20 มิถุนายน 2551 19:37 น.

สารถึงนายกรัฐมนตรี-ด่วนที่สุด!

ธมกร

สารถึงนายกรัฐมนตรี - ด่วนที่สุด!
* * * * * * * * * * * *


ถึงคุณ...นายกรัฐมนตรี   
วันนี้ต้องก้าวข้ามความถูกผิด
ก้าวจากวิธีที่เคยคิด
จากทิศวิถีที่เคยทำ

ก้าวจาก "หกตุลา-หนึ่งเก้า"
รอยเท้ามลทินที่เคยถลำ
ด้วยว่าโอกาสสร้างวีรกรรม
พลิกดำเป็นขาวมาถึงคุณ
 
ต้นตอของปัญหาสารพัด
ที่รุมสุมรัฐบาลหุ่น
และรัฐทหารซ่านซุน
กี่รุ่นกี่รัฐคืออะไร

คือพฤติกรรมซ้ำซาก
หน้าฉากหลังฉากไม่เชื่อได้
บ่มเพาะหวาดระแวงแคลงใจ
ก่อไฟสุมขอนนัครา

ไฟนั้นวันนี้...ถึงที่สุด
ไม่หยุดไม่ยอมทุกหย่อมหญ้า
แตกแยกแปลกญาติเป็นอัตรา
เกินกว่าจะเลือกขั้วชั่วดี

คุณและใครใครก็ไม่ผิด
เมื่อต่างคิดในมรรคาของหน้าที่
ฝ่ายไล่ฝ่ายหนุนทุกเวที
ต่างมีชีวิตเป็นเดิมพัน

บ้านเมืองมาถึงทาง...ไร้ทางเลือก
เกลียวเชือกความเป็นชาติใกล้ขาดสะบั้น
นอกจากคุณจะกล้าฝ่าทางตัน
สร้างสันติประชา - นาทีทอง

นั่นคือคุณประกาศ "ลาออก"
จะผลิดอกไม้ขาวโลกพราวผ่อง
บาปจริงหรือบาปใจที่ใครมอง
บุญจะฟ่องกุศลจะฟูขึ้นชูชม

ลงจากหลังเสือไร้ราศี
เถิดนายกรัฐมนตรีของอ้ายกระผม
อัปยศกับเกียรติยศอันแหลมคม
ณ อารมณ์นี้คุณต้องเลือกแล้ว

 
"ธมกร"
ทุ่งสักอาศรม
๒๐ มิย.๕๑
๑๒.๔๙ น.
				
19 มิถุนายน 2551 14:38 น.

เวฬุนารี (เปลื้องผ้าสิสาวน้อย!)

ธมกร

เวฬุนารี[อนงค์วนาอุปการมาตุ]

(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

เปลื้องผ้าสิสาวน้อย.....ขณะนี้มิมีใคร
ไยดีฤดีใส..................บริสุทธิเดียงสา

แม้ธารละหานแห้ง......วนะแกร่งเพราะเธอกล้า
อาบแสงอุษาพา...........รพิกอดตระกองขวัญ

โปรยปลิวละลิ่วลม........สิจะห่มพนมวัน
เผยร่างสะอางอัน.........ยุวรุ่นดรุณศรี

ปลายฝนลุต้นหนาว.......ดุจหนาวมิปรานี
สืบปราณลุผ่านปี...........บมิง่ายฤทัยสม

เหมันต์และคิมหันต์......ขณะผันก็ผ่าวคม
สาวน้อยจะคล้อยตรม....ฤจะเติบประสบการณ์

เหนียมอายกระไรหนอ...วระโฉม ณ แดดฉาน
หล้าภพจะพบพาน..........วิรภาพประทับตรึง

เปลือยหนามและลำนาง..อุทะขังวิเศษซึ้ง
เอื้อออมถนอมถึง............สุวสันตวรรษา

ผ้าใหม่สไบเขียว............สิจะเกี้ยววิโลกา
เรียวก้านสุกานดา..........จะประดับฤดีแดน

ฝนดินฤดูดอน...............ทุระซ่อนวิบากแสน
ขวัญเวฬุแร้นแค้น.........ดลเกียรติฤดูกรรม

รักเธอและศรัทธา..........วนะนาริเลิศล้ำ
หลงทางและขาดน้ำ.........บมิตายเพราะปล้องน้อย

ธมกร(ศิวกานท์ ปทุมสูติ)				
18 มิถุนายน 2551 21:49 น.

