19 มกราคม 2553 01:59 น.
ทิวไม้
จากดินสอแท่งยาวและเหลาแหลม
เกินมือน้อยจะกุมแกมนะแก้มอ่อน
ครูช่วยจับบังคับเส้นทั้งเอนนอน
เจ้าจงผ่อนแรงไหลไปตามครู
ค่อยบรรจงฝึกหัดคัดลายเส้น
กว่าจะเป็นกอขอและนอหนู
กว่าจะต่อกอกาและปลาปู
กว่าที่ครูจะป้อนยาและพานอน
เปียตะขาบคู่นี้ที่ครูถัก
เจ้าน่ารักไหว้สวยด้วยครูสอน
กระพุ่มมือก้มตัวจนหัวคลอน
หน้าสลอนเงียบนั่งฟังนิทาน
เมื่อต้นกล้าเติบใหญ่ด้วยใบกิ่ง
ต้นตรงดิ่งแน่นหนักเป็นหลักฐาน
สะพรั่งใบผลดอกออกตระการ
ความปิติก็ผลิบานเต็มลานใจ
จากดินสอแท่งยาวค่อยเหลาสั้น
ก็รังสรรค์ปัญญาจนกล้าใหญ่
จงมุ่งหน้าสู่ฝันอันวิไล
น้ำตาครูที่ไหลคือยินดี
.............................................
ครูขา
หนูจำดินสอแท่งนั้นได้
มันยาวเกินไปจริง ๆ ค่ะ
แต่ครูก็จับมือหนูเขียน ก ข
นานวันไปดินสอมันก็สั้นลง ๆ
แต่ว่าหนูตัวสูงขึ้น ๆ
พร้อมทั้งมีสติปัญญาสูงขึ้น
แต่หนูก็ไม่ลืมคุณครูกับดินสอแท่งแรก
หนูอยากบอกว่า ขอขอบพระคุณคุณครู
ที่ทำให้หนูมีวันนี้ หนูรักคุณครูค่ะ
ครูกระดาษทราย
6 มกราคม 2553 11:25 น.
ทิวไม้
เคยชูช่อล้อลมให้ชมชื่น
เคยหยิบยื่นรอยยิ้มประพิมพ์ใส
แด่เพื่อนผองน้องพี่ทุกทีไป
ด้วยจิตใจใสอย่างน้ำค้างดอย
เป็นกล้วยไม้เมืองกรุงจรุงกลิ่น
เป็นแม่ไม้เพลงพิณระบิลถ้อย
เป็นบังใบ ไส้พระจันทร์ บุหลันลอย
เป็นไทยน้อย โยสลัม แสนคำนึง
เจ้าห่างเหินเดินหายกับสายหมอก
ไร้ดวงดอกออกไสวให้คิดถึง
ส่งคำถ้อยร้อยเรียงเพียงรำพึง
ด้วยหวังหนึ่งเพียงเจ้าจักเข้าใจ
" จะบิณฑบาตรกาญจน์บุรีศรีสุพรรณ
ให้พบขวัญตาพี่ให้จงได้
จำจะเขียนเพลงยาวติดเอาไป
สมคะเนก็จะให้เสียทีเดียว " (ไส้พระจันทร์-ขุนช้างขุนแผน)
................................