อชาวนาไทย คงไม่มีพระมหากษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้ว ที่ทรงทำนา เกี่ยวข้าว และมีที่นาในบ้านของพระองค์เอง
พ่อแสดงให้เห็นถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สงบสุข เรียบง่าย ตามวิถีแห่งการเกษตร กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ไม่มีความสุขใดจะเทียมเท่าอีกแล้ว
พ่อบอกไม่ให้ลืมบุญคุณของข้าว ไม่ให้ลืมรากเหง้าของบรรพบุรุษ
ในท่ามกลางกระแสวิวัฒน์ กระแสทุนนิยม กระแสวัตถุนิยม กระแสบริโภคนิยม ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา อาจถึงคราวจำเป็นที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกหลาน เห็นคุณค่าของความพอเพียง ตามปณิธานของพ่อหลวง ก่อนที่จิตวิญญาณของชาวนาจะเลือนหายไปจากผืนแผ่นดินอย่างไม่มีวันหวนคืน.
ด้วยความสันโดษ ความเรียบง่าย และความสุข
ૐ ธันวันตรี ૐ
http://www.youtube.com/watch?v=G_VCspibLDY
18 เมษายน 2555 18:52 น.
ธันวันตรี
ณ กระท่อมหลังน้อยๆ
ที่มุ่งด้วยหญ้าสีทอง
มีสวนที่เขียวชอุ่ม กว้างใหญ่
ให้ปู ปลาได้วิ่งเล่นหยอกล้อ
มีการแสดงโอเปร่าจากแมลงปอ
หิ่งห้อยและแมลงน้อยใหญ่ทุกทิวาราตรี
มีวงดนตรีออร์เคสตรา
จากกบเขียด
ที่ร่วมบรรเลงไปพร้อมกับจักจั่น
จิตรกรชื่อก้องโลก
ระบายสีทองบนม่านเมฆ
บัลเล่ต์ข้าวกล้าที่อ่อนช้อยงดงาม
เริงระบำ โอนเอนไหวพลิ้วไปมาตามสายลม
วงดุริยางค์จากสายฝนขับกล่อมให้
นอนหลับบนตักอุ่นๆของมารดา
ณ แผ่นดินถิ่นอิสาน วิถีชีวิตที่เรียบง่ายยังเล่าเรื่องราวมาจนถึงปัจจุบัน ความจริงแล้ว เรามีสิ่งที่มีคุณค่าที่อยู่ใกล้ตัว ที่ไม่ต้องแสวงหามาด้วยทรัพย์ บางคนอาจจะหลงลืม ความเรียบง่ายของท้องทุ่ง ที่ยังคงมอบคุณค่าให้กับผู้มองเห็น ตามวิถีสันโดษแห่งความพอเพียงแต่ดั้งเดิม เพื่อจะได้เป็นคนที่มีความสุขได้ง่ายๆ พอใจในสิ่งที่มี ที่ตนหาได้ตามธรรม ดังคำสอนของพระศาสดา
ด้วยความสันโดษ ความเรียบง่าย และความสุข
ૐ ธันวันตรี ૐ