3 กรกฎาคม 2551 20:20 น.
ธ.ปฏิยุทธ์
ทรมานทรมานทรมาน
โง่ดักดานคิดคิดแล้วใจหาย
บรรจงเค้นหัวสมองปานตรอมตาย
คิดหลากหลาย คิดไม่ได้...ทำไม?..งง
แต่ก่อนคิดเค้นหาปัญญาแจ่ม
ยิ้มแฉล้มพายุร้ายไร้พิษสง
ตรองความคิดสมาธิยิ่งมั่นคง
นิ่งประจงเดินหน้าสง่างาม
แต่ตอนนี้ความคิดมันตันตื้น
ยิ่งคิดฝืนฝืนคิดจิตเป็นสาม
เดี๋ยวคิดนั่นเห็นเป็นนี่ไปตามความ
พลันข้อคิดก็ลามไปห่างไกล
อยากมีเพื่อนคู่คิดมิได้ห่าง
เดินเคียงคู่ไปตามทางคอยชิดใกล้
แม้ตันคิดแต่ซึ้งจิตสนิทใจ
คอยเพียง"ใคร"เพียงหนึ่งให้พึ่งกัน
12 พฤษภาคม 2551 14:53 น.
ธ.ปฏิยุทธ์
ทรมานความคิดบรรจงออก
ละเลียดหลอกหัวใจใช้สมอง
คิดคิดคิดแต่ยากเย็นเข็นตระกอง
รวบรวมมองมุมด้านที่บอดตา
เขม่นตากระพริบพร่าให้มองเห็น
ใจเย็นเย็นมองผ่านไปบนฟ้า
ส่งสายตาอ้อนวอนท้องนภา
แปลลีลาเมฆเคลื่อนละเลื่อนลอย
ยะเหยียบใจให้เย็นระลึกนิ่ง
บอกหัวใจให้เย็นยิ่งใจยิ่งถอย
ยิ่งคิดยิ่งเห็นทางตันอยู่สุดซอย
เพ่งตาคอยให้แสงหนึ่งถึงสายตา
ตัดสินใจมองฟ้าอีกสักครั้ง
ส่งปานสั่งช่วยข้าเถิดฟ้าหนอฟ้า
แลเห็นขอบกำแพงสุดสายตา
เหลืออย่างเดียวแค่เพียงแค่ขาข้ามผ่านไป
แม้ยังผ่านมิได้ดั่งใจหวัง
คิดคำตอบเพียงลำพังสว่างไสว
จะไม่ล้มความคิดอันตั้งใจ
คิดอย่างเดียว"กูทำได้"เท่านั้นพอ..
21 เมษายน 2551 18:32 น.
ธ.ปฏิยุทธ์
วันดีดีที่เราอยู่ด้วยกัน
ไม่อยากให้เป็นความฝัน
อยากให้เรารักกันอยู่อย่างนี้
สัญญาได้ไหมว่าจะอยู่ด้วยรักและหวังดี
และต่อแต่นี้จะรักฉันคนเดียวคนนี้
ตลอดไป
เวลา
อาจพรากสิ่งที่แล้วมาให้พัดผ่านไปได้
แต่รักเรามิว่าจะมีลมแรง
มาพัดพาไปเช่นไร
เราสองจะจับมือและยืนหยัดสู้ไป
กว่าพายุจะคลาย
สัญญาสิที่รัก
ว่าจะไม่มีสิ่งใดมาหาญหักเราลงได้
ยอมเพียงสิ่งเดียวที่จะมาพลัดพราก
ให้เราจากกันไกล
คือ ความตาย เท่านั้นเพียงสิ่งเดียว จริง ๆ
21 เมษายน 2551 18:13 น.
ธ.ปฏิยุทธ์
กอดเธอ....
ใจยังคงพร่ำเพร้อ
คิดถึงแต่เธออยู่อย่างนั้น
โอบกอดเธอ โอบกอดความรัก
ในเวลาที่เรามีกัน
แม้ต่อแต่นี้จะเป็นเพียงความฝัน
ที่ค่อยเลือนไป
โอบกอดฟ้า
ในห้วงเวลาที่มิอาจรู้ว่า
เธออยู่แห่งไหน
จินตนาการกอดตัวเอง
เหมือนได้กอดเธอที่ปลายฟ้าไกล
ก็ยังคงพออบอุ่นอยู่ในหัวใจ
แม้ไร้เธอ
คิดถึง
ใจยังคงคำนึงไปสู่อีกฟ้าหนึ่งอยู่เสมอ
หวังว่าสายลมจะพัดหอบ
ห้วงคำนึงนี้ไปถึงเธอ
และช่วยแปลความรู้สึก
ว่ารักเธอคนเดียวคนนี้เสมอ..
...ตลอดไป...
13 มีนาคม 2551 14:28 น.
ธ.ปฏิยุทธ์
ในน้ำที่ขุ่นข้น เป็นวังวนระคนฑูต
น้ำเสียแลเน่าบูด มองไร้ค่าล้วนอาจม
พลวนคราคนเข้า กวนเร่งเร้าเฝ้าขื่นขม
ยิ่งขุ่นยิ่งระทม อาจมขุ่นคราน้ำวน
ยิ่งวนยิ่งพาวุ่น อาจมขุ่นคละเข้มข้น
เหม็นออกนอกขอบบน ยิ่งยลเห็นเหม็นสายตา
เพียงพักน้ำค่อยนิ่ง อาจมวิ่งค่อยลดรา
ตกใต้ในธารา เห็นน้ำใสไหลหยาดเย็น
น้ำเน่าคือน้ำเน่า แม้มิเท่าครามองเห็น
จับต้องสัมผัสเย็น แต่ใต้เป็นของจัญไร
คราวุ่นอลหม่าน ใสมินานก็ขุ่นได้
อาจมเคยตกไป กวนขึ้นใหม่ก็อาจม
จิตใจไร้สำนึก จมไม่ลึกและสะสม
กวนวุ่นเฉกอาจม ปรากฏชัดกระจ่างใจ
เหม็นเน่าในความคิด มันฝังจิตมิกษัย
อาจม...อาจมใด อาจมใจมิหายจาง.