4 กันยายน 2548 12:05 น.

ลมมีนาฯ 2549

ธรรม ทัพบูรพา

กรอบเหลืองไล่ลามตามลำต้น
หลุดใบคว้างหล่นจนแลลิ่ว
พายุมีนาฯคร่าฉุดปลิว
โหยหิวเร่งร่ายหนอสายลม

ฟ้าครึ้มคนหวังชิงชังฟ้า
ลมบ้าโกรธกริ้วพัดปลิวข่ม
ร้อนผากแห้งรุมสุมอกตรม
ฟ้าล่มเลยหลงคงเพียงพัด

เลือดเนื้อใต้ฟ้ารออ้าปาก
เหงื่อผุดอดอยากยางสาหัส
เหลือบเร้นลุกลามหยามอัตคัด
หลุดพลัดเล่ห์ลวงร่วงกิ่งใบ

ฝาไม้เปรอะฝุ่นกระจกเลือน
มุมปากภาพเปื้อนไม่เคลื่อนไหว
ปลายธูปสั่นเทาน่าเศร้าใจ
หมดไร้ผืนนาลูกล้าแรง

เฆมเคลื่อนเลื่อนใกล้ครืนไกลบ้าน
สิ้นหวังลนลานเดือดดาลแข่ง
ลมร้อนมีนาฯ ล่าสำแดง
มือแห้งกำทราย - หายนะ
.............................................


ปัจุบัน : ผืนดินคือสิ่งเดียวที่อุ้มซับวิถีชีวิตและทำให้เราพอจะมีค่าเมื่อตื่น 
.
แด่ นโยบายส่งเสริม SME แต่ลดการมีที่ดิน

17/03/47
ธรรม ทัพบูรพา				
4 กันยายน 2548 12:00 น.

คำให้การณ์ : คำแพงรุ่นสุดท้าย

ธรรม ทัพบูรพา

หมายเหตุสูญพันธุ์(คำให้การณ์) : คำแพงรุ่นสุดท้าย

เป็นที่ตั้งชนบทชื่ออดอยาก
ภาพซ้ำซากกันดารคือบ้านฉัน
ความลำบากอย่างเราเขาโจษจัน
จนตัวฉันเริ่มเห็น - เช่นคนเมือง

เพาะอำนาจวาสนาตรากฏหมาย
ชนบทห่างไกลคลายทุกข์เขื่อง
นโยบายเศรษฐกิจติดรุ่งเรือง
ขนบฯเมืองครอบคลุมทุกกลุ่มชน

แนวขุมทรัพย์นโยบายขายความคิด
สร้างเครดิตติดบวก - พวกไม่บ่น
ผลักภาระสั่วสั่วพ้นตัวตน
พัฒนาคนจน - ให้หมุนเงิน

อำนาจรัฐติดลบ จะจบสิ้น
หนุนเจ้ามือครองดินกินดับเบิ้ล
แผนโงหัวแบบมะกัน - ฝันให้เพลิน
ฤทธิ์เม็ดเงินมัดใจ - ให้มือตีน

เกิดปัญญาลุกลามข้ามท้องทุ่ง
เบื่อเฝ้ายุ้งบ่ายหน้าหาหนี้สิน
ยุคำแพงแบ่งนา - ค้าที่ดิน
สูบทรัพย์สินดินแม่มาแชร์กัน

ชนบทรถใหม่ - แสงไฟฟ้า
ตั้งขบวนหุยฮานักล่าฝัน
บัดนี้คนหลงทางต่างสูญพันธุ์
ที่เหลือนั้นคิดใหม่ไม่ไถนา
.....


1/มี.ค./47
ธรรม ทัพบูรพา				
4 กันยายน 2548 11:57 น.