เหลวไหล

ธมกร

หากเรายังรักกันอยู่
หากบางครั้งฉันและเธอ...เผลออารมณ์
อ่านบทกวีนี้สิ...

เหลวไหล


ทะเลาะกันทำไมก็ไม่รู้

ทั้งที่อยู่กับรักไม่พรากได้

เอาคำพิษแทนคำเพราะกร่อนเซาะใจ

ช่างเหลวไหลพอกันฉันและเธอ


ศิวกานท์ ปทุมสูติ				
16 มิถุนายน 2551 21:15 น.

ขออภัยจากใจจริง

ธมกร

ขออภัยจากใจจริง

     ทำไมผมไม่ออกไปอาบทุกข์
รบรุกกับพี่น้องในท้องถนน
เพราะผมเห็นชัยชนะไม่คงทน
สิบสี่ตุลาประชาชน...ได้บทเรียน

     กระทั่งยุคเลือกพรรคต้องยุบพัง
เลือกข้างกันกี่ครั้งไม่เคยเปลี่ยน
ทุกคอกเสือเนื้อเน่าอยู่เนาเนียน
มิอาจเขียนมโนคติจากโคลนตม

    ผมมิไว้ใจรักสักพรรคเดียว
เพราะรู้เขี้ยวเห็นเล็บมันเสพสม
ไม่อาจร่อนพัชราในอาจม
จึงเลือกทางสร้างสังคมและรอคอย

    ขออภัยแม้รักมิตรสนิทญาติ
ยังไม่ออกไปร่วมบาทวิถีถ้อย
วถีเหงื่อเรื่อแรง...จักแฝงรอย
สู่รากฝอยรากแก้วของแผ่นดิน

    ออกจาริกวรรณกรรมดื่มด่ำธุดงค์
เพื่อปักธง ปัญญาธรรม ทุกภาคถิ่น
เพราะเชื่อว่าถ้านกกระจาบไม่พร้อมบิน
มิอาจดิ้นพ้นข่ายของนายพราน

    ขอโทษมิตรพี่น้องในท้องถนน
ต้องแยกทัพจับประจญคนละด้าน
ขอให้จิตสะอาดกวาดเรือนชาน
บรรลุสมอุดมการณ์อันยั่งยืน

                        "ธมกร"
                      ทุ่งสักอาศรม				
14 มิถุนายน 2551 09:55 น.

ความรัก...(มิใช่จบที่เตียงนอน)

ธมกร


   ความรักมิใช่เรื่องน่ารังเกียจ		
หากรู้เจียดหัวใจให้เหมาะสม
มิให้รักชักพาเผลออารมณ์		
จนเกินข่มความใคร่ก่อนวัยงาม

   ความรักมิใช่เหตุเทวษทุกข์		
ถ้ามิชั่วชิงสุกเสียก่อนห่าม
ถ้ารู้จักพิทักษ์ไฟมิให้ลาม		
รักจะพาฝ่าข้ามขวากหนามร้าย

   ความรักมิใช่จบที่เตียงนอน		
แต่จะเอื้ออาทรซ่อนความหมาย
เพียงบุปผาค่าคุณกรุ่นกำจาย		
ถ้ามิด่วนทำลายก่อนเวลา

   ความรักมิใช่ของทดลองเลือก		
เบื่อก็ถอดเช่นเกือกแล้วซอกหา
ความสำส่อนใช่ทักษะเสริมชีวา		
ราคะใช่ราคาของชีวิต

   หนุ่มเอย  สาวเอย  เพิ่งเคยรัก	
จงค่อยฟูมค่อยฟักให้ศักดิ์สิทธิ์
อย่าให้สติปัญญาเธอมืดมิด		
เชื่อว่ารักจักวิจิตร  ทุกดวงใจ


ศิวกานท์ ปทุมสูติ
ปีที่เขียน ๒๕๔๖				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟธมกร
Lovings  ธมกร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงธมกร