28 กุมภาพันธ์ 2552 18:41 น.

ท่องกวี ที่ ล้านนา

ท่องกวี


กลับจากเมืองเจียงใหม่อาลัยรัก
เมื่อประจักษ์มนต์ขลังแดนฝั่งเหนือ
ใช่ว่าเจอะสาวงามตามจุนเจือ
ที่หนุ่มเชื่อเล่าขานมานานนม

ก็ชื่นชมรูปนามเจ้างามแต้
นั่นเพียงแค่ส่วนหนึ่งดึงเสพสม
ไม่ถึงเสี้ยวมนตราน่าภิรม
เอกลักษณ์นิยมช่างกลมเกลียว

แหล่งท่องเที่ยวสวยงามอารามเด่น
แลมองเห็นแปลกตาชวนพาเที่ยว
ดอยสุเทพพระธาตุประหลาดเชียว
บนเขาเขียวเทียมเมฆเหมือนเสกมา

ท่านครูบาศรีวิชัยทำไงหนอ ?
สามารถก่ออารามงามเทียมฟ้า
สมัยก่อนลำบากยากคณา
รกชัฏป่าไพรวัลอันตราย

โมทนาถวายปัจจัยหนุน
สมทบทุนร่วมด้วยช่วยขวนขวาย
บูรณะพระธาตุชาตินี้ตาย
มิเสียดายชื่อว่าสาธุชน

มาหลายหนก็จริงใช่อิงอ้าง
คงเป็นบุญเคยสร้างทางกุศล
ปฏิบัติงานนี้หน้าที่ตน
เหมือนต้องมนต์สั่งการ "ณ ล้านนา"				
15 กุมภาพันธ์ 2552 21:29 น.

"อยากมีคนโทรมาหาจังเลย"

ท่องกวี


จากวันที่เฝ้ารอก็คิดถึง
จากมุมหนึ่งเมืองใหญ่กลิ่นไอเหงา
จากคนนี้มีเพื่อนกลอนบรรเทา
ฝากส่งข่าวจากใจไปถึงเธอ

เหนื่อยไม่น้อยก้มหน้าสู้ฝ่าฟัน
หลายปีผ่านก็ยังหวังเสมอ
ยามเหนื่อยเหงาหัวใจร่ำร้องเจอ
อยากมีเธอโทรมาปลอบใจกัน

อยากมีคนโทรมาหาจังเลย
จะพร่ำเอ่ยให้ฟังทั้งใจนั้น
ว่าตอนนี้มีเงินยืมสักพัน
รับประกันคืนให้ใช้ทันที

อยากมีคนโทรมาหาจังเลย
จะพร่ำเอ่ยให้ฟังหวังกู้หนี้
หากอ่านกลอนโปรดจำให้ดี
ศูนย์แปดสี่ห้าสองตองสามแล

จากวันที่เฝ้ารอพอมีไหม ?
สาวคนใดเมตตากล้าโทรแท้
ถึงอยู่ไกลเกินเอื้อมมือเทคแคร์
ก็ดูแลด้วยการกดเบอร์หากัน ฯ


คำเตือน*: คนที่เป็นหนี้อยู่แล้ว  ไม่ควรอ่านเกินสองรอบ				
12 กุมภาพันธ์ 2552 23:54 น.

เดือนหายดาวเหงา

ท่องกวี


คำคืนนี้ไม่มีแม้สีแสง
ของเดือนแล้งน้ำใจมาให้เห็น
มีแต่เมฆความหลังปิดบังเลน
ดาวลำเค็ญมืดมิดทุกทิศทาง

เมื่อเธอร่างเหตุผลอับจนรัก
เรามิจักอยู่ร่วมกำกวมอ้าง
ฝืนยิ้มสู้แสแสร้งแกล้งปล่อยวาง
ซ่อนรักร่มอับปางจมกลางใจ

คืนนี้ไม่มีเดือนเหมือนก่อนเก่า
เหลือแต่เงารักหลอนดาวนอนไข้
ภาพเธอยืนตรงนั้นหันมองไป
รู้สึกได้ไออุ่นคนคุ้นเคย

หมอนนุ่มเกยคอหนุนยังอุ่นอยู่
เสื้อในตู้ตัวเก่าเจ้าเอื้อนเอ่ย
ให้พี่เก็บรักษาอย่าทิ้งเลย
คล้ายจะเปรยเงื่อนงำว่าทำไม

เดือนจากไปไกลลับดาวอับแสง
หมดเรียวแรงอ่อนล้าน้ำตาไหล
เพราะเธอคือความหวังพลังใจ
เหนื่อยมากไหมคอยถามทุกยามมา

เดือนจากลานานแล้วไร้แววหวน
ดาวคร่ำครวญคิดถึงรำพึงหา
ยอมจ่อมจมความหลังรัก"ขังคา"
เพื่อช่วยต่อชะตารักษาใจ

พี่คงไม่แตกต่างระหว่างดาว
บนกางหาวคืนนี้หม่นสีใส
มีแต่เมฆมืดบังมองทางใด
เดือนก็ไม่ปรากฏแสงชดเชย ฯ
				
12 กุมภาพันธ์ 2552 12:26 น.

เหนื่อยนักพักสักหน่อย

ท่องกวี


หากเหนื่อยล้าเต็มที่กับชีวิต
ควรหยุดคิดตั้งหลักพักสักหน่อย
อย่าสับสนคนเดียวเหี่ยวใจลอย
นั่งเอ่ยถ้อยร้อยคำพร่ำอ่อนแอ

ถึงเคยแพ้ผิดหวังหรือพลั้งพลาด
แทบใจขาดคืนวันผูกพันแผล
เป็นบทเรียนล้ำค่าอย่างอแง
ว่าเรียวแส้สังคมจมชีวิน

ทั่วทุกถิ่นมนุษย์ผุดผ่องใส
หรือหมองไหม้พ่ายแพ้แทบแดดิ้น
มีต้นสายปลายเหตุเภทราคิน
ควรถวิลค้นหาศึกษาใจ

อย่าอาลัยเว้าวอนมัวออนล้า
ดั่งวิญาณ์ถูกสับแตกดับไหม้
รู้เท่าทันตัวเองฝึกเพ่งใจ
สาเหตุใดให้เราเหงาวกวน

เหมือนลมหนาวพัดมาไร้ผ้าห่ม
นอนระทมหวาบหวิวสยิวขน
อุปมามองเห็นเฉกเช่นคน
ไม่ฝึกฝนค้นคิดชีวิตพัง

คงต้องนั่งบรรเลงบทเพลงกลุ้ม
กิเลสสุ่มรุมเร้าเศร้าสิ้นหวัง
คลื่นความทุกข์จุกเสียดเครียดลำพัง
เหมือนเมฆบังแสงส่องต้องเดียวดาย

อย่าได้เป็นเช่นคำนำเสนอ
ขอท่านเจอแต่สุขทุกข์จางหาย
ด้วยบทเรียนผิดพลาดวาดลวดลาย
ฝากตบท้ายสรุป"ชุบชีวิน"  ฯ
				
11 กุมภาพันธ์ 2552 08:46 น.

เรือนจำใจ

ท่องกวี

เหมือนว่าเป็นผู้ร้ายหมายศาลฟ้อง
หมดสิทธิ์ร้องอุธรออดอ้อนขอ
รักที่ต้องหักห้ามเหล็กดามรอ
อยู่แดนสี่ห้องหอเรือนจำใจ

เพราะว่าเธอนั้นมีชายที่รัก
คอยฟูมฟักมิห่างปล่อยวางไพ่
เอกโพนางของตนทิ้งโยนไป
เพื่อมอบให้ชายอื่นหวังชื่นชม

ใจซานซมจองจำต้องคำสาป
ตีตราบาปทัณฑ์บนทนขื่นขม
รักคนมีเจ้าของต้องระทม
จูบเพียงลมห่มฟ้าแหงนหน้ามอง

คดีพร่องศีลห้าอาญาสิทธิ์
รู้ว่าผิดใจยังหวังเรียกร้อง
เป็นเพียงแค่กระต่ายหมายจันทร์มอง
หวังครอบครองจันทราบนฟ้าไกล

เรือนจำใจนักโทษชายโสดรัก
หวังสาวจักเมตตามาช่วยไถ่
ณ เรือนกลอนแห่งนี้เผื่อมีใคร
หยิบยื่นให้ประกันการันตี

สวัสดียามเช้าเพิ่งเข้าใหม่
ขอฝากตัวฝากใจในท้องที่
ท่านผู้คุม,เพื่อนพ้องท่องกวี
เด็กคนนี้ใสซื่ออย่าถือความ ฯ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องกวี
Lovings  ท่องกวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องกวี
Lovings  ท่องกวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องกวี
Lovings  ท่องกวี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงท่องกวี