งานกวี..ที่รัก

ธรรม ทัพบูรพา

ฉันไม่มีคำครวญอันวิเศษ
ฉันไม่มีญานเดชพอกำแหง
ฉันไม่มีอภิญญาจะสำแดง
ฉันไม่มีเขตแบ่งแห่งตัวตน

ยามฉันจับปากกาหากระดาษ
ฉันเพียรวาดอักษราหาเหตุผล
มองรอบกายฉันมีผู้ทุกข์ทน
ทุกแห่งหนแย่งชิงเพื่อสิ่งรัก

ฉันถ่ายทอดจากใจใช่มารยา
ไม่ได้มีเจตนาจะจมปลัก
หากเส้นทางแห่งชีวิตไม่ผิดนัก
สิ่งที่เรียกอุปสรรคยิ่งท้าทาย

ฉันเฝ้ารอเวลาที่แสนสุข
สงบกลางความทุกข์ที่หลากหลาย
ฉันฝันเห็นงานกวีที่ไม่ตาย
สงบล้อมความหมายที่ควรมี

ฉันไม่มีคำครวญที่วิเศษ
ฉันไม่มีขอบเขตแห่งเฉดสี
ฉันเขียนจากสัมผัสที่ฉันมี
กับสิ่งที่มองเห็นตามเป็นจริง
..........................................

ที่บ้าน				
4 กันยายน 2548 11:54 น.

ลุงแคนแคร่ไม้ไผ่ 2003

ธรรม ทัพบูรพา

นี่นะ ไอ้หลานรัก
ถ้าเอ็งรู้จักเป่าแคน
โป้ก้อยชี้กลางนางแล่น
ลายแคน รอยดิน ถิ่นเฮา

..พ่อกูสอนมา
ปู่ตาเป่ามาแต่เก่า
ลงไร่ไปนา ป่าเลา
วิถีบ้านเฮา มีแคน

..อยู่มาแต่เดิม
ไม่เพิ่มไม่ทุกข์สุขแสน
โป้อุดเป่าสุดสะแนน
กูถึงแดนฟ้า - ป่าดาว

..ฟังดูสิหลาน
สำราญเพลงลมพัดพร้าว (พริ้วผ่าว)
ผ่อนอก หุบหายใจยาว
..กูกล่าวเล่าความทรงจำ

มึงชอบหรือยัง..
เห็นมึงนิ่งฟังชักขำ
กูเห็นแววคุณธรรม
ในกายกรรม - วาจา

เอาเถอะ..ไอ้หลาน
ถ้ามึงต้องการรักษา
กลับเมืองแห่งทุนเงินตรา
ด้วยจิต เมตตา - ดั่งแคน
...................................


(สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ ปี 46)				
4 กันยายน 2548 11:50 น.

ประชาธิปไตยในน้ำเชื่อม

ธรรม ทัพบูรพา

เสียงส่วนใหญ่ล้านเสียงไม่เพียงหรอก
ถ้าจะบอกเป็นเสียงเพียงที่เห็น
ลมมนุษย์ฉุดลาก มากประเด็น
ผู้คิดเล่นพอใจ ไม่อายคิด

คนพูดเท็จมากมาย ในหนึ่งล้าน
เพราะพื้นฐานแห่งใจ ไร้เครดิต
ต่างชิงเปรียบเอาชัย ไร้ญาติมิตร
จะเอาผิดกับใคร ต้องใช้เงิน

หรือจะปั้นธุรวงศ์เป็นพงศ์ญาติ
ให้สิ้นชาติกสิการ แต่นานเนิน
เจนเนอร์เรชั่นใหม่ ใครประเมิน
ว่าส่วนเกินพันธุ์เก่า มันเต่านา

โอ้ ประชาธิปไตย - ในน้ำเชื่อม
สังคมเสื่อมเพียงใด ไว้ชาติหน้า
เพียงวันนี้รสดี ที่เงินตรา
ชงประชาธิปไตย ให้หวานทุน.

.............................................				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรม ทัพบูรพา
Lovings  ธรรม ทัพบูรพา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรม ทัพบูรพา
Lovings  ธรรม ทัพบูรพา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธรรม ทัพบูรพา
Lovings  ธรรม ทัพบูรพา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงธรรม ทัพบูรพา