27 พฤศจิกายน 2548 23:28 น.
ท่องเมฆา
กราบหลวงปู่สอนสั่งนั่งสมาธิ
จะเลิกริเรื่องรักมักสับสน
มองฟ้าให้กว้างกว้างอย่างอดทน
ไม่ร้อนรนไม่เพ่งจ้องมองเบาเบา
ใช้ใจมองให้เห็นเป็นฟ้ากว้าง
เปลี่ยนภาพจางเป็นแจ่มชัดไม่อับเฉา
ฟ้าสีขาวสว่างจ้าท้าใจเรา
แล้วจึงเอาจิตมองรอบฟ้าครอบดิน
มองเห็นภาพตนนั่งอยู่บนพื้น
ดินเรียบลื่นจรดฟ้าปราศโขดหิน
ท้องฟ้ากว้างใจกว้างกว่าไร้ราคิน
"ฟ้าจรดดิน" มองเห็นชัดวัดใจกัน
จิตสงบนิ่งตั้งมั่นอยู่กลางอก
ไร้เรื่องรกจิตใจไม่หวาดหวั่น
ความรู้จิตรู้ทั่วฟ้าท้าแสงตะวัน
ไร้สิ่งอันปกปิดมืดมิดมัว
ฟ้าที่เห็นคือฟ้านี้ใช่หรือไม่
กล้าเปิดใจมุ่งตามหยุดความสลัว
ทำได้ไหมก้าวออกมาท้าความกลัว
ความมัวซัว...จะสว่างจ้า...ฟ้าเดียวกัน
22 พฤศจิกายน 2548 16:37 น.
ท่องเมฆา
ความรักเธอคืออะไรนะดอกไม้
ฟังคล้ายคล้ายคำพ้อรอแสงฉาย
ยามอรุณรุ่งแจ้งแสงแพรวพราย
เจ้าก็ชายตามองจ้องตะวัน
ยามพระพายโบกโบยลมโชยพัด
เจ้าก็กวัดกิ่งใบเพรียกร้องเรียกฝัน
ปล่อยน้ำค้างที่เกาะเจ้าเคล้าแสงจันทร์
ทิ้งตัวพลันร่วงหล่นบนผืนดิน
ยามเจ้าเงยขึ้นมองบนท้องฟ้า
คือมองหาสุริยันที่ผันผิน
ยามสายัณต์สุริยาลาลับดิน
หวังพังภิณท์กับขอบฟ้าจำลาไกล
กี่ความหวังพลั้งพลาดเธอวาดฝัน
ปีเดือนวันผ่านไป..มิสดใส
ทานอะไรก็ไม่ทนทานน้ำใจ
ทานตะวัน..ธารน้ำใจ..ใยต้องทน..นะคนดี
17 พฤศจิกายน 2548 13:41 น.
ท่องเมฆา
เมื่อวานนี้ไปเหนือเขื่อนหาเพื่อนเก่า
อยากจะเอาแพล่องต้องเดือนฉาย
แสงจันทร์นวลชวนฝันพรรณราย
ระยิบพรายระยับพราวคราวคืนเพ็ญ
แพน้อยน้อยลอยวนบนผิวคลื่น
ไม่อยากตื่นหลับตาฝันเมื่อพลันเห็น
จันทร์กลมนวลชวนใจไร้ลำเค็ญ
แสงโสมเย็นสาดสบกระทบใจ
เหนือเขื่อนนี้มีความหลังครั้งเก่าก่อน
คราวร้าวรอนจากรวิวรรณที่หลงใหล
จากเจ้ามาสู่ป่าเขาลำเนาไพร
หนทางไกลเจ้าจึงพรากต้องจากกัน
ผืนน้ำกว้างแต่ใจอ้างว้างกว่า
เย็นธาราเยือกดวงจิตคิดโศกศัลย์
สะทกคลื่นสะท้อนครวญหวนจาบัลย์
ระลึกวันรวิหวานรานร้าวทรวง
รวิร่วงลับฟ้าจำลาจาก
ศศิพรากในคืนผ่องต้องแดนสรวง
ดาราเจ้าจากไกลไร้คู่ควง
ฟ้าจะทวงสัญญาใจจากใครดี
ค่ำคืนเพ็ญเหนือเขื่อนกับเพื่อนยาก
คำลาจากบอกลำเค็ญเพ็ญผ่องศรี
แพน้อยน้อยลอยวนบนวารี
ดุจชีวีต้องลอยวน..บนรอยกรรม
15 พฤศจิกายน 2548 11:15 น.
ท่องเมฆา
แสงจันทร์นวลผ่องสาดส่องฟ้า
จันทราแจ่มใจอยู่ในฝัน
หลับตาหนใดเหมือนใกล้กัน
บุหลันลอยเลื่อนมาเตือนใจ
รัศมีศศิสบกระทบผิว
คลื่นน้อยคล้อยลิ่วระริกไหว
ใจฟ้าเคลื่อนคล้อยลอยตามไป
คลื่นใจคลื่นจริงวิ่งลอยลม
เพ็ญนี้ไร้เพื่อนเดือนสิบสอง
หมายปองเดือนเด่นไม่เห็นสม
อธิษฐานด้วยจิตคิดตรอมตรม
ขื่นขมขัดข้องคงต้องลา
ใบตองต้นกล้วยมาประดิษฐ์
ดอกไม้เรียงชิดเทียนแพหนา
มะลิดาวเรืองปทุมา
จิตฟ้าบรรจง..กระทงใจ
จุดไฟลอยน้ำตามประทีป
มิเร่งมิรีบมิหลงใหล
ค่อยค่อยคอยส่ง..กระทงใจ
ตราบจนคลาไคลสุดสายตา
กระทงจงนำดวงดอกไม้
เคลื่อนไปทะเลที่ข้างหน้า
ธูปเทียนจุดไฟด้วยเจตนา
บูชาคารวะ..พระอุปคุต