2 สิงหาคม 2548 23:32 น.
ธรรมาภิวัฏ
ใครเอ๋ยใครเอยรู้บ้างใหม
ใครหนอใครสัมผัสแสงสว่างหน
จุดประกายเปลวกลางทางอันมืดมน
ก้าวตามแสงทุกข์ทนในหนทาง
ให้เปิดหน้าต่างมารับรู้
เปิดประตูสู่ฟ้าในฟ้ากว้าง
หน้าต่างบานใจเปิดให้เบิกบาน
ให้ความงามเจ้าบานดอกไม้รวง
ใครว่ากลิ่นนั้นกลิ่นอันสดสวย
มาโรยรวยหอมรื่นหรือแห่งไหน
ฤาดอกไม้โรยดอกสู่หนใด
ฤาว่าใครทายบอกออกความงาม
คลับกลิ่นอาบอาธรรมกระนั้นหรือ
จะเจือกลิ่นมืดชั่วกระนั้นหนอ
ฤาเจ้ากลิ่นกลิ่นศรัทธรรมที่เคยทอ
มาออบกลิ่นกระนั้นหนอเจ้าศรัทธา
...เจ้าแสงดาวดอกไม้ฟ้า
กลิ่นเจ้าแสงดาวแห่งศรัทธาฤามาสู่
ฤาเป็นเพียงไม้กลิ่นใช่ตรองดู
ฤาดับแล้วเจ้าแสงสู่ศรัทธาเลือน
2 สิงหาคม 2548 22:38 น.
ธรรมาภิวัฏ
สูงส่อเสียดส่งเทียมฟ้า
ต่ำเตี้ยใต้พสุธาหฤเหว
เปลวเทียนชีวีเร้าเผาเปลว
ดับเลวดับสูงเทียมทัน
แม้นเกิดเป็นใหญ่ใต้หล้า
สูงส่งยงค์พยาเกริกศักดิ์
มั่งมีพิบูรณ์พูนทรัพย์
ตายดับบรรลัยไฟเพลิง
หยุดแย่งแข่งขันกันเถิด
หยุดเชิดเปรียบศักดิ์ทับเข้า
หยุดไฟกิเลสราญเร้า
หยุดเศร้าดับหนาอาวร
ติดตัวสิ่งใดไหนบ้าง
กรรมเก่าก่อร่างสร้างผล
กรรมดีกอปรดีพลีตน
คู่คนคู่ฟ้านภาลัย
ฝากไว้เคียงคู่ชีวิต
ลิขิตเพียงว่าอาศัย
อาสัญดับวันบรรลัย
คืนไว้สิ่งใดใฝ่ปอง
2 สิงหาคม 2548 21:54 น.
ธรรมาภิวัฏ
จะก่อปราสาทหาดทราย
จะก่อความหมายความรัก
แม้นคลื่นโถมโทรมโหมซัด
พัดพาความรักพลัดทลาย
ฉันจะรอคอยความหมาย
ความฝันแม้นละลายทรายทะเล
ยังหวังคลื่นลมกล่อมเห่
พัดใจว้าเหว่เร่ครวญ
ฝากฟ้าฝากลมให้หวล
ฝากรักกอบรวมมั่นคง
บรรจงก่อร่างสร้างใหม่
ปราสาททรายปราสาทรักเกิดไซร้
แม้จักทลายไปดั่งเดิม